🔥 🔥 ประกาศฟรีในกลุ่มลายอุดรธานี >> คลิก 🔥 🔥
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
1367.ขอเปิดเหรียญพระแก้วมรกต ปี2475 เนื้อเงิน บล็อค ฮั้งเตี้ยนเซ้ง นิยม และเป็นเนื้อเงินด้วย หายากสุดๆครับ สภาพพระสวยมากเดิมๆ แกะจากกรอบ จัดเป็นพระดีพิธีใหญ่มากๆของประเทศ รวมสุดยอดพระเกจิในยุคนั้นรวมพลังกันปลุกเสก ในคราวฉลองกรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และ บูรณะปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ดีนอกดีใน ได้บารมีองค์พระแก้วด้วยครับ นำไปเลี่ยมทองขึ้นคอได้เลยครับ พระดีอนาคตไกล พระสวยระดับประกวด เก็บก่อนแพงครับ รับประกันตลอดชีพครับ เปิดบูชาแบ่งปัน 12,000 (พระสวยๆแบบนี้ อยู่สายตรงราคานี้ไม่ได้แน่นอนครับ เนื้อทองคำราคาหลักแสน เนื้อทองแดง ราคาหลักพันกลางๆๆ แล้วครับตอนนี้)ประวัติการสร้างเหรียญพระแก้ว ปี2475ในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ให้ทันกับการสมโภชกรุงเทพมหานครครบ ๑๕๐ ปี ใน พ.ศ.๒๔๗๕ โดยมี สมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงเป็นประธานคณะกรรมการ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชศรัทธา อุทิศพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ รัฐบาลอนุญาตเงินแผ่นดินอุดหนุน ส่วนที่ยังขาดอยู่ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้กรรมการจัดดำเนินการเรี่ยไรพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป เพื่อให้ได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลร่วมกัน โดยให้กระทรวงพระคลัง มหาสมบัติจัดพนักงานรับเรี่ยไร โดยมีใบเสร็จ และเหรียญพระแก้วตอบแทน เป็นที่ระลึก ปรากฏว่ามีผู้บริจาคเงินเป็นจำนวนมาก จนต้องมีการระดมกำลังจัดสร้าง เหรียญพระแก้วมรกต ที่ระลึกกรุงรัตนโกสินทร์ ๑๕๐ ปี เป็นการใหญ่โดยได้ว่าจ้างหลายบริษัททำการผลิตเหรียญขึ้น (บล็อกใน) โดยมีบล็อกเพาะช่าง บล็อกฮั่งเตียนเซ้ง บล็อกสุวรรณประดิษฐ์ มีเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง และนิเกิ้ลซึ่งพระองค์เองทรงมีพระราชศรัทธา อุทิศพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 200,000 บาท เป็นทุนเริ่มต้น คณะรัฐบาลในสมัยนั้นสนองตามพระราชดำริอนุมัติเงินแผ่นดินสมทบทุนร่วมอีก 200,000 บาท สำหรับส่วนที่ยังขาดอยู่ทรงพระราชทานวโรกาส ที่จะให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร และไพร่ฟ้าประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสที่จะบำเพ็ญกุศลร่วมกัน ให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติจัดพนักงานเรี่ยไร ดำเนินการโฆษณาประกาศบอกบุญ ปรากฏตามข้อความเชิญชวนในใบปลิว ที่โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจพิมพ์ถวาย เมื่อปี พ.ศ.2473 ว่า“.....โดยให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติจัดพนักงานรับเรี่ยไร โดยมีใบเสร็จ และ เหรียญพระแก้วตอบแทน เป็นที่ระลึก ตามชั้นและจำนวนเงินที่บริจาค ดังต่อไปนี้1. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป พระราชทานเหรียญพระแก้วทองคำ2. