[Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป(อ่าน 673332 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

813.เหรียญรุ่นแรก พิมพ์ครึ่งองค์  หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต วัดขนาย จ.สุราษฎร์ธานี ฝาบาตร กะไหล่ทอง สวยๆ 1,200- ปิดท่านJ999
นิยมมากในพื้นที่ และลูกศิษย์ต่างประเทศ มีประสบการณ์ พระเกจิชื่อดังอันดับ1 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในตอนนี้ครับ ในพื้นที่แพงกว่านี้มากครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2018, 11:24:38 AM โดย thesun »



813.เหรียญรุ่นแรก พิมพ์ครึ่งองค์  หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต วัดขนาย จ.สุราษฎร์ธานี ฝาบาตร กะไหล่ทอง สวยๆ 1,200-
นิยมมากในพื้นที่ และลูกศิษย์ต่างประเทศ มีประสบการณ์ พระเกจิชื่อดังอันดับ1 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในตอนนี้ครับ ในพื้นที่แพงกว่านี้มากครับ


หลวงพ่อล้าน วัดขนาย ศิษย์เอกหลวงพ่อพัว วัดบางเดือน พระเกจิแถวหน้าแดนใต้





 เหรียญพ่อหลวงล้าน เขมจิตฺโต วัดขนาย รุ่นแรก พิมพ์ครึ่งองค์ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยม พ่อหลวงล้านเป็นผู้ออกแบบรูปเหรียญและกำหนดอักขระยันต์ด้วยตนเอง รูปทรงเหรียญ ด้านหน้า เป็นรูปพ่อหลวงล้านครึ่งองค์อยู่ในซุ้มเก๋งจีนมีลายกนกรอบ ด้านล่าง เป็นยันต์หนุนธาตุทั้งสี่ นะมะพะทะ มีชื่อและเลข ๑ เป็นสัญลักษณ์ว่าจัดสร้างเป็นครั้งแรก ด้านหลังเป็นยันต์ มงกุฏิพระพุทธเจ้า อิติปิโสวิเสเสอิฯ ซึ่งมีพุทธคุณครอบจักรวาล มีพุทธคุณในการปกป้องภัยอันตรายทั้งปวง และยันต์หัวใจพระสีวลี นะชาลีติ ซึ่งมีพุทธคุณด้านความเมตตามหานิยม โชคลาภร่ำรวย และระบุปีที่สร้างคือ พ.ศ. ๒๕๔๘ จัดสร้างเป็นเนื้อทองฝาบาตร (ทองเหลือง) เพียงเนื้อเดียว จำนวน ๔,๐๐๐ เหรียญ

         จากคำบอกเล่าของพ่อหลวงล้านและศิษย์ใกล้ชิด ทำให้พอจะทราบถึงมูลเหตุที่ได้มีการจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ว่า... ก่อนนี้เวลามีงานบุญชาวบ้านที่มากราบนมัสการหรือทำบุญที่วัดขนายได้เอ่ยปากขอรูปเหรียญของท่าน เพื่อไว้สักการะบูชาเป็นที่ระลึก ท่านก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะท่านไม่มี ไม่เคยสร้าง จากนั้นเริ่มมีการปรึกษากันว่าสมควรแก่เวลาแล้วที่จะต้องมีเหรียญของท่านเป็นที่ระลึกสำหรับผู้มาทำบุญที่วัด อีกประการหนึ่ง คือในปี 2548 เป็นมงคลโอกาสที่ท่านจะมีอายุครบ 72 ปี ถือเป็นการฉลองวัฒนมงคลอายุ 6 รอบด้วย จึงได้มอบหมายให้พระอาจารย์สถาพร สทฺธาทิโก (สัทธาทิโก) ลูกศิษย์ของท่าน ซึ่งก่อนนี้พำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์ศรีไพรวัลย์ สังกัดวัดขนาย ( ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองศาลา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี )ให้เป็นธุระในการแกะพิมพ์และสั่งปั้มเหรียญจากทางโรงงานที่กรุงเทพฯ  เมื่อปั้มเหรียญเสร็จแล้วพระอาจารย์สถาพรท่านก็ได้นำไปเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดวิหาร(วัดหลวงพ่อแดง) หลังจากนั้นพ่อหลวงล้านก็ได้ประกอบพิธีอธิษฐานจิตเดี่ยวอีกหลายครั้งภายในอุโบสถวัดขนาย ทั้งสองพิมพ์ ก่อนจะนำออกแจกจ่ายแก่ชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ มีส่วนหนึ่งออกให้เช่าบูชาเพื่อนำรายได้มาพัฒนาเสนาสนะภายในวัด ท่านบอกให้นำเหรียญของท่านใส่พานแล้วตั้งโต๊ะที่ใต้ต้นมะขามข้างหอระฆังหลังเก่า โดยตั้งไว้ข้ามวันข้ามคืนไม่ต้องมีผู้ใดเฝ้า ค่าเช่าบูชาก็ตามแต่ชาวบ้านจะศรัทธาทำบุญ  บางคนก็ทำบุญ10 -20 บาท บางคนก็ทำบุญ 99 บาท บางคนหยิบดูแล้วก็วางกลับที่เดิม บางคนก็มองผ่านไม่สนใจ แต่เนื่องจากภายบริเวณวัดขนายเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดเกษมบำรุงอยู่ด้วย ท่านเกรงว่าเด็กๆนักเรียนจะซุกซนรู้เท่าไม่ถึงการณ์นำเหรียญไปโยนเล่น ก็เลยให้เก็บเหรียญที่คงเหลือกลับมาที่ไว้กุฏิ หลังจากนั้นท่านก็แจกผู้ที่มีกราบนมัสการอยู่หลายปีจนเหรียญรุ่นนี้หมด จึงได้มีการจัดสร้างเหรียญรุ่นอื่นๆต่อมาถึงปัจจุบัน

