[Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป(อ่าน 648387 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

1440.ขอเปิดพระกริ่งรุ่นแรก กริ่ง "บันดาลทรัพย์" หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าหนองช้างคาว (วัดป่าภูเขาหลวง) จ.อุดรธานี ปี54  กริ่งรุ่นนี้ หลวงปู่เป็นผู้ ตั้งชื่อรุ่นให้ครับ เนื้อนวโลหะ ก้นเงิน ก้นจารมือหลวงปู่
และจารด้านหลังองค์พระ  เนื้อพิเศษแบบนี้สร้างน้อย ไม่เจอบ่อยครับ ส่วนมากจะอยู่กลุ่มผู้สร้าง ไม่ค่อยหลุดออกมา ผมขอแบ่งกลุ่มผู้สร้างมาท่านหมดกรุแล้วครับ  กริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่ นิยมครับ ยิ่งหลวงปู่ตั้งใจจารให้แบบนี้
ไม่มีอีกแล้วครับ แสดงถึงความเมตตาของหลวงปู่ครับ  หลวงปู่ท่าน พึ่งจะสลายธาตุขันธ์ไปเมื่อวานนี้ครับ สิ้นโลกเหลือแต่ธรรม และวัตถุมงคลที่ระลึกของปู่ครับ เก็บไว้บูชาระลึกถึงองค์ท่าน และเป็นศิริมงคล
  ผมเปิดบูชาคู่แบ่งปันเบียดทุน 5,000 ครับ
ถ้าแยกขอองค์ละ 3,000 ครับ
  (ราคากลาง สมัยก่อน หลวงปู่ยังอยู่ เนื้อพิเศษนี้ เช่าหาเปลี่ยนมือกัน องค์ละ หลักพันกลางๆ ถึงหลักพันปลายๆครับ )

ปิดหมดครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 06, 2023, 10:51:07 AM โดย thesun »



1441.ขอเปิดล็อคเก็ตหายาก ยอดนิยม สายวัดกลางบางแก้ว ล็อคเก็ตหัวใจรุ่นแรก หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ปี18 ฉากเขียว นิยม เลี่ยมทองเดิมจากวัด ทอง%ดี เฉพาะทองเกือบ3กรัมครับ (ทองเกือบๆห้าพันบาท)
สร้างน้อย หายาก นานๆจะมีให้เห็นทีครับ มีในรายการประกวดเสมอ ตัวจริงเสียงจริง
เปิดบูชาแบ่งปัน 6,500- (สมัยก่อนต้องมีหมื่นกว่าบาทครับ)

ปิดครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 06, 2023, 03:45:42 PM โดย thesun »



1440.ขอเปิดพระกริ่งรุ่นแรก กริ่ง "บันดาลทรัพย์" หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าหนองช้างคาว (วัดป่าภูเขาหลวง) จ.อุดรธานี ปี54  กริ่งรุ่นนี้ หลวงปู่เป็นผู้ ตั้งชื่อรุ่นให้ครับ เนื้อนวโลหะ ก้นเงิน ก้นจารมือหลวงปู่
และจารด้านหลังองค์พระ  เนื้อพิเศษแบบนี้สร้างน้อย ไม่เจอบ่อยครับ ส่วนมากจะอยู่กลุ่มผู้สร้าง ไม่ค่อยหลุดออกมา ผมขอแบ่งกลุ่มผู้สร้างมาท่านหมดกรุแล้วครับ  กริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่ นิยมครับ ยิ่งหลวงปู่ตั้งใจจารให้แบบนี้
ไม่มีอีกแล้วครับ แสดงถึงความเมตตาของหลวงปู่ครับ  หลวงปู่ท่าน พึ่งจะสลายธาตุขันธ์ไปเมื่อวานนี้ครับ สิ้นโลกเหลือแต่ธรรม และวัตถุมงคลที่ระลึกของปู่ครับ เก็บไว้บูชาระลึกถึงองค์ท่าน และเป็นศิริมงคล
  ผมเปิดบูชาคู่แบ่งปันเบียดทุน 5,000 ครับ
ถ้าแยกขอองค์ละ 3,000 ครับ
  (ราคากลาง สมัยก่อน หลวงปู่ยังอยู่ เนื้อพิเศษนี้ เช่าหาเปลี่ยนมือกัน องค์ละ หลักพันกลางๆ ถึงหลักพันปลายๆครับ )





1440.1 พระกริ่งรุ่นแรก กริ่ง "บันดาลทรัพย์" เนื้อนวโลหะก้นเงิน  หมายเลข 62  หลังตอกหมายเลขประจำองค์พระ ตอกโค้ตเม็ดงา  ตอกโค้ตเลข ๙  และองค์นี้ พิเศษตอกโค้ต ๙๙๙ เพิ่มอีกจุดครับ










1440.2 กริ่ง "บันดาลทรัพย์" เนื้อนวโลหะก้นเงิน  หมายเลข 64  หลังตอกหมายเลขประจำองค์พระ ตอกโค้ตเม็ดงา และ โค้ตเลข ๙









ปิด รายการ 1440.1 ครับ



1441.ขอเปิดล็อคเก็ตหายาก ยอดนิยม สายวัดกลางบางแก้ว ล็อคเก็ตหัวใจรุ่นแรก หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ปี18 ฉากเขียว นิยม เลี่ยมทองเดิมจากวัด ทอง%ดี เฉพาะทองเกือบ3กรัมครับ (ทองเกือบๆห้าพันบาท)
สร้างน้อย หายาก นานๆจะมีให้เห็นทีครับ มีในรายการประกวดเสมอ ตัวจริงเสียงจริง
เปิดบูชาแบ่งปัน 6,500- (สมัยก่อนต้องมีหมื่นกว่าบาทครับ)
