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 20 บาท ขึ้นไป พระราชทานเหรียญพระแก้วเงิน3. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 5 บาท ขึ้นไปพระราชทานเหรียญพระแก้วทองขาว (นิเกิ้ล)4. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป พระราชทานเหรียญพระแก้วทองแดงลักษณะเหรียญเป็นแบบปั้มกลมแบนขอบเลียบ ด้านหน้าเหรียญ ภายในซุ้มเรือนแก้วเป็นรูป พระแก้วมรกต ประทับนั่งบนฐานบัวคว่ำบัวหงาย มีผ้าทิพย์ห้อย และดอกไม้ อยู่โดยรอบ ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปยันต์กงจักร มีอักษรจารึก มรรคมีองค์ ๘ อักขระขอมที่ปรากฏคือ ทิ คือ สัมมาทิฐิ สํ คือ สัมมาสังกัปโป วา คือ สัมมาวาจา กํ คือ สัมมากัมมันโต อา คือ สัม อาชิโว วา คือ สัมมา วายาโม ส คือ สัมมา สติ สํ คือ สัมมาสมาธิ* รายนามพระเกจิอาจารย์ ที่เข้าร่วมพิธีปลุกเสกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พ.ศ.๒๔๗๕ * (อ้างอิงจากวัดพระแก้วโดยตรง)๑.พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิตร๒. สมเด็จพระวันรัต ( แพ ติสสเทโว ) วัดสุทัศน์๓. พระโพธิวงศาจารย์(นวม) วัดอนงคาราม๔. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) วัดโพธิ์๕. หลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม ฉะเชิงเทรา๖. หลวงพ่อเข้ม วัดม่วง ราชบุรี๗. หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว๘. หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี๙. หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง อุบลฯ๑๐. หลวงพ่อเปี้ยน วัดโพธิราม สุพรรณบุรี๑๑. หลวงพ่อกรัก วัดอัมพวัน ลพบุรี๑๒. เจ้าคุณอุบาลี สิริจันโท วัดบรมนิวาส๑๓. หลวงพ่อช่วง วัดปากน้ำ สุมทรสงคราม๑๔. หลวงพ่อแฉ่ง วัดพิกุลเงิน นนทบุรี๑๕. หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่๑๖. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก๑๗. หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง อยุธยา๑๘. หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย สระบุรี๑๙. หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง๒๐. หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์๒๑. หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม สุมทรสงคราม๒๒. หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี สิงห์บุรี๒๓. หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ กาญจนบุรี๒๔. หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี๒๕. หลวงพ่อทอง วัดเขากบ นครสวรรค์๒๖. หลวงพ่อคง วัดท่าหลวงพล ราชบุรี๒๗. หลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี๒๘. หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สุมทรสงคราม๒๙. หลวงพ่อชม วัดพุทไธสวรรค์ อยุธยา๓๐. หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สุมทรสงคราม๓๑. หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน นครสวรรค์๓๒. หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ๓๓. หลวงพ่อญัติ วัดสายไหม ปทุมธานี๓๔. หลวงพ่อพร วัดดอนเมือง๓๕. หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว๓๖. หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ สิงห์บุรี๓๗. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา๓๘. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา๓๙. หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง พิจิตร๔๐. หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง ราชบุรี๔๑. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ๔๒. หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก๔๓. หลวงพ่อสนธิ์ วัดสุทัศน์เหรียญพระแก้วบล็อค ฮั่งเตียนเซ้ง ด้านหลังใกล้ขอบเหรียญ จะมีชื่อ ฮั่งเตียนเซ้ง อันเป็นชื่อร้านทอง ฮั่งเตียนเซ้ง สมัยนั้นที่ผลิด เช่นเดียวกับบล็อคเพาะช่าง และ บล็อค สุวรรณประดิษฐ์(ร้านนาถาจารุประกร พระยามนูสารบัญชา)สนนราคาเช่าหาพอๆกันตามความสวยครับ บล็อค ฮั่งเตียนเซ้ง จะมีชื่อ ฮั่งเตียนเซ้ง อันเป็นชื่อร้านทอง ฮั่งเตียนเซ้ง สมัยนั้นที่ผลิด เช่นเดียวกับบล็อคเพาะช่าง และ บล็อค สุวรรณประดิษฐ์ (ร้าน นาถาจารุประกร)
1370.ขอเปิดพระบูชา รุ่นแรก หลวงปู่พวง สุวีโร วัดป่าปูลูสันติวัฒนา อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ปี40 หน้าตัก 5 นิ้ว วัตถุมงคลหลวงปู่นานๆเจอที สร้างน้อย หายากครับ เปิดบูชาแบ่งปัน 3,800-หลวงปู่พวง องค์ท่านเป็นพระเถระผู้ปฏิบัติตามปฏิปทาของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เมื่อครั้งที่หลวงปู่มั่น ทรงธาตุขันธ์อยู่ ท่านเป็นผ้าขาว ถือศีล ๘ อยู่กับหลวงปู่สีลา เทวมิตฺโต และหลวงปู่พร สุมโน ได้มีโอกาสเดินทางติดตามพ่อแม่ครูอาจารย์ไปกราบฟังธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าหนองผือนาใน อยู่บ่อยครั้ง และ มีโอกาส ร่วมคณะ ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะศิษยานุศิษย์ที่ช่วยกันหามหลวงปู่มั่น จากวัดป่าบ้านหนองผือ ไปวัดป่าสุทธาวาส หลวงปู่พวง ท่านได้อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ. 2493 หลังจากที่หลวงปู่มั่น ละขันธ์แล้ว เมื่อบวชแล้วได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่ขาว อนาลโย และ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ และได้พากเพียรพยายามปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่มั่น ตลอดชีวิตของท่าน หลวงปู่พวง สุวีโร มรณภาพด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ณ โรคพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๔๖ เวลา ๐๙.