ยางรถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่คนใช้รถต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ ตั้งแต่การเปลี่ยนยางตามอายุการใช้งานและระยะทาง การสังเกตระหว่างใช้งานว่ายางเสื่อมสภาพและเกิดความเสียหายหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับทุกคน วิธีง่ายที่สุดคือเริ่มจากทำความรู้จักดอกยาง เพราะจะทำให้คุณเข้าใจทั้งวิธีเลือกยางที่เหมาะกับรถ รวมถึงวิธีเช็กว่ายางเสื่อมสภาพหรือไม่

         ดอกยาง คือส่วนของหน้ายางที่ต้องสัมผัสพื้นถนนโดยตรง มีทั้งส่วนที่เป็นดอกยางและร่องยาง ซึ่งดอกยางมีหน้าที่เกาะถนน ส่วนร่องดอกยางทำหน้าที่รีดน้ำ จึงทำให้ยางไม่ว่าจะประเภทใดก็ตามสามารถเกาะถนนได้ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง

       สำหรับยางประเภทไหนจะเหมาะกับสภาพถนนแบบไหนมากกว่ากันขึ้นอยู่กับประเภทและรูปแบบดอกยาง ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. ดอกยางแบบสมมาตรหรือดอกยางแบบสองทิศทาง คือลายดอกยางที่มีลักษณะสวนทางกัน ออกแบบมาเพื่อความยืดหยุ่นในการสับเปลี่ยนยาง แต่จะไม่เหมาะกับการขับรถที่ใช้ความเร็วสูง จึงเป็นยางที่ลงตัวกับการใช้งานทั่วไป

2. ดอกยางแบบไม่สมมาตร ดอกยางประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้ด้านในมีประสิทธิภาพการเกาะถนน ส่วนด้านนอกเป็นร่องดอกยางที่มีคุณสมบัติรีดน้ำ จึงทำให้การเดินทางทำได้ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง รวมถึงใช้ความเร็วได้มากกว่ายางแบบแรก นอกจากนี้ยังคงคุณสมบัตินุ่มเงียบเอาไว้ได้ ตัวอย่างยางที่ใช้ดอกยางประเภทนี้ เช่น ยาง รถยนต์ bridgestone TURANZA T005A

3. ดอกยางแบบทิศทางเดียวหรือแบบกำหนดทิศทางการหมุน ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่รักความเร็ว จึงพบมากในยางสปอร์ตสมรรถนะสูง

          นอกจากรูปแบบดอกยางแล้วการเลือกยางรถยนต์ ให้เหมาะกับการใช้งานยังต้องคำนึงถึงเส้นทางที่เราใช้รถเป็นประจำด้วย เช่น หากต้องการยางที่วิ่งได้ดีทั้งทางเรียบและทางขรุขระแบบกึ่งออฟโรด ควรเลือกยาง A/T ซึ่งลักษณะเด่นคือดอกยางด้านในเป็นแบบละเอียด ส่วนด้านนอกเป็นร่องยางแบบลึกเพื่อการเข้าถึงพื้นที่ยากลำบาก แต่หากคุณเป็นสายออฟโรดตัวจริงควรเลือกดอกยางแบบบล็อก ซึ่งพบมากในยาง M/T (Mud Terrain)
           เมื่อรู้แล้วว่าดอกยางมีหน้าที่ยึดเกาะถนนเราจึงควรรู้วิธีสังเกตเมื่อยางเสื่อมสภาพ โดยดูได้จากความลึกของร่องดอกยาง หากร่องดอกยางมีความลึกประมาณ 3 มม. แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางได้แล้ว และไม่ควรปล่อยให้ร่องดอกยางมีความลึกเหลือเพียง 1.6 มม. เพราะนั่นคือยางที่เสื่อมสภาพและไม่ควรใช้ต่อไป สำหรับการวัดความลึกร่องดอกยางวิธีง่ายที่สุดคือใช้เหรียญเป็นตัวช่วยหรืออาจลงทุนกับเครื่องวัดร่องดอกยางก็ได้

          การเลือกดอกยางที่เหมาะกับรถมีความสำคัญต่อความปลอดภัยโดยตรง และหากคุณกำลังมองหา ยาง นุ่ม เงียบ เพื่อการใช้งานทั่วไป เราขอแนะนำ TURANZA T005A จาก Bridgestone ยางซึ่งได้รับการทดสอบแล้วว่าเกาะถนนได้ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง รวมถึงใช้ความเร็วได้ดีเพราะลายดอกยางถูกออกแบบมาให้เป็นแบบไม่สมมาตร แต่หากคุณเป็นสายออฟโรดยาง bridgestone​ ก็มียางให้เลือกเช่นกันทั้งแบบ A/T และ M/T นอกจากนี้ยังมียางสปอร์ตไว้รองรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ความเร็วอีกด้วย