ปิดครับส่งกลับนครชัยศรี 🙏



1442.ขอเปิดเหรียญเม็ดแตง หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี08 บล็อคไนกี้ จัดเป็นเหรียญเม็ดแตงยอดนิยมของประเทศ บล็อคไนกี้ สภาพสวย บล็อคนิยมอันดับต้นๆของเหรียญเม็ดแตง
หลวงปู่ทวด หาชมยาก พบเจอน้อย สภาพสวยระดับประกวด เล็กดี รสโต พุทธคุณไม่ต้องบรรยายครับ นำไปเลี่ยมทองขึ้นคอได้เลยครับ รับประกันตลอดชีพ พระดีอนคตไกล
เปิดบูชาแบ่งปัน 16,500
(อยู่สายตรงแพงกว่านี้ ไม่ได้ราคานี้ครับ สมัยก่อนเศรษฐกิจดีๆ สภาพนี้ต้องมี สามหมื่นขึ้นครับ เก็บตอนนี้ถือว่าได้ของดีราคาเบาครับ)


ปิดท่าน j999 ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 12, 2023, 01:07:41 AM โดย thesun »



1443.ขอเปิดล็อคเก็ต หลวงปู่ ครูบาอินสม สุวีโร  วัดพระธาตุจอมทอง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หลังอุดผง มวลสาร สมัยที่ท่านอยู่กับครูบาผาผ่า พลอยเสก เกศา และตะกรุด
จัดสร้างโดยศิษย์อุปฐาก จำนวนน้อยมาก ล็อคเก็ตงานอย่างดี ร้านฟิล์มทอง วัตถุมงคลของท่านมีน้อยรุ่นมากครับ
เปิดบูชา 1,700-

หลวงปู่ครูบาอินสม พระอริยเจ้า ตนบุญ แห่งแม่สะเรียง ศิษย์เอกครูบาผาผ่า

องค์ท่านเป็นศิษย์ครูบาผาผ่า และหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ปฏิบัติ ออกธุดงค์ติดตาม อยู่กับครูบาผาตั้งแต่ครั้นยังเป็นสามเณร เมื่อครูบาผาผ่า มรณภาพลง องค์ท่านก็ได้ออกธุดงค์ วิเวก ตามป่าตามเขา ตามที่กันดาร
ไม่ยึดติดในสถานที่  อย่างอุกฤษ และได้พบกับ “ ธรรมอันเป็นมงคลสูงสุด ”  ผลจากการที่ท่านปฏิบัติอย่างอุกฤษ  หลวงปู่อินสม สุวีโร อาพาธหนักด้วยหลายโรคที่รุมเร้า ประกอบกับวัยที่ชราภาพ ส่งผลให้สังขารร่างกายท่าน
ทรุดโทรมลงอย่างมาก​  จนลูกศิษย์นิมนต์ให้ท่านมาพำนักที่ วัดพระธาตุจอมทอง  ปัจจุบันท่านพำนักที่ วัดป่าธรรมสันติ จ.เชียงใหม่ ตนบุญแห่งล้านนา ที่กราบไหว้ได้สนิทใจ
รูปหนึ่งในปัจจุบันครับ













1444.ขอเปิดล็อคเก็ต หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม วัดกระดึงทอง จ.บุรีรัมย์ ปี63 หลังอุดมวลสาร เกศา ล็อคเก็ตงานอย่างดี ร้านฟิล์มทอง ลูกศิษย์คุณโกวิท จันมี ขออนุญาติจัดสร้างเพียงแค่
29 ชิ้น 1 ใน 29 ชิ้นครับ องค์หลวงปู่พึ่งจะละสังขาร วันที่ 10 มกราคม 2566 สิริอายุ 95 ปี พรรษา 76  ล็อคเก็ตรุ่นนี้ สร้างน้อยคงหาที่ใหนไม่ได้อีกแล้วครับ
เปิดบูชา 1,700-








1445.ขอเปิดพระผงยอดนิยมอีกรุ่นของหลวงปู่โต๊ะ พระผงของขวัญ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี  ปี21 เนื้อผงใบลาน  นิยม  ใต้ฐานฝังตะกรุด ที่เห็นฐานแหว่ง รอยกระเทาะ คือรอยกระเทาะเดิม เกิดจากการสอดฝังตะกรุด
จมูกโด่ง จีวรชัด สวยเดิมๆ จัดสร้าง 9000 องค์ (แบ่งเป็นสอดตะกรุดและไม่สอดตะกรุด สอดตะกรุดจำนวนน้อยกว่ามากครับ) พระดีอนาคตไกล ราคาขยับขึ้นเรื่อยๆ แรงต่อเนื่องครับ พุทธคุณ เด่นทุกด้าน
กับผู้นำไปบูชา โชคลาภ เมตตา แคล้วคลาดครับ รับประกันตลอดชีพครับ
เปิดบูชาแบ่งปัน 8500- (อยู่มือสายตรง ไม่มีตะกรุด ก็ราคาเกินนี้แล้วนะครับ) 

ปิดท่านj999 ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 14, 2023, 12:43:29 AM โดย thesun »



 :( :( :( กระทู้นี้โดนไวรัส เหรอครับ
เห็นมีแต่อะไรโพสต์ เต็มไปหมด :o :o :o :'( :'( :'(



1445.ขอเปิดพระปรกใบมะขาม สุดยอดของหายากแห่งสายกรรมฐาน และ อดีต 1 ใน 5 พระปรกใบมะขามเบญจภาคีของประเทศ พระปรกมะขาม วัดบรมนิวาส จ.กรุงเทพมหานคร ปี2495 เนื้อชินตะกั่ว
สมัยก่อนจัดอยู่ในพระปรกใบมะขาม เบญจภาคี 1 ใน 5 พระนาคปรกใบมะขาม ของเมืองไทย และ ในอดีตบ้างก็ว่าได้รับการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แต่ที่แน่ๆ ได้รับการอธิษฐานจิตจาก ลูกศิษย์สายพระกัมมัฏฐาน
มากมายหลายรูปเนื่องจาก วัดบรมนิวาสถือเป็นตักศิลา ของสายพระกัมมัฏฐานที่เดินทางมาพระนคร จะแวะเวียนมาพำนักอยู่เสมอ เล่นหากันมาช้านานครับ สภาพพอสวย สภาพน่ารักครับ แต่หายากมากๆๆๆ  เล็กดีรสโต  นำไปเลี่ยมทองเข้าชุดพระชุดเล็ก
ได้เลยครับ สวยๆๆแชมป์ องค์ก่อนผมปล่อยให้บูชาไปไม่สวยเท่าองค์นี้เลยครับ
เปิดบูชาแบ่งปัน กลับมาประจำการที่  9,000- (ราคากลางมีหมื่นกว่าบาทถึงสองหมื่นครับ สมัยก่อนเช่าหาหลักหมื่นกลางๆครับ)


ปิดครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 12, 2023, 02:36:35 PM โดย thesun »



1446.ขอเปิดพระบูชายอดนิยม หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง  ปี18 หน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างพร้อมกับ รูปหล่อก้นหนู ยอดนิยมของหลวงพ่อเกษม ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างเพียงแค่ 280 องค์ พบเจอน้อยกว่ารูปหล่อก้นหนูมากครับ จัดเป็นพระบูชารุ่นสอง ในองค์หลวงพ่อเกษม มีในรายการประกวดพระเครื่องเสมอครับ หายากมาก นานๆจะหลุดออกมาที อยู่มือสายตรงแพงเลยครับ ผมเปิดบูชาแบ่งปัน 13,500 (ราคากลางอยู่มือสายตรงไม่ได้ราคานี้ แน่นอนครับ รูปหล่อก้นหนูขนาดห้อยคอ ยังหลักหมื่นเลยนะครับ )

ปิดท่าน j999 ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2023, 11:58:14 PM โดย thesun »



1446.ขอเปิดพระบูชายอดนิยม หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง  ปี18 หน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างพร้อมกับ รูปหล่อก้นหนู ยอดนิยมของหลวงพ่อเกษม ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างเพียงแค่ 280 องค์ พบเจอน้อยกว่ารูปหล่อก้นหนูมากครับ จัดเป็นพระบูชารุ่นสอง ในองค์หลวงพ่อเกษม มีในรายการประกวดพระเครื่องเสมอครับ หายากมาก นานๆจะหลุดออกมาที อยู่มือสายตรงแพงเลยครับ ผมเปิดบูชาแบ่งปัน 13,500 (ราคากลางอยู่มือสายตรงไม่ได้ราคานี้ แน่นอนครับ รูปหล่อก้นหนูขนาดห้อยคอ ยังหลักหมื่นเลยนะครับ )
















ขอจองครับ



1447.ขอเปิดพระผงยอดนิยมอันดับหนึ่ง และ สุดยอดประสบการณ์ของหลวงปู่สุภา พระผงรูปเหมือน "เสด็จกลับ" หลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสีลสุภาราม(เขารัง) จ.ภูเก็ต ปี2506 หน้ากากเงิน หลังผงว่านเนื้อเหลือง นิยมครับ พระเสด็จกลับ ไม่มีใครไม่รู้จัก และต้องการมีไว้ครอบครอง ด้วยเพราะพิธีการจัดสร้าง และ สุดยอดมวลสาร  หน้ากากเงิน สร้างน้อย หายาก ลูกศิษย์หวงมากครับบูชาติดตัวกัน ไม่ค่อยจะหลุดออกมา สภาพสวยเดิม โดยหลวงปู่กล่าวกับลูกศิษย์ว่า "พระทุกองค์มีองค์เทพเทวดาประจำองค์อยู่ด้วย จึงเกิดอิทธิปาฏิหาริย์เป็นอันมาก" พุทธคุณครอบจักรวาล นำไปเลี่ยมทองขึ้นคอใช้ดูได้เลยครับ เปิดบูชาแบ่งปัน 7,500 (ผมเปิดราคาแบ่งปัน ยินดีรับซื้อคืนไม่หัก% อยู่มือสายตรงราคานี้เช่าไม่ได้ครับ ราคากลางแพงกว่านี้ครับ  พระผงว่านแบบธรรมดา ไม่มีหน้ากาก ราคากลาง เช่าหากัน สามพันกว่าถึงสี่พันบาทแล้วครับ สมัยก่อนแรงๆหน้ากากเงิน หลักหมื่นต้นๆ(2-3หมื่น) หน้ากากทองคำหลักหมื่นปลายๆ(7-8หมื่นครับ)) 

ปิดท่าน j999 ครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2023, 10:25:39 AM โดย thesun »



1447.ขอเปิดพระผงยอดนิยมอันดับหนึ่ง และ สุดยอดประสบการณ์ของหลวงปู่สุภา พระผงรูปเหมือน "เสด็จกลับ" หลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสีลสุภาราม(เขารัง) จ.ภูเก็ต ปี2506 หน้ากากเงิน หลังผงว่านเนื้อเหลือง นิยมครับ พระเสด็จกลับ ไม่มีใครไม่รู้จัก และต้องการมีไว้ครอบครอง ด้วยเพราะพิธีการจัดสร้าง และ สุดยอดมวลสาร  หน้ากากเงิน สร้างน้อย หายาก ลูกศิษย์หวงมากครับบูชาติดตัวกัน ไม่ค่อยจะหลุดออกมา สภาพสวยเดิม โดยหลวงปู่กล่าวกับลูกศิษย์ว่า "พระทุกองค์มีองค์เทพเทวดาประจำองค์อยู่ด้วย จึงเกิดอิทธิปาฏิหาริย์เป็นอันมาก" พุทธคุณครอบจักรวาล นำไปเลี่ยมทองขึ้นคอใช้ดูได้เลยครับ เปิดบูชาแบ่งปัน 7,500 (ผมเปิดราคาแบ่งปัน ยินดีรับซื้อคืนไม่หัก% อยู่มือสายตรงราคานี้เช่าไม่ได้ครับ ราคากลางแพงกว่านี้ครับ  พระผงว่านแบบธรรมดา ไม่มีหน้ากาก ราคากลาง เช่าหากัน สามพันกว่าถึงสี่พันบาทแล้วครับ สมัยก่อนแรงๆหน้ากากเงิน หลักหมื่นต้นๆ(2-3หมื่น) หน้ากากทองคำหลักหมื่นปลายๆ(7-8หมื่นครับ)) 