            แม้นว่าจะเป็นเหรียญที่มีอายุการสร้างไม่นานเพียง 7-8 ปีเท่านั้น แต่จากประสบการณ์ที่มีผู้นำไปบูชา เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุรถยนต์ ความคงกระพันชาตรี พุทธคุณล้ำเลิศไม่ด้อยกว่าเหรียญพระเกจิฯยุคเก่าๆโดยเฉพาะในหมู่ของทหารอากาศต่างทราบกันดีจึงให้ความเคารพศรัทธาอย่างมาก ถึงวันนี้จากเหรียญที่ไม่ค่อยมีผู้รู้จักและให้ความสนใจในอดีต กลับกลายเป็นของหายากมีมูลค่าในการสะสมของวงการพระเครื่องเมืองไทย พ่อหลวงล้านมีศิษยานุศิษย์มากมายทั่วประเทศไทย ชาวต่างประเทศก็รู้จักกิติศัพท์ของท่านแพร่หลายและเริ่มเก็บสะสมวัตถุมงคลของท่าน  ปัจจุบันเหรียญรุ่นแรกนี้มีมูลค่าการสะสมถึงหลักพันกลางในองค์ที่สวยสมบุรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ที่มีผิวน้ำทองเหมือนกาหลั่ยทองบางๆ ใครมีก็ต่างหวงแหน










ขอจองครับ



814.พระบูชา พระลีลากำแพงศอก พุทโธรฤก ปี 2505 หลวงพ่อขอม วัดโพธาราม(วัดไผ่โรงวัว) จ.สุพรรณบุรี เนื้อโลหะผสมเนื้อพระลีลากำแพงศอกกรุวัดพระศรี
มหาธาตุ ลงสีเดิมจากวัด สูง12 นิ้ว ไม่รวมฐาน แท่นไม้สักอย่างดี
สุดยอดวัตถุมงคลยอดนิยมหลวงพ่อขอม เจ้าของเดิมบูชามาพร้อมกับ พระพุทธโคดม เนื้อดิน ปี05 แล้วนำมาติดที่ฐานพระลีลา  เช่าหนึ่ง ได้เหมือนสอง แค่พระพุทธโคดมเนื้อดินก็หลักพันแล้วครับ
สวยสมบูรณ์ สภาพยกลงจาก หิ้ง

เปิด 5,000- บาทครับ ปิดท่าน J999

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2018, 05:01:28 PM โดย thesun »



814.พระบูชา พระลีลากำแพงศอก พุทโธรฤก ปี 2505 หลวงพ่อขอม วัดโพธาราม(วัดไผ่โรงวัว) จ.สุพรรณบุรี เนื้อโลหะผสมเนื้อพระลีลากำแพงศอกกรุวัดพระศรี
มหาธาตุ ลงสีเดิมจากวัด สูง12 นิ้ว ไม่รวมฐาน แท่นไม้สักอย่างดี
สุดยอดวัตถุมงคลยอดนิยมหลวงพ่อขอม เจ้าของเดิมบูชามาพร้อมกับ พระพุทธโคดม เนื้อดิน ปี05 แล้วนำมาติดที่ฐานพระลีลา  เช่าหนึ่ง ได้เหมือนสอง แค่พระพุทธโคดมเนื้อดินก็หลักพันแล้วครับ
สวยสมบูรณ์ สภาพยกลงจาก หิ้ง

เปิด 5,000- บาทครับ

พระลีลากำแพงศอก  รุ่นแรก สร้างปี พ.ศ.2505 พุทธคุณ
และประสบการณ์ดีมาก สามารถกันฟืนไฟได้ ด้วยมีเศษชิ้นส่วน ของพระลีลากำแพงศอก
ของกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่แตกหักชำรุด ซึ่งหลวงพ่อขอมนำมาหลอมรวมไว้จำนวนมาก พระดีน่าใช้




















ขอจองครับ



815.รูปหล่อโบราณหัวหลิม หลวงปู่เพชร ปทีโป วัดผาใหญ่วชิรวงศ์(วัดภูพระพาน) จ.หนองคาย อุดผงอุดตะกรุดจารมือ ศิลปะช่างชาวบ้าน หายาก ถ้าพูดถึงรูปหล่อหัวหลิมแดนอีสานก็ต้องนึกถึงรูปหล่อหัวหลิม
หลวงปู่ฝั้น ที่ราคาแสนแพง หลักแสนแล้ว แต่ถ้ารูปหล่อหัวหลิมรองๆลงมา ก็ต้องยกให้รูปหล่อหัวหลิมหลวงปู่เพชร ติดอันดับต้นๆของภาคอีสาน พุทธคุณสูงเช่นกัน
แต่ราคาเช่าบูชาต่างกันมากครับ  เด่นเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคาดปลอดภัย
ขอเปิด 6,500- ราคานี้ในพื้นที่หาไม่ได้แน่นอนครับ เอาไปออกต่อก็มีกำไรครับ
เมื่อปีก่อนและเศรษฐกิจดีๆ ราคาขยับขึ้นไปหลักหมื่นมาแล้วครับ

ปิดท่านJ999 ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2018, 10:42:16 PM โดย thesun »



815.รูปหล่อโบราณหัวหลิม หลวงปู่เพชร ปทีโป วัดผาใหญ่วชิรวงศ์(วัดภูพระพาน) จ.หนองคาย อุดผงอุดตะกรุดจารมือ ศิลปะช่างชาวบ้าน หายาก ถ้าพูดถึงรูปหล่อหัวหลิมแดนอีสานก็ต้องนึกถึงรูปหล่อหัวหลิม
หลวงปู่ฝั้น ที่ราคาแสนแพง หลักแสนแล้ว แต่ถ้ารูปหล่อหัวหลิมรองๆลงมา ก็ต้องยกให้รูปหล่อหัวหลิมหลวงปู่เพชร ติดอันดับต้นๆของภาคอีสาน พุทธคุณสูงเช่นกัน
แต่ราคาเช่าบูชาต่างกันมากครับ  เด่นเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคาดปลอดภัย
ขอเปิด 6,500- ราคานี้ในพื้นที่หาไม่ได้แน่นอนครับ เอาไปออกต่อก็มีกำไรครับ
เมื่อปีก่อนและเศรษฐกิจดีๆ ราคาขยับขึ้นไปหลักหมื่นมาแล้วครับ


หลวงปู่เพชร ท่านเป็นศิษย์สาย สำเร็จลุน และ หลวงปู่ศรีทัต วัดพระบาทบัวบก  อิทธิปาฏิหาริย์ขของหลวงปู่เพชร ถูกกล่าวขานมากมาย
พอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้