๕๐ น. อัฐิ อังคาร หลวงปู่แปรสภาพเป็นพระธาตุครับทำบุญกับพระอรหันต์ ช่วยโยมแม่ได้พ้นทุกข์ วันหนึ่งหลวงปู่พวง นั่งสมาธิเห็นโยมแม่ที่ตายแล้ว ได้เป็นอยู่อย่างอัตคัด ไม่มีผ้านุ่งผ้าห่ม ไม่มีที่อยู่ที่อาศัย จึงอธิษฐานกับพระประธานว่า “ช่วงเช้าไปบิณฑบาต ขอให้มีคนมาถวายผ้า” ครั้นไปบิณฑบาตก็มีคนมาถวายผ้าขาวจริงๆ ท่านจึงนำผ้าขาวไปย้อมด้วยหินสีแดง แล้วนำไปซักตาก พอแห้งก็นำมาย้อมแล้วซักตากอีกรอบ จากนั้นก็นำไปพับถวายหลวงปู่ขาว กราบเรียนท่านว่า “ขอโอกาสพ่อแม่ครูจารย์ บังสุกุลแน อุทิศให้แม่” หลวงปู่ขาว จึงชักผ้าบังสุกุลให้ คืนนั้นหลวงปู่พวง นั่งภาวนาเห็นโยมแม่ มีผ้านุ่งผ้าห่มผืนใหม่ แล้วยังมีผ้าอีกหลายผืนห้อยเต็มไปหมดจากนั้นหลวงปู่พวงจึงคิดว่าทำอย่างไร โยมแม่จึงมีที่อยู่ที่อาศัย หลายวันต่อมา มีโยมนิมนต์หลวงปู่ขาว กับพระที่วัดไปสวดมนต์ที่บ้าน หลวงปู่พวง จึงได้มีโอกาสตามไปด้วย ญาติโยมได้ถวายปัจจัย หลวงปู่ขาว จึงบอกกับพระสงฆ์ว่า อัฐบริขารเราก็มีอยู่พร้อมแล้ว ให้นำปัจจัยนี้ไปสร้างกุฏิ และถาน(ส้วม) ตามที่ท่านพวง อธิษฐานไว้ ครั้นเมื่อสร้างเสร็จ หลวงปู่พวง จึงได้น้อมถวายกุฏิ และถาน(ส้วม) แก่หลวงปู่ขาว อนาลโย จากนั้นตกกลางคืน หลวงปู่พวงได้นั่งสมาธิ มองหาแม่ ออกตามหาทั้งคืนก็ไม่เห็น ผ่านไป ๔ วัน จึงไปกราบเรียนหลวงปุ่ขาว “ขอโอกาสพ่อแม่ครูจารย์ หาแม่บ่เห็น” หลวงปู่ขาว บอกให้ ”ขึ้นสูงๆ” หลวงปูพวง จึงนั่งสมาธิหาตามยอดไม้ก็ไม่เห็น หรือจะเป็นที่สวรรค์กันแน่ ท่านจึงรวบรวม สมาธิ กำหนดจิตทั้งหมดขึ้นไปดู จึงเห็นวิมานของโยมแม่บนสวรรค์ เห็นร่างกายที่เป็นทิพย์ของโยมแม่ จึงได้สบายใจว่าโยมแม่ได้ขึ้นสวรรค์พ้นจากทุกข์แล้ว
1372.ขอเปิดสุดยอดเครื่องรางของเมืองสุพรรณ พิรอดแขวน หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ปี2470 เนื้อทองเหลืองสำริด หัวฝังเมฆสิทธิ์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว แม้จะผ่านกาลเวลาร่วมๆจะ 100 ปี สภาพยังสมบูรณ์ หายาก พบเจอน้อยกว่า นางกวัก และ แหวนพิรอด หลายเท่าครับ ฝีมือช่างศิลป์ชาวบ้าน ขึ้นงานหล่อด้วยมือล้วนๆ ทำให้แต่ละชิ้นจะมีความงดงามด้วยพุทธศิลป์แตกต่างกัน ตามแต่ช่างจะรังสรรค์ วัตถุมงคงของหลวงพ่ออิ่มมีพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาด คงกระพัน ป้องกันเขี้ยวงาจากสัตว์ร้ายต่างๆโดยเฉพาะเรื่องป้องกันงูหรืออสรพิษ นานๆเจอที นับชิ้นได้ ต่อไปจะเป็นตำนานครับ เปิดบูชา 6,500-••หลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขา•• ท่านเป็นพระที่เคร่งในพระธรรมวินัย และญาณสมาบัติสูง ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า แม้หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ยังยกย่อง ด้วยความเคารพ เรียกหลวงพ่ออิ่มว่า “พระเจดีย์” ซึ่งหมายถึงว่า เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่น่าเคารพยกย่องเหมือนกับเป็นพระสถูป หรือพระเจดีย์ ที่ควรค่าแก่การสักการะบูชา หลวงปู่อิ่ม ท่านเป็นอาจารย์องค์แรก ผู้ประสิทธิ ประสาทวิชาให้หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ประวัติกล่าวว่า พ่อมุ่ยท่านก็ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออิ่ม แวะเวียนไปมาหาสู่กับหลวงพ่ออิ่มเป็นประจำ อีกทั้งยังเคยไปจำพรรษาที่วัดหัวเขาเป็นเวลา ๑ พรรษา เพื่อเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่ออิ่ม และหลวงพ่ออิ่มยังพาไปศึกษาต่อกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วยสมัยที่หลวงพ่ออิ่มท่านได้ปกครองวัดหัวเขา ท่านพัฒนาวัดหัวเขาจนเป็นวัดที่เจริญวัดหนึ่งในสมัยนั้น และมีพระภิกษุสงฆ์เดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์มากมาย อาทิ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ , หลวงพ่อปุย วัดเกาะ , หลวงปู่แขก วัดหัวเขา และหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน เป็นต้นหลวงพ่ออิ่มท่านมรณภาพเมื่อประมาณต้นปีพ.