พระเสด็จกลับ นับว่าเป็นวัตถุมงคล ที่หลวงปู่สุภาถือว่าเป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคล ที่ท่านได้สร้างขึ้น และมักย้ำเตือนบรรดาลูกศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่ได้รับแจกไปว่าพระเสด็จกลับเป็นพระที่สร้างยากมาก ประการแรก วัสดุส่วนผสมล้วนสำคัญและหาอีกไม่ได้ โดยเฉพาะว่านและอาถรรพณ์วัตถุ ที่หลวงปู่ได้มาจากการออกธุดงค์นั้น ไม่อาจหาได้อีก ประการที่สอง ฤกษ์ยาม และวาระโอกาสที่จะสร้างใหม่ ไม่มีอีกเหมือนกัน เพราะเป็นฤกษ์ที่ใช้สร้างวัตถุมงคลชุดนี้โดยแท้ ประการที่สามนั้น พระทุกองค์มีองค์เทพเทวดาประจำองค์อยู่ด้วย จึงเกิดอิทธิปาฏิหาริย์เป็นอันมาก ต้องระวังรักษาด้วยความเคารพ หาไม่แล้วก็จะเสด็จหนีไปเอง

ประวัติพอสังเขป

พระเสด็จกลับ จัดสร้างโดยหลวงปู่สุภาร่วมกับอาจารย์ชุม ไชยคีรี และพระอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ เมื่อปี 2506 โดยหนึ่งในพิธีปลุกเสกคือจะนำพระพิมพ์ต่างๆ รวม 108 องค์ไปอาราธนาลงในแม่น้ำ แล้วทำพิธีเรียกกลับในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งพระเสด็จกลับมาเพียง 106 องค์ อีกสององค์ที่ไม่กลับสืบมาเนื่องจากหลวงปู่คงผู้เป็นอาจารย์
ของขุนแผนได้มอบให้ท้าวภุชงค์นาคราช และพระมเหสี การแสดงอภินิหารเสด็จกลับมานั้นได้สร้างความแปลกใจเป็นอย่างมากแก่ พระภิกษุสงฆ์ และประชาชนจำนวนมาก


ประวัติการสร้างพระเสด็จกลับของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พ.ศ. 2506

พระผงวิเศษ 84,000 องค์ ทรงขุนแผนเรือนแก้ว ทรงพระรอด รูปและลูกประคำหลวงปู่คง ของอาจารย์ชุม ไชยคีรี รูปเหรียญ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ที่สร้างด้วยว่านยาแร่ธาตุ พญาว่านมหาว่าน มหาว่าน น้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์ รวม 2,000 กว่าชนิด 84,000 องค์ ผ้ายันต์เสือ ผ้ายันต์สิงห์ ของอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ น้ำมันมหานิยมเลิกรบ ของอาจารย์ชุม ที่ทำพิธีสร้าง และพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดสารอด เขตราษฎร์บูรณะ ฝั่งธนบุรี โดยเจตนาช่วยกันสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาด้านรูปและวัตถุ มีนโยบายให้ผู้มีศรัทราน้อย รักนับถือในรูปแล้วเข้าถึงคุณเอาเอง และถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถตลอดจนถึงเจ้าฟ้าพระเจ้าลูกยาเธอทั้งอุทิศส่วนกุศล เป็นสาธารณะทั่วไปโดยคณะผู้ดำเนินการสร้างไม่หวังผลตอบแทน


พิธีพุทธาภิเษก

วัน 23 ธันวาคม 2506 เวลา 6.30 น. ได้อุดมฤกษ์พุทธาพิเษกและปลุกเสก อาจารย์ชุม ไชยคีรีอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ทำพิธีบวงสรวงสังเวย
เวลา 9.00 น. หลวงปู่สุภา กันตะสีโล เจิมเทียนชัยแล้วอาจารย์ทั้งสามท่านร่วมกันอธิษฐานเชิญครูอาจารย์ และวิญญาณเทพเข้าประจำในมลฑลพิธีวิญญาณขุนแผน เข้าประทับตรวจความเรียบร้อยของพิธีเสร็จแล้ว อาจารย์อุทัยเข้าบริกรรมเริ่มตั้งธาตุบรรจุธาตุ 8 ชั่วโมง พร้อมกันนั้นอาจารย์ชุม ไชยคีรี นำพระผงวิเศษที่สร้างรวม 108 องค์ ไปโดยเรือยนต์พร้อมด้วยพระสงฆ์ 5 รูป ไปทำพิธีสังเวยบวงสรวงกลางแม่น้ำ แล้วกลับมาทำพิธีศาลเทพารักษ์ที่สร้างไว้ที่แม่น้ำหน้าวัดสารอดอีกครั้งหนึ่ง
เวลา 19.00 น. พระเถระผู้ใหญ่ 9 รูป จากพระอารามหลวง และอารามต่างๆ มีสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธาน เจริญพระพุทธมนต์
เวลา 20.30 น. เชิญวิญญาณอาจารย์คง อาจารย์ขุนแผนเข้าประทรับทรง จุดเทียนชัย พระสงฆ์ชุดพุทธาภิเษก 4 รูป สวดคาถาจุดเทียนไชย พระอาจารย์สุภา นั่งปรก วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรงอาจารย์ชุม อาจารย์อุทัย เข้าทำการปลุกเสก พระสวดพุทธาภิเษก
เวลา 21.00 น. หยุดเปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ที่มา ในพิธีเข้าพบวิญญาณขุนแผนได้จนถึงเวลา 22.00 น.
เวลา 24.00 น.ขุนแผนพร้อมด้วยวิญญาณเทพทำพิธีตลอดพิธี มีพุทธาภิเษก และปลุกเสกบรรจุคุณ โดยพระอาจารย์ผู้ทรงคุณชุดละ 9 อาจารย์ และเชิญวิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรงปลุกเสกบรรจุคุณตลอดพิธี โดยมีระเบียบและแบ่งเวลาออกดังนี้
ระยะที่ 1
– เสกตั้งธาตุ บรรจุธาตุแต่งธาตุ เสกพระคาถาจุติจากชั้นดุสิตลงสู่ พระครรภ์พระพุทธมารดา เสกพระคาถาประสูตรจากพระครรภ์เสกพระคาถาเสด็จย่าง 7 ก้าว พระอาการ 32 พระคาถาบำเพ็ญพระบารมี จนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า 3 วัน
– เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจ ของหัวใจ 108 อย่างละ 108 จบ 3 วัน
– เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจ ของหัวใจ 108 คาถาชุดคงกระพัน อย่างละ 108 จบ 5 วัน
ระยะที่ 2
เสกกันปืนมหาอุด กันวัตถุระเบิด ห้ามดินน้ำลมไฟเสกผูกเสกกัน 5 วัน
ระยะที่ 3
เสกแคล้วคลาด เสกศักดิ์สิทธิ์ 1 เสกไปกลับ แปลงรูปหุ่นยนต์ เสกกำแพงเพ็ชร์ 7 ชั้น
เสกมงกุฏ พระพุทธเจ้า 5 วัน
ระยะที่ 4
เสกมหานิยม มหาเสน่ห์ มหาละลวย มหาลาภ เลิกรบเลิกเบียดเบียน 5 วัน
ระยะที่ 5
เสกรวมเสกผูกกัน 4 วัน รวมเป็นเวลาพุทธาภิเษกและปลุกเสก 30 วัน วันละ 3 เวลาคือ เวลา 5.00 น 9.00 น. 21.00 น.