เรื่องเล่าจากหลวงปู่คำตัน (ที่ปรึกษาพระสังฆราชประเทศลาว)  หลวงปู่คำตันเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เพชรได้อยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เพชรถึง 20 พรรษา

        เรื่องมีดังนี้ครับ เมื่อครั้งที่หลวงปู่คำตันท่านปรนนิบัติหลวงปู่เพชรที่ถ้ำประเทศลาว เช้าวันหนึ่งหลวงปู่คำตันเข้าไปหาหลวงปู่เพชรตามปกติ  แต่วันนี้ที่แปลกคือ มีรอยเท้าประทับอยู่บนหินครับ หลวงปู่คำตันก็เลยงง และสงสัยว่ารอยใคร ใช่รอยหลวงปู่เพชรหรือเปล่าก็เลยเข้าไปถามหลวงปู่เพชรว่ารอยใครใช่รอยปู่หรือเปล่าหรือรอยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านอื่นแต่หลวงปู่เพชรก็ไม่ตอบได้แต่ยิ้มให้เฉยๆ หลวงปู่คำตันก็เลยไม่กล้าถามต่อ แต่ก็สงสัยว่ารอยใครวันต่อมาก็เข้าไปหาหลวงปู่เพชรตามปกติและที่แปลกอีกคือวันนี้ก็มีอีกรอยหนึ่งประทับอยู่ข้างกัน ทำให้หลวงปู่คำตันสงสัยเข้าไปอีกว่ารอยใครก็เรียนถามหลวงปู่เพชรอีกว่ารอยใคร หลวงปู่เพชรก็ไม่ตอบเช่นเคยได้แต่ยิ้มให้เฉยๆโดยหลวงปู่คำตันก็อยู่กับหลวงปู่เพชรแค่สองรูปเท่านั้น



เรื่องหลวงปู่เพชรเสกใบไผ่เป็นปลาหลด

พ่อนวยท่านเล่าให้ฟังว่า ประมาณปี 2520 ต้นๆ ได้เดินทางไปกับเพื่อน เริ่มต้นเดินทางที่ อ.ท่าบ่อ ขี่รถมอเตอร์ไซด์ ไปสองคน  ออกบ้านประมาณ 8-9 โมงเช้า  ถึงวัดหลวงปู่เกือบบ่ายโมง พ่อนวยบอกว่าตอนนั้นหนทางไปวัดลำบากสุดๆครับ ทั้งเข็น ที้งพัก ทั้งลากทั้งจูง ท่านว่าอย่างนั้นครับ  พอไปถึงวัดทั้งสองคนก็หิวข้าวมาก  พอไปกราบหลวงปู่แล้วถามท่านว่า หลวงปู่ครับพอมีอาหารที่โรงครัวเหลือบ้างไหมครับ  หลวงปู่บอกว่ามีแต่ข้าว กับหมดแล้ว  เอาอย่างนี้ให้ไปเอาใบใผ่มาให้หลวงปู่หน่อยปู่จะหาอาหารให้กิน  พ่อนวยงงมากครับว่าไปเอาใบใผ่มาทำไม  เพื่อนอีกคนก็ไปเอามา พอหลวงปู่ได้ใบใผ่มาท่านก็จับมาเสกซักครู่หนึ่ง แล้วโยนลงไปที่ถังน้ำ ปรากฎว่ากลายเป็นปลาหลดครับ  พ่อนวยและเพื่อนทั้งเเปลกใจ ทั้งทึ่งและศรัทธาในตัวหลวงปู่มาก  แล้วถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่ทำได้ไงครับ  แล้วเอามันมาฆ่าจะไม่บาปหรือครับ  ปู่บอกว่าไม่บาปหรอกทำกินเลย  ทั้งสองท่านเลยลงมือสังหารและแกงปลาหรดกิน  ปรุงอะไรทุกอย่างเรียบร้อย  พอเปิดฝาออกจะชิน้ำ ปรากฎว่ากลายเป็นใบใผ่เหมือนเดิมครับทั้งสองท่านก็งงเหมือนเดิมอีก แต่ก็กินเหมือนเดิม เพราะหิวข้าวมากแล้ว  พ่อนวยท่านเล่าให้ผมฟังครับ เกี่ยวกับหลวงปู่เพชร ท่านบอกว่าสุดยอดมากๆเรื่องวัตถุมงคลท่านเหนียวสุดๆครับ

หลวงปู่เพชรช่วยชีวิต ทำให้โจรยิงไม่ออก

          มีเสี่ยค้าไม้,ค้าวัสดุก่อสร้าง อยู่ที่ ท่าบ่อ ท่านหนึ่งครับสมัยนั้น เสี่ยผู้นี้ท่านขึ้นไปกราบหลวงปู่ และได้รับ รูปหล่อหลวงปู่เพชร ใส่แว่นมาองค์หนึ่ง ได้รับมากับมือหลวงปู่เพชรท่านก็เอามาไว้บูชาปกติ
        อยู่มาวันหนึ่ง สมัยนั้นมีโจรขึ้นปล้นบ้านเสี่ยผู้นี้ และถูกจ่อยิงด้วยปืน ปรากฏว่าปืนไม่แตกครับ  ยิงไม่ออก
เสี่ยผู้นั้นเลยลอดตายมาอย่างปาฏิหาริย์จนถึงทุกวันนี้ ทุกวันนี้เสี่ยผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ครับ และก็ห้อยหลวงปู่เพชร พิมพ์ใส่แว่น ขึ้นคอประจำ

หลวงปู่เพชรย่นระยะทางกับคณะลูกศิษย์

สมัยหนึ่งหลวงปู่เพชร ท่านบำเพ็ญธรรมที่ป่าฝั่งลาว
และท่านต้องการจะข้ามมาฝั่งไทยท่านเลยได้สั่งลูกศิษย์ให้เก็บของต่างๆเพื่อเตรียมตัวเดินทาง
และพอเก็บของเสร็จก็เดินมาเรื่อยๆลูกศิษย์ก็เดินตามมาปกติ ชวนลูกศิษย์ที่มาด้วยกันหลายรูป ดูนก ดูไม้
พอเดินไปได้สักพัก เผลอแป๊บเดียวก็มาถึงฝั่งไทยครับ
แต่ที่แปลกอย่างยิ่งนั้นคือท่านเดินมาถึงฝั่งไทยได้ยังไงโดยไม่ได้ข้ามแม่น้ำโขง
จากฝั่งลาวมาประเทศไทยยังไงๆ ก็ต้องข้ามแม่น้ำโขง
แต่นี่ไม่ได้ข้ามเลยแต่เดินมาถึงฝั่งไทยได้
ลูกศิษย์ที่ร่วมเดินทางมาด้วยนั้น ถึงกับอึ้งและงงมากๆครับ
ว่าข้ามมาถึงฝั่งไทยโดยไม่ได้ข้ามแม่น้ำโขงได้ยังไง ถ้าเดินกันจริงๆ ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เลยครับ