ศ.๒๔๘๐ สิริอายุ ๗๔ปีคุณวิเศษของหลวงพ่ออิ่ม 1.ตามประวัติของท่านได้กล่าวเอาไว้ว่าครั้งหนึ่งหลวงพ่ออิ่มท่านได้ไปธุระ ระหว่างทางท่านได้พบหลุมศพ มีกระจ่าปักไว้ที่หลุมฝังศพแสดงว่าศพนี้ถูกงูกัดตายและเพิ่งถูกฝังใหม่ๆ ท่านจึงได้สั่งให้ลูกศิษย์ที่ติดตามไปด้วยนำเอายาแก้พิษงูของท่านนำไปกรอกใส่ปากศพคนตายซึ่งเป็นผู้หญิง ปรากฏว่าสักพักหนึ่งคนตายเริ่มหายใจและขยับร่างกายได้ท่านจึงสั่งให้ลูกศิษย์นำยาไปผสมกับน้ำและให้หญิงคนนั้นกินเข้าไปอีกครั้งปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นสามารถลุกขึ้นนั่งและเดินได้ 2.อภินิหารของท่านอีกเรื่องหนึ่งตามประวัติกล่าวไว้ว่าแต่ก่อนพื้นที่บริเวณวัดหัวเขายังเป็นป่าเป็นพงรกหลวงพ่ออิ่มท่านจึงเกณฑ์ชาวบ้านและพระเณรมาช่วยกันถากถางพอทำงานไปได้สักระยะหนึ่งปรากฏว่าทุกคนเริ่มเหนื่อยล้าและหมดแรง หลวงพ่ออิ่มท่านจึงนำผ้าอาบน้ำฝนมาเสกให้เป็นกระต่ายวิ่งไปมาชาวบ้านและคนที่มาช่วยงานครั้นเห็นอย่างนั้นจึงไล่จับกันอย่างสนุกสนานพอจับได้กับปรากฏว่าเป็นผ้าอาบน้ำฝนของหลวงพ่ออิ่มตามเดิมทำให้ชาวบ้านได้ผ่อนคลายและมีเรี่ยวแรงกลับมาช่วยทำงานจนเสร็จสิ้น 3.กล่าวกันว่าท่านมีคุณวิเศษสามารถเดินตากฝนกลางแจ้งในขณะเวลาที่ฝนกำลังตกได้โดยที่ท่านไม่เปียกฝนเลย และยังสามารถทำมือยาวไปหยิบกระเบื้องบนหลังคาโบสถ์ได้ การจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่ออิ่ม พูดถึงพระเกจิที่สร้างนางกวัก แหวน พิรอดแขน หัวเมฆสิทธิ์ ได้ขลังและมีชื่อเสียงมากที่สุด จะต้องนึกหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศ เครื่องรางของหลวงพ่ออิ่ม สร้างหลายครั้งก่อน ปี2480การจัดสร้างวัตถุมงคลประเภทโลหะหล่อของหลวงพ่ออิ่ม ท่านจะประกาศข่าวออกไปให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทราบ ใครอยากจะร่วมบุญอะไร อย่างไร ก็นำมาร่วมสร้างได้เช่น เช่น สร้อย กำไล ขันเงิน ฯลฯ แล้วแต่ศรัทธาของเจ้าภาพ เมื่อถึงเวลาก็จะนำโลหะต่าง ๆ เหล่านั้นนำมาหลอมรวมกันให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยว่ากันว่าลพ.อิ่มท่านจะใช้กสิณไฟซึ่งท่านจะส่งพลังออกไปจากตัวท่านไปยัง เต้าหลอม ดังนั้นโลหะแม้ว่าจะต่างชนิดกันก็สามารถหล่อหลอมตัวเข้าหากันได้ ดังนั้นของหลวงพ่อ จึงเป็นที่ต้องการกันมากโดยเฉพาะบรรดานักเล่นเครื่องรางรุ่นเก่า บรรจุ ในหนังสือ ตามรอยตำนาน เครื่องราง ของขลัง ของ คุณพยัพ คำพันธ์ุ