พระอาจารย์ที่เป็นพระต้องปลงอาบัติ ทุกครั้งแล้วจึงต้องเข้ามลฑลพิธี อาจารย์ที่เป็นฆราวาสต้องนุ่งขาวห่มขาวสมาทานศีลห้า โดยถือพรมจรรย์เป็นวัตรอยู่ประจำในบริเวณพิธี และบริเวณวัดตลอดพิธี เมือเสกจบลงระยะหนึ่งๆ ก็ทำการพิสูจน์ทดลองต่อหน้าประชาชนให้ผู้สนใจชม เป็นการอบรมศึกษาวิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระไปในตัว การทดลองก็เพื่อชี้ให้เห็นเป็นประจักษ์พยานว่าพระพุทธเจ้าแม้เสด็จเข้าสู่ปรินิพานไปนานแล้ว ยังทรงอยู่ แต่พระคุณทั้งหลาย ถ้าผู้ใดเข้าถึงพระพุทธคุณแล้ว ยกเอาพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง พระพุทธคุณย่อมเป็นที่พึ่งเป็นที่ระลึก และกำตัดภัยให้ผู้เข้าถึงได้จริง นอกจากนั้น พระพุทธคุณย่อมแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นอัศจรรย์ได้นานาประการ

วันที่ 23 มกราคม 2507 เวลา 20.00 น. นิมนต์พระเถระผู้ทรงคุณทางวิปัสนากรรมฐาน 9 รูปสวดพระธรรมจักรกัปวัตนสูตร์พระสหาสมัยสูตร แล้วสวดพุทธาภิเษก และปลุกเสก ด้วยพระอาจารย์ชุดเดิม ถึงเวลา 23.30 น.

วันที่ 24 มกราคม 2507 เวลา 03.00 น. นิมนต์พระอาจารย์ผู้ทรงคุณทางวิปัสนากรรมฐาน 9 รูป เข้านั่งปรก สงบเสียงอื่นๆ หมดจนถึงเวลา 04.00 น. ต่อจากนั้นสวดพุทธาภิเษกบทสุดท้าย พระอาจารย์ และอาจารย์ ชุดเดิมจุดเทียนมงคลเจิมเวียนเป็นทักษิณาวัตร 3 รอบ พระเถระ 9 รูปสวดชัยมงคลคาถา ย่ำคล้องย่ำกลองจนถึงเวลา 06.00 น พระสวดคาถาดับเทียนไชย พระอาจารย์และอาจารย์ชุดเดิมดับเทียนไชย และเทียนเจิมพร้อมกัน พระอาจารย์ อาจารย์ และคณะกรรมการนำพระผงปางที่สร้างขึ้นในพิธี และพระผลทุกรุ่นทุกปางของอาจารย์ชุม ไชยคีรี ที่เคยสร้างมาครั้งก่อนๆพร้อมด้วยแบบพิมพ์อธิษฐาน เข้าบรรจุไว้ในกรุใต้ฐานพระประธานในพระอุโบสถวัดสารอด เสร็จแล้วถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระอาจารย์ และพระสงฆ์ในวัดประมาณ 50 รูป
เวลา 08.00 น. พระเถระ 9 รูป สวดไชยมงคลคาถา พระเถระผู้สูงอายุนั่งเป็นประธาน พระอาจารย์และอาจารย์รวม 10 รูป บริกรรมนับพระ องค์ประธานให้คะแนนร้อยคะแนนพัน และคะแนนหมื่น เมื่อตรวจนับพระเสร็จแล้ว มอบให้คณะกรรมการ
เวลา 10.30 น. นิมนต์พระเถระ 9 รูป มีสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธาน ทำพิธีสมโภชพระอาจารย์ อาจารย์ และคณะกรรมการพร้อมทั้งผู้พิมพ์พระ ทำบุญตักบาตรถวายเครื่องไทยทาน

วันที่ 25 มกราคม 2507 เวลา 06.00 น. – 12.00 น. เปิดปฐมฤกษ์ อาจารย์ชุม ไชยคีรี แจกพระให้แก่ทหารบก , ทหารเรือ , ทหารอากาศ , และตำรวจในเครื่องแบบฟรีโดยมิต้องเสียเงิน วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรง ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พระอาจารย์สุภา กนฺตสีโล และอาจารย์อุทัย อุจศรีวัตร แจกพระและผ้ายันต์แก่ทหาร ตำรวจ และประชาชนผู้บริจาคเงิน ไปจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507

วันที่ 13 – 19 กุมภาพันธ์ 2507 แจกที่ วัดเกาะสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

วันที่ 23 – 29 กุมภาพันธ์ 2507 แจกที่ สำนักวิหารธรรมขุนแผนอุทิศ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