นี่เป็นคำบอกเล่าและเรื่องจริงที่ลูกศิษย์หลวงปู่ที่ร่วมเดินทาง
มากับหลวงปู่ในครั้งนั้นเมตตาเล่าให้ฟังครับ
ซึ่งปัจจุบันลูกศิษย์ท่านนั้นอายุ93พรรษา
และเป็นที่ปรึกษาหารือพระสังฆราชประเทศลาวครับ

เมื่อเอ่ยชื่อ "หลวงปู่เพชร สังคม" ชาวบ้านจะกล่าวขวัญถึงหลวงปู่ที่สามารถเหยียบต้นอ้อข้ามแม่น้ำโขงได้ เรื่องนี้ได้รับคำยืนยันจากที่ปรึกษาพระสังฆราชประเทศลาว และลูกศิษย์หลวงปู่เพชรทุกองค์ และชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ที่เป็นลูกศิษย์ตามปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เพชรว่าเคยเห็นหลวงปู่เพชรเหยียบต้นอ้อข้ามแม่น้ำโขงได้

นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีประสบการณ์ต่างๆจากวัตถุมงคล
ของท่านที่เป็นที่ทราบดีมาถึงปัจจุบันว่า ไม่ธรรมดาเลย
เพราะคนลาวอพยพ เมื่อครั้งสมัยลาวแตก คนสปป.ลาวไม่น้อย

ได้พึ่งใบบุญของหลวงปู่เพชร ที่ปลอดภัยจากคมกระสุนและอยู่
รอดมาจนเท่าทุกวันนี้ ท่านเป็นที่พึง ที่ศรัทธามากของญาติโยม
สองฝากฝั่งแม่น้ำโขงครับ คนแถวสังคม ศรีเชียงใหม่ น้ำโสม ฯ
หวงพระ(วัตถุมงคล) หลวงปู่เพชร หลวงปู่เครื่อง มากกว่าห่วงทรัพย์สินอย่างอื่นเสียอีก



หลวงปู่เพชรสวดมนต์คาถาฝนแสนห่าขอฝน ช่วยชาวบ้าน เป็นเรื่องเล่าของเจ้าอาวาสวัดผาใหญ่วัดวชิรวงศ์องค์ปัจจุบันลูกศิษย์หลวงปู่เพชร

          ถิ่นอีสาน จะประสบปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ ฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาล ในปีนั้นหนองคายแล้งจัด แผ่นดินแตกระแหง ชาวบ้านเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ชาวบ้านเลยยกขบวนมาขอพึ่งบารมีหลวงปู่เพชร หลวงปู่ท่านบอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวคืนนี้ก็ตกชาวบ้านก็กลับพร้อมตั้งหน้าตั้งตาคอยเฝ้าอยากเห็นวาจาศักดิ์สิทธิของหลวงปู่เพชร เพราะเชื่อในบุญบารมีของท่าน คืนนั้นหลวงปู่เพชรเลยชวนพระภิกษุสงฆ์ทั้งวัดไปสวดมนต์โดยบอกกับพระทั้งวัดว่าจะสวดมนต์ขอฝน หลวงปู่เพชรและพระทั้งวัดสวดมนต์ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ปรากฎลมแรงขึ้น ๆ มีเมฆก่อตัวครึ้ม ฟ้าเริ่มแลบแปร๊บๆ และไม่เกินห้านาทีต่อมาฝนก็ตกหนักพอได้ให้ชาวบ้านอุปโภค บริโภค และเพาะปลูก และก็เป็นจุดเริ่มต้นของชาวบ้านถ้าปีใดฝนแล้งก็จะมานิมนต์หลวงปู่สวดมนต์ขอฝนเป็นประจำ และหลวงปู่เพชรผู้เป็นพระโพธิ์สัตว์เปี่ยมไปด้วยเมตตาก็จะ สงเคราะห์ลูกหลานสวดมนต์ขอฝนทุกๆครั้งและประสบความสำเร็จในทุกๆครั้งด้วย แม้หลวงปู่เพชรจะมรณภาพไปแล้วปีใดฝนแล้งชาวบ้านก็จะมาจุดธูป จุดเทียนขอเมตตาจากรูปปั้นหลวงปู่เพชรอยู่เสมอๆ



จากงานเขียนของนายวิสูตร วงศ์วิริยะ นายอำเภอสังคม เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2527 (ตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เกษียณอายุราชการแล้ว ปัจจุบันพ.ศ. 2555 ดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ท.จ.ขอนแก่น)



              กระผมได้รู้จักหลวงปู่เพชร เมื่อครั้งย้ายมารับราชการ  ที่อำเภอสังคมใหม่ ๆ คือเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมานี้ ผู้หลักผู้ใหญ่ได้แนะนำให้ขึ้นไปไหว้หลวงปู่เพื่อเป็นสิริมงคล

            วัดหลวงปู่  ชื่อ วัดพระธาตุผาใหญ่  ตั้งอยู่บนสันเขาภูพาน  เขตตำบลผาตั้ง  สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ  400  เมตร บริเวณวัดเป็นลานหินกว้าง  อากาศเย็นสบาย  ทิวทัศน์สวยงาม  มองเห็นหมู่บ้านที่เชิงเขา  4 ? 5 หมู่บ้าน  บรรยากาศวิเวกเหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมของหลวงปู่และคณะศิษย์เป็นอย่างยิ่ง  และทางขึ้นไปสู่วัดหลวงปู่นั้นก็ลำบากอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน

            เมื่อได้พูดคุยกับหลวงปู่  จึงได้ทราบว่า  ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่สำเร็จธรรมชั้นสูงสุดองค์หนึ่งของเมืองไทย  แต่ท่านถือสมถะไม่ชอบแสดงตัว  ไม่ชอบความเด่นดังครึกโครม  เหรียญและเครื่องรางของขลังวัตถุมงคลต่างๆ ของท่าน  ไม่ค่อยอนุญาตให้ใครทำ  นอกจากคนใกล้ชิดเท่านั้นที่อนุญาตให้ทำในวันสำคัญทางพุทธศาสนา  เพื่อให้ญาติโยมและศิษย์ผู้ใกล้ชิดไว้บูชาสักการะ  และวัตรปฏิบัติ  และบารมีธรรมของหลวงปู่นั้นเด่นดังมาก  ทั้งสองฝั่งโขง  คือ ไทย-ลาว  และต่างประเทศเลยทีเดียว

           เมื่อกระผมพบกับหลวงปู่นั้น  ท่านชราภาพมากแล้ว  อายุถึงร้อยสองปีเศษ  แต่ขึ้นไปกราบท่านครั้งใด  ก็ยังเห็นท่านศึกษาธรรมะ  อ่านหนังสือด้วยแว่นขยายอันใหญ่  และปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานโดยเคร่งครัดเมื่อหลวงปู่อาพาธหนักเข้าจนถึง  ขั้นที่ท่านคงทราบด้วยญาณว่า ถึงเวลาที่จะละวางสังขารแล้ว  ได้ทราบจากศิษย์ของท่านว่า  ท่านปฏิเสธที่รับการรักษาเยียวยาทั้งสิ้น  และกล่าวกับศิษย์ว่า  ?ต้นไม้ที่เXX่ยวเฉาแล้วจะรดน้ำอย่างไรก็คงไม่ฟื้น?  เป็นปรัชญาชีวิตที่สาธุชนควรพิจารณาอย่างยิ่ง  และแล้วหลวงปู่ผู้ปฏิบัติดี  ปฏิบัติชอบมาตลอดอายุขัย  ก็ถึงซึ่งกาลอวสานแห่งชีวิตสังขารด้วยอาการสงบ  เมื่อวันที่ 11  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2527 เวลา  19.10 น.

          ในนามของคณะศิษยานุศิษย์  ขอขอบคุณท่านผู้ใจบุญทั้งหลายที่มาร่วมในงานฌาปนกิจศพหลวงปุ่  และขอกุศลผลบุญที่หลวงปู่ได้ประกอบไว้  รวมทั้งที่คณะศิษย์และญาติบำเพ็ญอุทิศให้  จงเป็นผลานิสงส์ให้ดวงวิญญาณของหลวงปู่ไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วย  เทอญ
















ขอจองครับ



816.พระยอดขุนพล บุเรงนองออกศึก หลังกบ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม กาญจนบุรี เนื้อโลหะผสม จัดสร้างขึ้นเมื่อปี2537 สุดยอดเครื่องรางหลวงพ่ออุตตมะ 800


 จัดสร้างขึ้นเมื่อ ปี 2537 พระมีทั้งเนื้อผงและเนื้อโลหะผสมครับ แต่เนื้อโลหะนั้นจะพบเห็นได้ยากกว่าเนื้อผงครับ ส่วนใหญ่โดนเก็บเงียบ ไม่ค่อยมีของให้เห็นกันครับ 
โดยหลวงพ่อได้นำเอาพระกรุ ยอดขุนพล บุเรงนองออกศึก หลังกบ ที่ค้นพบในถ้ำ ว่ากันว่าจัดสร้างโดยพระเจ้าบุเรงนอง มาเป็นองค์ต้นแบบ
 ใช้แทนพระกรุยอดขุนพล บุเรงนองยุคเก่าหลายร้อยปีที่ค้นพบ โดยหลวงพ่ออุตตมะที่ราคาแสนแพง ได้เลยครับ
 



ตามบันทึกของพระเถราจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ที่จดบันทึกไว้ว่า พระเจ้าบุเรงนองทรงสร้างไว้เพื่อให้มอบให้แม่ทัพนายกอง ทหารหาญ ใช้ในราชการสงคราม ภายหลังเสร็จราชกิจจึงได้นำไปบรรจุไว้ในถ้ำ พระเครื่องพิมพ์นี้สร้างจากดินผสมว่านยาวิเศษ ปลุกเสกโดยมหาฤาษีบูบูอ่อง ที่กล่าวกันว่าท่านสำเร็จอภิญญาสมาบัติ สามารถแสดงฤทธิ์ได้ เดิมได้บวชในพระพุทธศาสนาและเจริญกรรมฐานจนบรรลุอภิญญา มีญาณสมาบัติและได้สึกมาครองเพศฤาษี และใช้ฤทธิ์ในการช่วยเหลือผู้คนรวมถึงการเผยแพร่ศาสนา และพระพิมพ์นี้ได้จำลองมาจากพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทรงเครื่องมหาจักรพรรดิราช เดิมประดิษฐาน ณ อาณาจักรอาระกัน (ยะไข่) ด้านหลังคือรูปมหาฤาษีบูบูอ่อง ที่มีอิริยาบทกำลังเหาะขึ้นไปนมัสการพระมหาธาตุ ทำให้มีชื่อเสียงและสร้างความศรัทธาให้กับพระเจ้าบุเรงนอง รู้จักในวงการพระเครื่องว่า พระบุเรงนองหลังกบ กรุถ้ำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี ได้มาจากถ้ำในเขตประเทศพม่า แล้วนำมาแจกสานุศิษย์ในยุคแรกๆ

พระยอดขุนพลบุเรงนองรุ่นเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่หาได้ยากยิ่ง จากคำบอกเล่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยท่านได้เคยอ่านพบใน " ตำราโบราณ " ที่อดีตโบราณคณาจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ได้จดบันทึกไว้สืบต่อกันมานานนับเป็นร้อย ๆ ปี มีดังนี้