1376.ขอเปิดรูปถ่ายขาวดำ ขนาดห้อยคอ หลวงพ่อแล วัดพระทรง จ.เพชรบุรี ปี1ต้นๆ หลังยันต์หมึกรอยจารมือหลวงพ่อ หายาก พบเจอน้อย ยิ่งรอยจารแบบนี้นานๆจะเจอครับรูปถ่ายเก่าๆผิวปรอทเต็มภาพครับ สายเหนียวไม่ควรพลาดครับ เปิดบูชา 800-หลวงพ่อแล สุดยอดพระเกจิ ของเมืองเพชร เรียนวิชาหลากหลายแขนง จากสุดยอดพระเกจิอาจารย์ ถึง15 รูป"หลวงพ่อแล ทิตัพโพ" แห่งวัดพระทรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคมศิษย์สายหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง และหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลืองโดยได้ศึกษากับครูบาอาจารย์เฉพาะในเพชรบุรีเพียงจังหวัดเดียวถึง 7 ท่าน เริ่มจากหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง เรียนวิชาถอนพิษแมลงต่างๆ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ร่ำเรียนวิชาสักยันต์ครู ซึ่งเป็นยันต์สูงสุดของการสัก เป็นยันต์แรกที่เรียกว่า "หัวใจพระราม"ด้านโหราศาสตร์ ศึกษากับ หลวงพ่อชิต วัดมหาธาตุวรวิหาร ศึกษาวิชาพระขรรค์ จากหลวงพ่อโสก วัดปากคลอง อ.บ้านแหลม พร้อมทั้งวิชาตะกรุดโทน ตะกรุดแฝด จากหลวงพ่อผัน วัดมหาธาตุวรวิหาร ได้เรียนสักตัวมหาเมฆ จากคุณพ่อต่อและคุณพ่อจันทร์ ศิษย์พระครูสันต์ แห่งวัดเขาวัง จ.เพชรบุรี เรียนวิชาลงนะหน้าทองกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม อ.ดอนตูม และวิชาผงยาจินดามณี ที่ทำมาจากเบี้ยแก้ กับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว รียนวิชาชูชกกับหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน อ.เมือง และเรียนวิชาตะกรุดไม้ไผ่ จากหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ อ.กระทุ่มแบน ก่อนเข้าสู่กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี เรียนวิชาเบี้ยแก้ กับหลวงปู่รอด วัดนายโรง ตลิ่งชัน แล้วมุ่งไปเมืองอยุธยา เรียนวิชาตะกรุดพวง และยันต์หัวใจปลาตะเพียนมหาลาภจากหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร ก่อนเดินทางขึ้นเหนือถึง จ.นครสวรรค์ เรียนวิชาศาสตรามีดหมอจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อ.ตาคลี และสุดท้ายย้อนมาภาคตะวันออก เป็นลูกศิษย์หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีและด้วยสรรพวิชามากมาย ที่หลวงพ่อแลได้ร่ำเรียนมานั้น ทำให้ท่านมีชื่อเสียงอย่างมาก จากศรัทธาของผู้คน เรียกทั้งเมืองเพชรบุรีไม่มีใคร ไม่รู้จักท่าน โดยเฉพาะกลุ่มชายหนุ่ม หรือ ผู้ที่มีจิตใจสนใจในศาสตร์วิทยาคม ต่างมุ่งหน้าสู่วัดพระทรง เพื่อเข้ารับการสักยันต์จากหลวงพ่อแล โดยเฉพาะยันต์สำคัญที่ทุกคน เมื่อก้าวไปอยู่เบื้องหน้าท่าน ต้องได้รับการสัก นั่น็คือ ยันต์หนุมาน ที่มีความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญประจำตัวของท่าน
1375.ล็อคเก็ตรุ่นแรกเต็มองค์ พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน จ.นครศรีธรรมราช ปี50 หลังบรรจุผง เกศา และตะกรุดจารมือ สร้างน้อย วัตถุมงคลพ่อท่านมีประสบการณ์มากมาย วัตถุมงคลท่านเป็นที่นิยมของลูกศิษย์มากครับ จัดเป็นพระเกจิชั้นแนวหน้าที่ได้รับความเคารพนับถือ ของภาคใต้อีกองค์ เปิดบูชา 1200-พ่อท่านเอื้อม (15 กันยายน พ.ศ. 2449 — 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557) ท่านเป็นพระคณาจารย์อีกรูปหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช ทางด้านอิทธิปาฏิหาริย์ ทางด้านคงกระพัน เมตตามหานิยม นับเป็นพระคณาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มีอายุยืนยาวถึง 5 แผ่นดินคือ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว - รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรก่อนที่ท่านจะเป็นพระท่านได้เคยเป็นเสีอมาก่อน และเคยได้ปะทะกับท่านพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช ต่างคนต่างมีวิชาสายสำนักเขาอ้อเหมือนกัน จนกระทั่ง ท่านทั้งสองได้คบหาเป็นสหายกัน พ่อท่านเอื้อมกลับใจมาอุปสมบทเป็นครั้งที่ 2ในบวรพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2514 ณ พัทธสีมา วัดปากเชียร อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีพระครูถาวรบุญรัต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมานิต มานิโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ไดรับฉายาว่า กตปุญโญหลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดปากเชียร ได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากนั้นได้เดินทางจากรึกธุดงค์ไปยังป่าเขา ขึ้นเหนือประจวบคีรีขันธ์ ลงใต้สำนักบางอ้อ ไปสุดชายแดนมาเลเซีย พ่อท่านเอื้อม ท่านได้ศึกษาพระธรรมอย่างถ่องแท้ ในระหว่างที่ท่านได้เดินผ่านภูเขา ผ่านมาตั้ง 69 ลูก และได้ปักกลดมา ณ ที่นั้น ท่านได้ใช้ความพยายามและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด บรรลุธรรมขั้นสูง และนอกจากศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดแล้ว ท่านยังมีการศึกษาค้นหาไสยเวท และวิทยาคมศาสตร์ต่าง ๆ และจนถึงปัจจุบัน ท่านจึงมีความรู้แตกฉาน ลึกซึ้งถึงทางด้านไสยเวท ไสยศาสตร์ เวทมนตร์ คาถา จนกระทั่งตอนนี้ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของทางภาคใต้ และสร้างวัตถุมงคลทางด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ป้องกันอันตรายต่าง ๆ และให้โชคลาภ คุ้มครองผู้กระทำความดี จนผู้คนศรัทธาในตัวของท่าน และแสวงหาวัตถุของท่านมาบูชา พ่อท่านเอื้อม ละสังขาร เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557 สิริอายุ 108 ปี 2 เดือน 8 วัน
1373.ขอเปิดล็อคเก็ต รุ่น2 หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร พิมพ์ใหญ่ ฉากซีเปีย พบเจอน้อยมากๆๆครับ ส่วนมากเจอฉากหลังสีขาว สีฟ้า ด้านหลังบรรจุจีวรและเกศาหลวงปู่ฝั้น พร้อมเลี่ยมทองนานๆเจอที ล็อคเก็ตรุ่นแรก หลายๆหมื่นถึงแสน รุ่น2 ยังพอเก็บได้ครับ นานๆเจอทีครับแบบนี้ สภาพสวยสมบูรณ์ครับ เปิดบูชา 12,000
อ้างจาก: thesun ที่ ตุลาคม 10, 2022, 04:48:34 PM1373.ขอเปิดล็อคเก็ต รุ่น2 หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร พิมพ์ใหญ่ ฉากซีเปีย พบเจอน้อยมากๆๆครับ ส่วนมากเจอฉากหลังสีขาว สีฟ้า ด้านหลังบรรจุจีวรและเกศาหลวงปู่ฝั้น พร้อมเลี่ยมทองนานๆเจอที ล็อคเก็ตรุ่นแรก หลายๆหมื่นถึงแสน รุ่น2 ยังพอเก็บได้ครับ นานๆเจอทีครับแบบนี้ สภาพสวยสมบูรณ์ครับ เปิดบูชา 12,000ขอจองครับ