วันที่ 1 – 7 มีนาคม 2507 แจกที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต

มวลสารที่สำคัญ
ประกอบไปด้วยว่านประเภทต่างๆ หลายชนิด โดยว่านที่สำคัญจากการสอบถาม หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ท่านเล่าว่า ว่าที่หายากชื่อ ว่าโพรงกินเหล็ก ต้องเอาเหล็กให้หัวว่านกินจนอิ่มเสียก่อนจึงจะกู้เอาหัวว่านได้โดยต้องขอซื้อผู้ที่พาไปเป็นเงินถึง 30,000 กีบ ในสมัยนั้น ว่านชนิดนี้น่าจะมีผลทำให้พระพิมพ์ที่มีว่านนี้ผสมอยู่ดูดแม่เหล็กติด เพราะเป็นวิธีชี้ขาดว่าเป็นพระแท้ในปัจจุบัน โดยพระสีดำและแดงจะดูดแม่เหล็กติด ส่วนพระสีเหลืองจะดูดแม่เหล็กไม่ติด เพราะมวลสารหลักเป็นเกสรดอกไม้ 108 ซึ่งถือเป็นของเมตตาชั้นสูง และสะอาด คนสมัยก่อนจะเสาะหาน้ำผึ้งในเดือน 5 มาทำยารักษาโรค และนำมาทำยาอายุวัฒนะ เพราะส่วนผสมที่สำคัญที่มีอยู่ในน้ำผึ้งคือ เกสรดอกไม้ 108 ชนิด ที่ผึ้งนำมาสะสมไว้ในน้ำผึ้งจำนวนมาก ถือเป็นของดีอย่างหนึ่งนั้นเอง


รายละเอียดว่าน 7 ชนิดสุดวิเศษ ของหลวงปู่สุภา
ว่านที่ท่านอาจารย์หลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล พยายามสะสมไว้ประมาณสามสิบกว่าปี มีประมาณ 100 กว่าชนิด ซึ่งมีชื่อตรงกันกับที่ท่านอาจารย์ชุม สะสมไว้ทุกอย่างจึงไม่กล่าวในที่นี้ นำมากล่าวในที่นี้แต่เฉพาะว่านที่มีคุณภาพอย่างยอดเยี่ยม และหายากไม่มีในประเทศไทย ซึ่งบางอย่างท่านได้ลงทุนซื้อ ราคาเป็นหมื่นบาท เช่น
1. ว่านกระจายหัวควาย ว่านชนิดนี้ ทางประเทศลาว เรียกว่า กระจายหัวควาย ทางประเทศไทยเราเรียกว่า พญาว่าน ว่านนี้ท่านได้ลงทุนซื้อ จากเจ้าของเขาที่นำมาเลี้ยงไว้เป็นเงินหนึ่งหมื่นบาท ลักษณะหัวลำต้นและใบคล้ายต้นกล้วยญวน แต่มีใบเพียงสามใบเท่านั้น ก่อนที่จะไปเอาต้องบวงสรวงสังเวยก่อนจึงจะเข้าไปเอาได้ หากยังมิได้บวงสรวงสังเวย เข้าไปเอามีอันตรายถึงกับเสียชีวิต ว่านนี้ตามตำรามีเทวดารักษา วิเศษใช้ได้ทุกทาง
2. ว่านกินเหล็ก ว่านกินเงิน ว่านกินทอง ว่านกินกระดาษ ว่านกินข้าวตอกแตก 5 อย่างนี้ ก่อนที่จะเข้าไปเอา จะต้องให้กินเหล็ก เงิน ทอง กระดาษ ข้าวตอก จนอิ่ม โดยให้เอาของที่เลี้ยงจี้และทิ้งเข้าไปที่หัวว่าน ว่านกินจนกระทั่งของที่เราเอาไปเลี้ยงนั้นละลายหายไปหมดแล้ว จึงเข้าไปเอาได้ ไม่เช่นนั้นอันตราย ว่านชนิดนี้มีวิเศษทุกทาง เพราะมีรุกขเทวดารักษา ต้องทำพิธีบวงสรวงสังเวยให้กินของที่ต้องการปีละครั้ง
3. ว่านเพชรกลับ ว่านชนิดนี้มีสองชื่อ คือทางประเทศลาว เรียกว่า ว่านน้ำ ทางประเทศไทยเรียกว่า ว่านเพชรกลับ เพราะว่านชนิดนี้ เวลาปลูกต้องใช้กระทงสามเหลี่ยม แล้วเอาดินมา
ใส่กระทงให้เต็ม แล้วเอาหัวว่านนั้นปลูกลงในกระทง แล้วอธิษฐานให้ปล่อยไปตามน้ำ เมื่อถึงเวลาครบรอบปีเราต้องการจะเอาขึ้น ก็ต้องทำพิธีเช่นเดียวกัน แล้วหนีไปให้ห่างสักครู่หนึ่ง
แล้วย้อนกลับมาดูจะปรากฏว่า ว่านนั้นกลับมาอยู่ในกระทง ลำต้นและใบแห้งปรากฏเหมือนกับว่านที่เราปลูกที่บ้านของเราตามธรรมชาติ คุณวิเศษตามตำรา เมื่อนำติดตัวเรา เราจะ
ต้องได้กลับมาบ้าน โดยไม่ไปตายนอกบ้าน กันอาวุธอุปัทวเหตุนาๆ ชนิด
4. ว่านสบู่เลือด ว่านนี้ตามธรรมดาที่ประเทศไทยเรา มีผู้สนใจเอามาปลูกกันไว้มีมากเหมือนกันแต่ก็ปรากฏว่าไม่เหมือนกับที่ท่านได้เอามาจากประเทศลาว ว่านสบู่เลือดที่ท่านนำมานี้มี
ลักษณะ มีลำต้น และหัวๆ เดียวจนตลอดไป โดยมากผู้ที่มีว่านชนิดนี้จะต้องเป็นคนที่มีทรัพย์สมบัติมาก ใบของมันสีแดงเหมือนกับเลือด มีใบคล้ายใบข้าว และมีเฉพาะสามใบเท่านั้น จะปลูกไว้กี่ปีก็ตาม มีเพียงสามใบเท่านั้น วิเศษในทางลาภและคงกระพัน
5. ว่านไพลดำ ที่ในประเทศไทย ที่เราได้ยินได้เห็นกันนั้นมิใช่เป็นไพลดำที่แท้จริง ส่วนว่านไพลดำที่ท่านนำมานี้หาได้ยากที่สุด เพราะว่าดำทั้งหัวและดำทั้งใบ ว่านชนิดนี้เมื่อปลูกแล้วดินในบริเวณนั้นก็จะดำ และจะเอาอะไรไปขุดหรือตัดหัวของมันไม่ขาด เสียมก็ขุดไม่เข้า ต้องมีผู้เข้าใจในเรื่องว่านจึงจะเอาได้ และฝนตกน้ำลาดไปถึงไหนก็ดำไปถึงนั้น วิเศษทางคงกระพันและทำให้เกิดตาทิพย์
6. ว่านนางกวัก ทำยากที่สุด คือ จะเอาหัว หรือใบ อย่างที่เข้าใจกันนั้นไม่ได้ ถ้าเราต้องการเราต้องไปตกลงกับเจ้าของว่าจะเอาสักเท่าไร สมมติว่าจะเอาให้มาก จะต้องบอกเจ้าของว่า เอาสักร้อยบาท เมื่อเจ้าของเอามือเด็ดที่ปลายใบ ยางของมันก็จะหยดลงมาเพียงร้อยหยดเท่านั้น ถ้าจะเอาอีกก็ต้องเพิ่มเงินให้เขาอีก ถ้าไม่เพิ่มมันก็ไม่ย้อย และโดยมากต้องมีอยู่ตาม
ภูเขา เมื่อจะไปเอาต้องไปบริกรรมแผ่เมตตาจิตอยู่อย่างน้อย 15 วัน จึงจะได้ของมา วิเศษทางเรียกลาภ
7. ว่านเพชรหลีก ได้มาครั้งนี้เฉพาะใบเท่านั้น ต้องไปนั่งเข้าสมาธิแผ่เมตตาจิตขอบิณฑบาตจากรุกขเทวดา เจ้าของว่านชนิดนี้มีอยู่บนยอดภูเขาสูง เรียกว่าเขาพนมศักดิ์ในประเทศลาวทางเดินไปถ้ำวัวแดงท่านได้พยายามทำความเพียรนั่งเจริญภาวนาอยู่ 15 วัน ใบว่านจึงร่วงลงมาให้เพียงสามใบเท่านั้น วิเศษในทางแคล้วคลาดจากภัยอันตราย และทางด้านกำบังตน