พระยอดขุนพลบุเรงนองของเก่าแก่ดั้งเดิมนั้น เป็นพระพิมพ์ดินดิบผสมว่านยาวิเศษ โดยได้จำลองพุทธลักษณะจาก "พระมหามัยมุนี " (ดังรูปพระพุทธรูปตัวอย่าง) เป็นพระเครื่องที่พระเจ้าบุเรงนอง บรมกษัตริย์ผู้มีพระเดชานุภาพมากแห่งกรุงหงสาวดี ได้โปรดให้ พระมหาฤาษี ภูภูอ่อง ผู้เป็นพระราชครูผู้ใหญ่ ประจำพระราชสำนักแห่งพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งได้สำเร็จมหิทธิฤทธิ์ขั้นสุดยอดด้วยองค์คุณ 4 ประการ คือ ยา ยันต์ ปรอท และ ประคำ จนมีฤทธิ์ มีเดชสูงส่งอย่างยิ่งยวด เป็นผู้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้น เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และเหล่าทหารหาญ เพื่อใช้ในการศึกสงครามโดยทั่วไป

             โดยแกะพิมพ์จำลองพุทธลักษณะของพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญ อันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวพม่า ที่มีอายุการสร้างเกือบ 2,000 ปี ที่เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมืองยะไข่ แต่ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองมัณฑเลย์ ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
              ซึ่งพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ปรากฎพุทธคุณอันยอดเยี่ยมดีเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในทางเมตตา แคล้วคลาด แต่จะเน้นไปในด้าน "อิทธิฤทธิ์" คือทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ เป็นหลักใหญ่ จนกระทั่งกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง สามารถปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยในทุกหนแห่ง จนราบคาบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในพงศาวดาร
 ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองได้รับพระสมัญญานามอีกพระนามหนึ่งว่า " ผู้ชนะสิบทิศ "











817.พระนาคปรกใบมะขาม รุ่นแรก หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี เจ้าอาวาสวัดเทพธารทอง อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี เนื้อทองเหลือง
 จัดสร้าง พ.ศ.2548 (เนื้อทองเหลือง จำนวนสร้าง 500 องค์ )  วัตถุมงคลหลวงปู่หายาก และราคาสูง นานๆเจอที
ลูกศิษย์เก็บหมดไม่ค่อยจะออกมาให้เห็นครับ เล็กดีรสโตครับ
1,500- ปิดคุณ อมรกิตติ์ ทางโทรศัพย์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2018, 05:46:20 PM โดย thesun »



818.เปิดชุดแบ่งปัน ชุดพระร่วงยืน(หลังรางปืน)หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ออกวัดสัมพันธวง์ ปี17 เนื้อทองแดงรมดำ เลี่ยมเดิมวัด พระดีพิธีใหญ่ เปิดชุด 10 องค์ 2,500-
(นำไปแจกญาติสนิทมิตรสหาย ผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือเอาไว้บูชาได้เลยครับ ทั่วไป 1 องค์ต้องมี300-400 บาทขึ้นครับ เปรียบเทียบกับพระใหม่ๆถือว่าถูกมากครับ )




 เหรียญรูปเหมือนยืนหลังรางปืน หลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่

ปี 2516 ปูชนียวัตถุมงคลของหลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่

พิธีปลุกเสกในวาระแรก ปี 2516
-วัตถุมงคลชุดนี้มี พระพุทธรูปบูชาจำลอง ขนาด 5 นิ้ว 9 นิ้ว รวมพระเครื่องของหลวงปู่แหวน สุจินโณ ซึ่งได้อนุญาตให้ทางวัดเกาะจัดสร้างหลายชนิด เมื่อปีพ.ศ.2516
-ปลุกเสกครั้งที่ 1 ในวันมาฆะบูชา 7 กุมภาพันธ์ ปี 2516
-ปลุกเสกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 หลวงปู่อายุครบ 7 รอบ 16 มกราคม ปี 2517

พิธีมหาพุทธาภิเษกวาระที่ 2 หมายกำหนดการ ไว้ 3 วัน

-ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธปฏิมาปรานประจำพระอุโบสถสร้างใหม่ ของวัดสัมพันธวงศ์, พระพุทธรูปบูชาจำลองหน้าตัก 5 นิ้ว 9 นิ้ว และพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระเกศพระพุทธปฏิมาประธาน โดยกราบทูลอาราธนา เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเป็นประธานประกอบพิธี กับได้ทูลเชิญพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล เป็นประธานอำนวยการจัดงาน และทูลเชิญ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ องค์อุปถัมภ์ของวัด เป็นประธานที่ปรึกษา
ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) กรุงเทพมหานครวันที่ 29 30 31 ธันวาคม พ.ศ. 2517

กำหนดมหาพุทธาภิเษกเฉพาะวันที่ 30 ธ.ค. 2517
-มีพิธีในวันจันทร์ที่ 30 ธ.ค. 2517 สมเด็จพระสังฆราช ทรงประกอบ พิธีจุดเทียนชัยมหาพุทธาภิเษก เวลา 20.36 นาฬิกา มีพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ จากภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวม 60 รูป มานั่งปรกบริกรรมภาวนาปลุกเสกตลอดคืน มีดังนี้