มาดู ยางรถยนต์ bridgestone​   https://www.grandprix.co.th/วิธีการเลือกยางรถยนต์/ 

         ยางรถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่คนใช้รถต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ ตั้งแต่การเปลี่ยนยางตามอายุการใช้งานและระยะทาง การสังเกตระหว่างใช้งานว่ายางเสื่อมสภาพและเกิดความเสียหายหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับทุกคน วิธีง่ายที่สุดคือเริ่มจากทำความรู้จักดอกยาง เพราะจะทำให้คุณเข้าใจทั้งวิธีเลือกยางที่เหมาะกับรถ รวมถึงวิธีเช็กว่ายางเสื่อมสภาพหรือไม่

         ดอกยาง คือส่วนของหน้ายางที่ต้องสัมผัสพื้นถนนโดยตรง มีทั้งส่วนที่เป็นดอกยางและร่องยาง ซึ่งดอกยางมีหน้าที่เกาะถนน ส่วนร่องดอกยางทำหน้าที่รีดน้ำ จึงทำให้ยางไม่ว่าจะประเภทใดก็ตามสามารถเกาะถนนได้ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง

       สำหรับยางประเภทไหนจะเหมาะกับสภาพถนนแบบไหนมากกว่ากันขึ้นอยู่กับประเภทและรูปแบบดอกยาง ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. ดอกยางแบบสมมาตรหรือดอกยางแบบสองทิศทาง คือลายดอกยางที่มีลักษณะสวนทางกัน ออกแบบมาเพื่อความยืดหยุ่นในการสับเปลี่ยนยาง แต่จะไม่เหมาะกับการขับรถที่ใช้ความเร็วสูง จึงเป็นยางที่ลงตัวกับการใช้งานทั่วไป

2. ดอกยางแบบไม่สมมาตร ดอกยางประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้ด้านในมีประสิทธิภาพการเกาะถนน ส่วนด้านนอกเป็นร่องดอกยางที่มีคุณสมบัติรีดน้ำ จึงทำให้การเดินทางทำได้ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง รวมถึงใช้ความเร็วได้มากกว่ายางแบบแรก นอกจากนี้ยังคงคุณสมบัตินุ่มเงียบเอาไว้ได้ ตัวอย่างยางที่ใช้ดอกยางประเภทนี้ เช่น ยาง รถยนต์ bridgestone TURANZA T005A

3. ดอกยางแบบทิศทางเดียวหรือแบบกำหนดทิศทางการหมุน ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่รักความเร็ว จึงพบมากในยางสปอร์ตสมรรถนะสูง

          นอกจากรูปแบบดอกยางแล้วการเลือกยางรถยนต์ ให้เหมาะกับการใช้งานยังต้องคำนึงถึงเส้นทางที่เราใช้รถเป็นประจำด้วย เช่น หากต้องการยางที่วิ่งได้ดีทั้งทางเรียบและทางขรุขระแบบกึ่งออฟโรด ควรเลือกยาง A/T ซึ่งลักษณะเด่นคือดอกยางด้านในเป็นแบบละเอียด ส่วนด้านนอกเป็นร่องยางแบบลึกเพื่อการเข้าถึงพื้นที่ยากลำบาก แต่หากคุณเป็นสายออฟโรดตัวจริงควรเลือกดอกยางแบบบล็อก ซึ่งพบมากในยาง M/T (Mud Terrain)
           เมื่อรู้แล้วว่าดอกยางมีหน้าที่ยึดเกาะถนนเราจึงควรรู้วิธีสังเกตเมื่อยางเสื่อมสภาพ โดยดูได้จากความลึกของร่องดอกยาง หากร่องดอกยางมีความลึกประมาณ 3 มม. แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางได้แล้ว และไม่ควรปล่อยให้ร่องดอกยางมีความลึกเหลือเพียง 1.6 มม. เพราะนั่นคือยางที่เสื่อมสภาพและไม่ควรใช้ต่อไป สำหรับการวัดความลึกร่องดอกยางวิธีง่ายที่สุดคือใช้เหรียญเป็นตัวช่วยหรืออาจลงทุนกับเครื่องวัดร่องดอกยางก็ได้

          การเลือกดอกยางที่เหมาะกับรถมีความสำคัญต่อความปลอดภัยโดยตรง และหากคุณกำลังมองหา ยาง นุ่ม เงียบ เพื่อการใช้งานทั่วไป เราขอแนะนำ TURANZA T005A จาก Bridgestone ยางซึ่งได้รับการทดสอบแล้วว่าเกาะถนนได้ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง รวมถึงใช้ความเร็วได้ดีเพราะลายดอกยางถูกออกแบบมาให้เป็นแบบไม่สมมาตร แต่หากคุณเป็นสายออฟโรดยาง bridgestone​ ก็มียางให้เลือกเช่นกันทั้งแบบ A/T และ M/T นอกจากนี้ยังมียางสปอร์ตไว้รองรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ความเร็วอีกด้วย

มาดู ยางรถยนต์ bridgestone​   https://www.grandprix.co.th/วิธีการเลือกยางรถยนต์/