ปรากฏการเป็นพิเศษ เมื่อพุทธาภิเษกได้ 7 วัน
ซึ่งนับว่าการสร้างพระ 84,000 องค์ ครั้งนี้เป็นนิมิตอันดียิ่ง และเป็นมงคลอันสูงสุด ทั้งมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ว่าคงได้รับผลสมความปรารถนา อย่างคุณวิเศษของขุนแผน ครั้งเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ทุกประการ เพราะแรงฤทธิ์อำนาจว่านยาแรงฤทธิ์เวทมนต์คาถา ประกอบด้วยความรู้ ความชำนาญความตั้งใจจริงของท่านอาจารย์ทั้งสาม
1. พระอาจารย์สุภา กนฺตสีโล , อาจารย์ชุม ไชยคีรี , อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ทั้งสามอาจารย์ ไม่เคยรู้จักกัน บันดาลให้มาพบกัน มีความรักความสามัคคี มีเจตนาเสมอกัน
2. วิญญาณอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน และวิญญาณขุนแผน มาเข้าประทับทรงบอกตำรา และเป็นประธานในการปลุกเสก บรรจุคุณตลอดพิธี
3. วันที่ 24 พฤศจิกายน เวลาที่อาจารย์ทั้งสามกำลังทำพิธีบวงสรวงสังเวย และผสมผงแร่ธาตุว่านยาเข้ารวมกัน พระสงฆ์ 9 รูป กำลังสวดไชยมงคลคาถาอยู่นั้น อีกาฝูงใหญ่ไม่เคยมีมาแต่ครั้งก่อน บินมาวนเป็นทักษิณาวัตร ร้องส่งเสียงอยู่ประมาณ 30 นาทีแล้วหายไป
4. วันที่ 31 ธันวาคม ปลุกเสกมาได้ 7 วัน เวลา 05.00 น. เกิดแสงสว่างขึ้นที่หน้าพระอุโบสถ ปรากฏแก่สายตาพระสงฆ์ ที่กำลังเตรียมตัวจะออกบิณฑบาตรนานประมาณ 1 นาที เวลา 06.30 น. พระผงรวม 108 องค์ ที่อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้นำไปอาราธนาลงในแม่น้ำดังกล่าวแล้ว แสดงอภินิหารเสด็จกลับมาต่อหน้าพระภิกษุสงฆ์ และประชาชนเป็นจำนวนมากซึ่งกำลังมุงดูกันอยู่ด้วยความแปลกใจและกำลังย่ำฆ้องทะยอยกันเสด็จกลับมาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงหยุด
5. วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 21.00 น. ทำพิธีตรวจนับพระที่เสด็จกลับปรากฏว่าพระเสด็จมาเพียง 106องค์ ขาดไป 2 องค์ คณะศิษย์เรียนถามวิญญาณขุนแผนท่านบอกว่า พระที่เสด็จกลับมานั้นท้าวภุชงค์นาคราช พร้อมด้วยบริวารนำมาให้ และที่ขาดไป 2 องค์ วิญญาณขุนแผน บอกว่า หลวงปู่คงมอบให้ท้าวภุชงค์กับพระมเหสี คนละ 1 องค์ เวลา 22.00 น. ทดลองความขลังด้านคงกระพัน โดยอาจารย์ชุม อบรมผู้มีศรัทธา 7 คน แจกพระให้ถือไว้ในมือ และอมไว้ในปากคนละ 1 องค์ แล้เอามีดโกน ใบมีดดาบ ฟันเชือดเฉือน และให้ผู้อื่นเข้ามาเชือดเฉือนดู ปรากฏว่าเป็นคงกระพันตลอด จึงเอามีดตัดผมก็ไม่ขาดต่อหน้าประชาชนตามตำรากล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีพระว่านวิเศษนี้อยู่ที่ตัว มีความเลื่อมใสจริงๆ เมื่อถึงคราวคับขันหมดที่พึ่ง
อย่างอื่น เช่น ออกรบศึก ถูกข้าศึกจับเป็นเชลย ถูกจองจำไว้ด้วยเครื่องพันธนาการ ให้ตั้งใจนึกถึงบ้าน และระลึกถึงคุณบิดามารดา เครื่องพันธนาการต่างๆ จะหลุดออกหมดกลับมาบ้านไหว้บิดามารดาได้ หรือเมื่อเราเป็นหัวหน้านำทัพ ลูกน้องถูกจับเป็นเชลย เพื่อนหรือญาติถูกจับเป็นเชลย หรือคนที่เรารักสูญหายไปจากบ้าน ตั้งใจภาวนาเรียกให้กลับ เมื่อเรามีพระชนิดนี้อยู่ที่ตัวเรา และพระอยู่ที่ตัวผู้ที่หายไปเรียกให้กลับมาได้

มื่อคืนวันที่ 15 มกราคม 2507 เวลา 24.00 น. อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้เรียกสุภาพบุรุษมา 12 คนอบรมให้รู้จักคุณวิเศษของพระ แล้วให้ทุกคนอมพระรอดไว้ในปากคนละหนึ่งองค์ แล้วพร้อมกันเอาอีกคนหนึ่งไปใส่กุญแจมือคร่อมเสาไว้ในป่าช้า แล้วอีก 11 คน มานั่งบริกรรมเรียกอยู่ในพระอุโบสถประมาณ 5 นาที คนที่ใส่กุญแจไว้ กุญแจหลุดออกหมดทั้งสองข้างกลับมาได้ต่อหน้าประชาชน ชี้ให้เห็นประจักษ์พยานว่า มีพระว่านวิเศษชนิดนี้อยู่ไปแล้วกลับ แม้จะถูกจองจำด้วยพันธนาการใดๆ ก็กลับได้

















ขอจองครับ



1445.ขอเปิดพระปรกใบมะขาม สุดยอดของหายากแห่งสายกรรมฐาน และ อดีต 1 ใน 5 พระปรกใบมะขามเบญจภาคีของประเทศ พระปรกมะขาม วัดบรมนิวาส จ.กรุงเทพมหานคร ปี2495 เนื้อชินตะกั่ว
สมัยก่อนจัดอยู่ในพระปรกใบมะขาม เบญจภาคี 1 ใน 5 พระนาคปรกใบมะขาม ของเมืองไทย และ ในอดีตบ้างก็ว่าได้รับการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แต่ที่แน่ๆ ได้รับการอธิษฐานจิตจาก ลูกศิษย์สายพระกัมมัฏฐาน
มากมายหลายรูปเนื่องจาก วัดบรมนิวาสถือเป็นตักศิลา ของสายพระกัมมัฏฐานที่เดินทางมาพระนคร จะแวะเวียนมาพำนักอยู่เสมอ เล่นหากันมาช้านานครับ สภาพพอสวย สภาพน่ารักครับ แต่หายากมากๆๆๆ  เล็กดีรสโต  นำไปเลี่ยมทองเข้าชุดพระชุดเล็ก
ได้เลยครับ สวยๆๆแชมป์ องค์ก่อนผมปล่อยให้บูชาไปไม่สวยเท่าองค์นี้เลยครับ
เปิดบูชาแบ่งปัน กลับมาประจำการที่  9,000- (ราคากลางมีหมื่นกว่าบาทถึงสองหมื่นครับ สมัยก่อนเช่าหาหลักหมื่นกลางๆครับ)


ในสมัยก่อนจัดอยู่ในทำเนียบ เบญจภาคี ๑ ใน ๕ พระนาคปรกใบมะขาม ของเมืองไทย นั่นคือ พระนาคปรก ใบมะขาม วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ โดยมี ปรกวัดมะขามเฒ่า ปรกวัดกัลยา ปรกวัดท้ายตลาด ปรกหลวงปู่ใจ และปรกวัดบรมฯ ส่วนปรกวัดอนงคาคามก็เช่นกัน จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน
แล้วแต่คนชอบ  พระปรกใบมะขาม จัดสร้างโดย วัดบรมนิวาส ๑ ในวัดที่ พ่อแม่ครูอาจารย์สายกัมมฐาน มาจำวัดกัน ถ้าท่านเดินทางมายังกรุงเทพ ในสมัยก่อน นักสะสม หรือ เซียนรุ่นเก่า และ รุ่นใหญ่ หลายๆท่าน นิยมชมชอบ แขวนบูชาในพระชุดเล็กดี รสโต เพราะ ถือเป็น ๑ เดียว พระนาคปรกใบมะขาม
ของ สายกัมฐาน ในยุคนั้น ก่อน พ.ศ.2500  และ นักสะสมรุ่นเก่าบางท่านเชื่อว่าได้รับการอธิษฐานจิต จากท่านอาจารย์ใหญ่ มั่น ภูริทัตโต ท่านเจ้าคุณอุบาลีจันทร์ สิริจันโท และ ท่านสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อ้วน ติสโส (เป็นแค่คำบอกเล่า) ลักษณะเนื้อพระ เป็นเนื้อชินตะกั่ว และ การตัดขอบ ขององค์พระนาคปรกใบมะขาม
 เป็นลักษณะ ตอกตัด โดยใช้สิ่ว  ด้านหลังมี ยันต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนพระนาคปรกใบมะขาม ของ เกจิ ท่านอื่นแต่อย่างใด ดังนั้น พบเจอ อย่าพลาด นะครับ เพราะ นี่ คือ พระนาคปรก ใบมะขาม แห่ง สายกัมมฐาน ที่น่าสะสม อยู่ในพระชุดเล็กเป็นอย่างมาก
















ปิดครับ




 

ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi