เรื่องการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดเส้นทางของการเดินทางถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจสำหรับผู้ใช้รถทุกคน ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดนอกจากเครื่องยนต์ก็คือความสมบูรณ์ของ ยางรถยนต์ เพื่อจะได้ขับเคลื่อนถึงที่หมายอย่างราบรื่น แต่ถ้าหากระหว่างการขับขี่ต้องประสบปัญหา ยางรถ รั่ว หรือยางแบนก็ไม่ต้องตื่นตกใจไป วันนี้เราได้นำความรู้เรื่อง วิธีปะยางรถยนต์ มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไรบ้างมาฝากกัน
ปัญหายางรถยนต์รั่วแบนสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ใช้รถทุกคน ซึ่งวิธีการแก้ไขที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพและนิยมใช้กันมาก นั่นก็คือการ
ปะยางรถยนต์ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ดังนี้
วิธีปะยางรถยนต์ แบบแทงไหม ถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหา ยางรถ รั่วที่เร็วและง่าย ด้วยการนำวัสดุหรือสิ่งแปลกปลอมที่ทิ่มเข้าไปในเนื้อยางจนเป็นสาเหตุทำให้ยางรั่วออกมา จากนั้นให้นำอุปกรณ์ในการปะยางแบบแทงไหมออกมาซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยให้นำอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแท่งยาวมาแทงรูที่รั่วเพื่อขยายรูรั่วให้กว้างขึ้นแล้วนำใยไหมแทงซ้ำเข้าไปเพื่ออุดรูรั่วให้มิด สุดท้ายจึงใช้กรรไกรตัดส่วนที่ยื่นออกมาเท่านี้ก็เรียบร้อย เพียงแต่วิธีการนี้ช่วยให้ยังขับรถต่อไปได้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะถึงร้านปะยางเท่านั้นเพราะมีโอกาสอย่างมากที่ลมยางจะเกิดการรั่วซ้ำในจุดเดิม และวิธีการนี้นิยมใช้กับรถจักรยานยนต์มากกว่าเนื่องจากไม่จำเป็นต้องถอดยางออกจากล้อ
การปะยางแบบสตรีมร้อน เป็นแนวทางแก้ไขปัญหายางรั่วที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่งเพราะเป็นการอุดรอยรั่วจากด้านในของยางรถยนต์โดยตรง โดยการถอดยางออกมาแล้วแปะแผ่นยางขนาดเล็กไว้ตรงรอยรั่ว จากนั้นใช้เครื่องกดความร้อนช่วยสมานแผลยางรั่วให้ยางรถกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือเป็นวิธีการ ปะยางรถยนต์ ที่ช่วยให้ยางรถเกิดความทนทานไปจนหมดสภาพการใช้งานได้มากกว่าการปะยางแบบแทงใยไหม แต่ข้อเสียคือจะทำให้เนื้อยางส่วนที่ทำการสตรีมร้อนมีความแข็งและมีโอกาสเกิดยางบวมได้ในอนาคต
การ ปะยางรถยนต์ แบบสตรีมเย็น เป็นการแก้ไขปัญหายางรั่วคล้ายกับการปะยางแบบสตรีมร้อน ซึ่งเป็นการอุดรอยรั่วของยางรถยนต์จากข้างในเหมือนกัน โดยหลังจากถอดยางออกมาจะมีการขัดผิวยางรอบ ๆ รอยรั่วให้สากเสียก่อน จากนั้นจึงทากาวชนิดพิเศษลงไปแล้วนำแผ่นยางขนาดพอเหมาะวางทับรอยรั่วก่อนจะทุบให้แผ่นยางอุดรอยรั่วแนบติดกับยางรถยนต์ วิธีนี้มีข้อดีคือช่วยให้ยางเกิดความทนทานไปจนหมดสภาพการใช้งานเหมือนวิธีสตรีมร้อนและไม่ส่งผลต่อโครงสร้างของยางด้วย แต่ไม่เหมาะกับรถที่บรรทุกหนักและยังทนความร้อนได้ต่ำ
ทั้งหมดนี้คือ วิธีปะยางรถยนต์ ที่คนใช้รถทุกคนควรมีความรู้ติดตัวไว้กรณีเกิดปัญหายางรั่วระหว่างการขับขี่ แต่หากยางรถฉีกขาดบริเวณหน้ายางหรือแก้มยางเป็นรอยยาวแนะนำให้เปลี่ยนยางใหม่เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรฝืนปะยางแล้วใช้งานยางต่อ และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับยางรถยนต์แนะนำให้มั่นสังเกตและตรวจเช็กสภาพยางอยู่เสมอ หากต้องการเรียนรู้ปัญหาเกี่ยวกับยางรถยนต์ รวมไปถึง
ยางกินใน และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้ที่ website ยางรถยนต์ Bridgestone