1.หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี (ชรามาก จะแผ่พลังเมตตาจิตมาในวันพิธี)
2.หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ (ชรามาก จะแผ่นพลังเมตตาจิตมาให้ในวันพิธี)
3.พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโต วัดสิริสาลวัน อุดรธานี
4.พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดนิโครธาราม อุดรธานี
5.พระอาจารย์บุญ ชินวโส วัดศรีสว่างแดนดิน สกลนคร
6.พระอาจารย์จันทร์ เขมปปตโต วัดจันทาราม หนองคาย
7.พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร
8.พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดภูทอก หนองคาย
9.พระอาจารย์ลี ฐิตธมโม วัดศรีชมพู สกลนคร
10.พระอาจารย์แว่น ธนปาโล วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
11.พระอาจารย์อุ่น กลยาณธมโม วัดป่าบ้านโคก สกลนคร
12.พระอาจารย์สุภาพ ธมมปญโญ วัดทุ่งสว่าง สกลนคร
13.พระอาจารย์คล้าย ทานรโต วัดสุจินต์ประชาราม สกลนคร
14.พระอาจารย์เตรียม ธมมธโร วัดสามัคคีธรรม สกลนคร
15.พระอาจารย์เคน เขมาสโย วัดป่าบ้านหนองหว้า สกลนคร
16.พระอาจารย์บุญมี ฐิตปุญโญ วัดประชานิยม สกลนคร
17.พระอาจารย์ประสาร ปญญาพโล วัดคามวาสี สกลนคร
18.พระอาจารย์บัว วัดป่าบ้านเสาเส้า อุดรธานี
19.พระอาจารย์ปั่น ญาณวโร วัดพุฒาราม สกลนคร
20.พระอาจารย์สมัย ทีฆายุโก วัดโนนแสงทอง สกลนคร
21.พระอาจารย์เกิ่ง วิทิโต วัดสามัคคีบำเพ็ญผล สกลนคร
22.พระสังวรวิมลเถร (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
23.พระวิบูลเมธาจารย์ (หลวงพ่อเก็บ) วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
24.พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดหนองพะอง สมุทรสาคร
25.พระครูวิจารณ์สมถกิจ (จรัญ เขมจารี) วัดประชารังสรรค์ ศรีสะเกษ
26.พระครูพิเนตสมณกิจ วัดประชารังสฤษฎ์ ศรีสะเกษ
27.พระครูพิพิธพัชรศาสน์ (หลวงพ่อจ้วน) วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี
28.พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
29.พระครูญาณจักษ์(ปรมาจารย์ผ่อง จินดา) วัดจักรวรรดิ กรุงเทพฯ
30.พระศีลขันธโสภณ (หลวงพ่อสนิท) วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
31.พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อฑูรย์) วัดโพธินิมิต กรุงเทพฯ
32.พระอุดมสารโสภณ (ผาสุก) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
33.พระญาณโพธิ (หลวงพ่อเข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
34.พระครูวรพรตศีลขันธ์ (หลวงพ่อแฟ้ม) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
35.พระสิรินันทมุนี (สนั่น) วัดพิตรพิมุข กรุงเทพฯ
36.หลวงปู่ฟัก วัดวังไทรติ่ง ประจวบคีรีขันธ์
37.พระครูประจักษ์ตันตยาคม (เฉลา) วัดคีรีภาวนาราม ระยอง
38.พระอาจารย์พวง สุวีโร วัดป่าบ้านปูลู อุดรธานี
39.พระอาจารย์แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร
40.พระอาจารย์ศรีนวล สิริปญโญ วัดศรีไตรรัตนนิมิต อุดรธานี
41.พระอาจารย์บุญมี วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
42.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
43.พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อหิน) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
44.พระปัญญาพิศาลเถร (สงวน) วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
45.พระธรรมภาณโศภน (สวัสดิ์) วัดปลดสัตว์ อ่างทอง
46.พระพ่อสาม อภิญจโน วัดไตรวิเวการาม สุรินทร์
47.พระพ่อศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด
48.พระสุทธิสารโสภณ(โสภณ) วัดศรีโพนแท่น เลย
49.พระอาจารย์เปลี่ยน วัดบ้านปง เชียงใหม่
50.พระชินวงศาจารย์(พุธ) วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา
51.หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา ระยอง
52.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหน้า ระยอง
53.พระครูวิจิตรธรรมภาณี(สิงห์) วัดหนองบัว อุบลฯ
54.พระอาจารย์เมือง พลวฑฺโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส กาฬสินธุ์

รายการปูชนียวัตถุมงคลของหลวงปู่แหวนมีดังนี้
1.พระพุทธรูปบูชา ขนาด 5 นิ้ว สร้างจำนวน 1517 องค์ องค์ละ 700 บาท
2.พระพุทธรูปบูชา ขนาด 9 นิ้ว สร้างจำนวน 1000 องค์ องค์ละ 2,000 บาท
3.เหรียญพระแก้วมรกต (มณีรัตนะ) ชนิดทองคำจำนวน 84 เหรียญจัดเป็นชุดมีทองคำ เงิน นวะ ทองแดง 1,200 บาท
-ชนิดเหรียญเงิน 100 บาท
-ชนิดนวโลหะ 50 บาท
-ชนิดทองแดงชุบทอง 10 บาท
4.รูปเหมือนหลวงปู่แหวน นั่งในกลีบบัวบาน บรรจุเกศา ชนิดทองคำ สร้างจำนวน 17 องค์สำหรับจัดเป็นชุดๆละ 5,000 บาท
-ชนิดเงินบรรจุเกศา องค์ละ 300 บาท
-ชนิดนวโลหะบรรจุเกศา องค์ละ 200 บาท
-ชนิดเนื้อชินชุบทองอัดพลาสติก องค์ละ 85 บาท
5.รูปเหมือนหลวงปู่แหวน นั่งในกลีบบัวตม บรรจุเกศาชนิดผง องค์ละ 50 บาท
6.พระสมเด็จพิมพ์พิเศษมหาพุทธานุภาพ องค์ละ 50 บาท
7.พระสมเด็จมหาสิทธิโชค องค์ละ 40 บาท
8.พระสมเด็จผงใบลานชาญวิทยา องค์ละ 20 บาท
9.พระสมเด็จพิมพ์หูบายศรีมีเสน่ห์ องค์ละ 20 บาท
10.พระสมเด็จพิมพ์หูยานอยู่ยงคงกระพัน องค์ละ 20 บาท
11.พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ยอดคุ้มครอง องค์ละ 20 บาท
12.พระสมเด็จพิมพ์ซุ้มทรงยันต์กันภัย องค์ละ 20 บาท
13.สมเด็จพิมพ์นางพญามหาเสน่ห์ องค์ละ 20 บาท
14.สมเด็จทุ่งเศรษฐีทวีทรัพย์ องค์ละ 20 บาท
15.พระสมเด็จพิมพ์คะแนนปรกโพธิ์ยอดคุ้มครอง องค์ละ 10 บาท
16.พระสมเด็จพิมพ์คะแนนทรงนิยมเมตตาบารมี องค์ละ 10 บาท
17.พระสมเด็จพิมพ์ทรงนิยมเมตตาบารมี องค์ละ 20 บาท
18.พระรอดปลอดภัยอันตราย องค์ละ 20 บาท
19.พระซุ้มกอหลวงปู่แหวนแสนสุข องค์ละ 10 บาท
20.เหรียญพระประธานยุคเชียงแสนวัดดอยแม่ปั๋ง ฉลองอายุ 84 ปี เหรียญละ 20 บาท
21.เหรียญเพิ่มยศของอดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เสก 1ไตรมาส เหรียญละ 20 บาท
22.เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่แหวนยืนหลังรางปืน ฉลองอายุ 84 ปี
-ชนิดเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 17 เหรียญ จัดชุดละ 2,500 บาท
-ชนิดเนื้อเงิน จำนวน 85 เหรียญ เหรียญละ 150 บาท
-ชนิดเนื้อนวโลหะ จำนวน 108 เหรียญ เหรียญละ 100 บาท
-ชนิดเนื้อทองแดง จำนวน 50000 เหรียญ เหรียญละ 30 บาท

