ยางรถเก๋ง หลายคนมองว่าใช้งานในการวิ่งบนถนนลาดยาง ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงเหมือนยางรถยนต์ SUV จึงไม่ได้สนใจข้อควรรู้ต่าง ๆ แต่ยางรถเก๋งมีประเด็นที่ควรรู้ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และถนอมคุณภาพของยางจนใช้ได้นาน มาดูกันดีกว่าว่า 6 สิ่งสำคัญที่คนขับรถควรรู้มีอะไรบ้าง
ความสำคัญของจุกยางจุกยางรถยนต์เป็นสิ่งแรกที่คนขับขี่รถยนต์มักมองข้าม เนื่องจากฝาจุกยางมีขนาดเล็กแม้จะหายไป คนขับรถก็ไม่อยากเสียเวลาหาจุกยางใหม่มาใส่ แต่รู้หรือไม่ว่าจุกยางมีความสำคัญมากต่อยางรถยนต์ เพราะช่วยรักษาลมและแรงดันภายในยางให้มีสภาพเหมาะสมกับการขับขี่ อีกทั้งป้องกันไม่ให้สิ่งกีดขวางเล็ก ๆ อย่างเศษแก้วหรือก้อนกรวดเข้าไปในเนื้อยางจนทำให้ยางเสียหายและเกิดอุบัติเหตุในการขับขี่
ลิมิตของยางยางรถยนต์ทุกชนิดจะมีความเร็วสูงสุดที่รองรับได้ คนขับรถมักเข้าใจว่ายางรองรับความเร็วในการขับขี่ตามเลขความเร็วที่อยู่ในมิเตอร์ แต่ความจริงแล้วยางทุกเส้นจะมีระบุไว้ที่หน้ายางว่าสามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ที่เท่าไร เช่น ตัวอักษร W บนหน้ายางบ่งชี้ว่ายางที่ใช้ขับขี่อยู่รองรับความเร็วสูงสุดได้ราว 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ยางแต่ละชนิดจะรองรับความเร็วได้มากน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะของรถที่ใช้เป็นหลัก
เช็กยางตามคู่มือป้องกันลมยางต่ำกว่าที่กำหนด การเช็กลมยางสม่ำเสมอช่วยป้องกันการเกิดยางสึก แม้คนทั่วไปเข้าใจว่ายางสึกเกิดจากยางใช้งานบ่อย เบรกถี่ และขับรถด้วยความเร็วสูง แต่การเติมลมเข้ายางน้อยกว่าที่กำหนดหน้ายางก็สามารถสึกได้เช่นเดียวกัน เพราะหน้ายางสัมผัสกับถนนไม่สม่ำเสมอทำให้หน้ายางบางส่วนถูกับถนนมากเกินไปจนเกิดรอยสึกทิ้งไว้เป็นดวงหรือเป็นแนวยาว เมื่อหน้ายางสึกแล้วต้องขับขี่บนพื้นถนนเปียกอาจทำให้รถเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นลมยางจึงควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม วิธีการเช็กลมยางเบื้องต้นคือใช้เกจ์วัดลมที่วาล์วและตรวจสอบค่าความดันลมให้อยู่ในระดับที่กำหนด
สภาพอากาศมีผลกับยางอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความดันของยางเปลี่ยนไปนั่นคืออุณหภูมิภายนอก สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้เมื่อฤดูหนาวมาเยือน หากอุณหภูมิลดลงประมาณ 12 องศาเซลเซียส จะทำให้ความดันของยางลดลง 1 PSI และหน้ายางอาจอ่อนตัวลงจึงควรระวังอยู่เสมอ
ข้อแตกต่างระหว่างยางรถเก๋งและยางบรรทุก ยางบรรทุกกับยางรถเก๋งสามารถสังเกตเบื้องต้นด้วยการอ่านค่าตัวเลขบนยางที่บ่งบอกพิกัดที่ใช้บรรทุก หากมีค่าสูงมาก เช่น 118 ที่แทนการรองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 1,320 กิโลกรัม ยาง 4 เส้นรวมกันหนัก 1,320*4 = 5,280 กิโลกรัม เป็นไปไม่ได้ที่รถเก๋งจะมีศักยภาพบรรทุกของหนักเกิน 5 ตัน เพราะยางรถเก๋งส่วนมากเป็น ยางนุ่มเงียบ มีความสามารถบรรทุกน้อย เหมาะกับการใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน
ตรวจเช็กยางอะไหล่อยู่เสมอนอกจากยางหลักทั้งสี่เส้นแล้วยางอะไหล่ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ควรหมั่นตรวจเช็กสภาพและเติมลมยางให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพราะหากเกิดเหตุยางรั่วระหว่างการเดินทางจะได้นำออกมาเปลี่ยนได้ทันท่วงที ไม่ต้องเสียเวลารอช่างและเสี่ยงจะได้รับอันตรายจากสิ่งที่ไม่คาดคิดระหว่างการรอ
ทั้งหมดนี้เป็น 6 สิ่งที่คนขับรถเก๋งควรทราบเพื่อจะได้รับความปลอดภัยในการขับขี่และเดินทางได้อย่างสะดวก หากรถของคุณเข้ากันได้ดีกับยางรถยนต์ขอบ 17 และต้องการเปลี่ยนยางชนิดนี้ แต่ไม่ทราบว่าจะเปลี่ยน ยาง รถยนต์ ขอบ 17 ยี่ห้อ ไหน ดี ขอแนะนำ
ยางนุ่มเงียบTURANZA T005A จาก Bridgestone ซึ่งจะให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับกว่าที่เคย ทั้งในด้านความนุ่ม เงียบ และยังมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้เยี่ยม ช่วยให้เดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยไร้กังวล