23.เหรียญมหามงคล (พระมหารัชชมังคลาจารย์)
-ชนิดเนื้อเงิน องค์ละ 150 บาท
-ชนิดเนื้อนวโลหะ องค์ละ 100 บาท
-ชนิดเนื้อทองแดง องค์ละ 20 บาท
24.รูปหล่อโลหะหลวงปู่แหวน สุจิณโณ 5 นิ้ว องค์ละ 500 บาท
25.ตราวัด สำหรับกลัดเนคไท หลวงปู่แหวน สุจิณโณ อันละ 100 บาท
26.เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
ชนิดกลมใหญ่
-ชนิดเนื้อเงิน เหรียญละ 150 บาท
-ชนิดเนื้อนวโลหะ เหรียญละ 70 บาท
-ชนิดเนื้อทองแดง เหรียญละ 30 บาท
ชนิดกลมเล็ก
-ชนิดเนื้อเงิน เหรียญละ 100 บาท
-ชนิดเนื้อโลหะ เหรียญละ 40 บาท
-ชนิดเนื้อทองแดง เหรียญละ 20 บาท
27.เหรียญสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เหรียญละ 100 บาท










819.พระบูชาพระพุทธภูมิประทานพร วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม ปี14 พระดีพิธีใหญ่ หน้าตัก 5 นิ้ว ฐาน 6 นิ้ว 3,800-

ปิดครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 26, 2018, 04:35:04 PM โดย thesun »



820.พระบูชาพ่อปู่เปี่ยม สาริกบุตร มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดสร้าง ลพ.เกษม เขมโก ปลุกเสก ปี พ.ศ.2537 หน้าตัก 5 นิ้ว สร้างน้อย หายาก 3,500-

ปิดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 25, 2018, 04:15:18 PM โดย thesun »



821.พระบูชาหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี2533 หน้าตัก4 นิ้ว  ใต้ฐานอุดปูน ฝังเหรียญ พระบูชาหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ลักษณะนี้จะมีปีพ.ศ.ระบุไว้
และจะมีเหรียญยันต์ที่ใต้ฐานทุกรุ่น อันเป็นเอกลักษณ์ จัดสร้างตั้งแต่ปี 21 เป็นต้นมา ได้รับความนิยมสูงทุกรุ่น โดยได้รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์นอง และยอดพระเกจิแดนใต้
ณ วัดช้างไห้  ปีพ.ศ.ลึกๆจะมีราคาสูง สภาพสวย แคล้วคลาด นิรันตรายดีมาก ปี33 หายาก นิยมครับ
5,500-

ปิดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 26, 2018, 04:35:14 PM โดย thesun »



822.เหรียญปั๊มกระบอกห่วงเชื่อม 'ก้องกังวาล' ศิษย์ล่ำซำจัดสร้าง เนื้อสำริด (ตอกกรรมการ) จำนวนจัดสร้าง 288 เหรียญ องค์นี้หมายเลข264
 หูเชื่อม ขอบกระบอก ศิลปะเหรียญนูนต่ำสวยงาม นิยมครับ
2,300-

 เหรียญก้องกังวาล จัดสร้างพร้อมพระกริ่งจักรวาล
ได้จัดสร้างขึ้นเนื่องด้วยวาระที่ องค์หลวงปู่แสง จันดะโชโต ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล เปิด 3 แดนโลกธาตุ ในวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 เมื่อครั้งที่ท่านจำวัดอยู่ที่ วัดป่าดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ในงานบุญใหญ่ในครั้งนี้ หลวงปู่ท่านได้กล่าวไว้ว่า ถ้าจะทำทั้งทีต้องทำให้หมดไปทั่วทั้ง “จักรวาล” หลวงปู่ได้อธิษฐานจิต เปิด 3 แดนโลกธาตุอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ เทวดาอารักษ์ รับรู้ อันเป็นที่มาของ 'ก้องกังวาล'

เหรียญ ก้องกังวาล นี้ มี 2 แบบ คือ

1. เหรียญปั๊มกระบอกห่วงเชื่อม

2. เหรียญปั๊มธรรมดา

จำนวนการจัดสร้าง เหรียญปั๊มกระบอกห่วงเชื่อม

1. เนื้อทองคำ จำนวน 24 เหรียญ

2. เนื้อเงิน จำนวน 66 เหรียญ

3. เนื้อนวะ จำนวน 71 เหรียญ

4. เนื้อสำริด (ตอกกรรมการ) จำนวน 288 เหรียญ

5. เนื้อทองแดงเถื่อน จำนวน 1137 เหรียญ

ขอขอบคุณข้อมูล http://www.sitlumsum.com/amulet/?p=3311











823.รูปถ่าย หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข หลังแผ่นเงินจารมือยันต์พุทธซ้อน ปี33 หายาก สภาพสมบูรณ์ นำไปเลี่ยมห้อยคอได้เลยครับ
ออกที่บุญนิธิสมัยนั้น 500 บาท จัดสร้าง 140 ใบเท่านั้น
900-
ปิดท่านJ999

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 29, 2018, 11:30:48 AM โดย thesun »



824.จัดชุดคืนกำไรลูกค้า พระกลีบบัวรูปเหมือน ผสมเกศา และ พระนางพญามหาเสน่ห์ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ สร้างอุโบสถ วัดสัมพันธวงศ์ ปี2516
พระดีพิธีใหญ่ พ.ศ.ลึก ปลุกเสกหลายวาระ ตั้งแต่ปี16-17

10 องค์ 800-บาท

ปิดคุณอ๋า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 26, 2018, 05:06:54 PM โดย thesun »




 

ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi