[Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป(อ่าน 647648 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

1009. เหรียญปรกจเรตำรวจ เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส ปี 2514  รมดำเดิมๆสวยๆ นิยม
และมีประสบการณ์มากๆ รุ่นหนึ่ง ของท่าน ส่งประกวดได้เลยครับ สวยๆ น่าสะสมมากๆครับ
  1,800- แต่ก่อน เศรษฐกิจสภาพคล่อง
สภาพแบบนี้ต้องมี 3000-4000 บาท



เหรียญ “ปรกจเร” เจ้าคุณนรรัตน วัดเทพศิรินทร์

     ในบรรดาเหรียญพระพุทธคุณต่างๆ ที่ พระคุณเจ้า ธมฺมวิตกฺโก   ได้แผ่เมตตาบรรจุพุทธานุภาพให้นั้นจัดว่าเหรียญ นาคปรกจเร  ซื่งสร้างโดย 
  พล.ต.ท.ชนะ  วงศ์ชอุ่ม  อดีตจเรกรมตำรวจ เพื่อแจกจ่ายเป็นศิริมงคลให้แก่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยอันตราย โดยรวบรวมทุนทรัพย์ที่ได้จากการนี้
ไปบูรณะปฏิสังขรณ์วัดอุ่มพุทธาราม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา  ซึ่งเป็นวัดประจำตระกูลของท่านจำนวนการโดยท่านมีเจตตนาการสร้างที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง.

ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดพิมพ์หนื่ง จากราคาเดิมที่ท่านผู้สร้างตั้งราคา ให้ช่วยทำบุญไว้เพียงเหรียญละ 20 บาท มาถึงปัจจุบันนี้ ก็มีราคาพุ่งขึ้นไปหลายพันบาทแล้ว
มีประสบการณ์มากที่สุด ดังจะยกตัวอย่างเหรียญรุ่นนาคปรกจเรตำรวจที่มีหลักฐานเอกสารของทางราชการ มาเป็นพอสังเขป..ดังนี้
1. ถูกยิงแต่ไม่เข้า 8 ราย
2. ถูกยิงแต่ไม่ถูก 14 ราย
3. ทดลองยิงด้วยปืนขนดต่างๆมีทั้งกระสุนด้าน(ใช้กระสุนนัดเดิม ยิงไปทางอื่นกระสุนออก) กับกระสุนพลาดเป้าหมายรวม 23 ราย ดังนี้
- ปืน .22 = 3 ราย
- ปืน .38 = 3 ราย
- ปืนลูกซอง = 1 ราย
- ปืนคาร์บิน = 1 ราย
- ปืน M16 = 1 ราย
- ปืน 05 NATO = 1 ราย
- ไม่ระบุชนิดปืน = 13 ราย
4. เหยียบกับระเบิด แต่ไม่ระเบิด 1 ราย
5. รถยนต์ชนกัน แต่ไม่ได้รับอันตราย 2 ราย
6. รถยนต์พลิกคว่ำแต่ไม่ได้รับอันตราย 2 ราย
7. รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ แต่ไม่ได้รับอันตราย 2 ราย
8. ตกจากที่สูงแต่ไม่ได้รับอันตราย 1 ราย
9. ถูกลอบตีศรีษะแต่ไม่แตก 1 ราย
10. สุนัขกัดไม่เข้า 49 ราย
11. เครื่องเรือไม่ติด แก้ไขไม่สำเร็จ ครั้นนึกได้ว่าเอาเหรียญนาคปรกไว้ใต้ที่นั่ง จึงเอาออกและอาราธนา เครื่องเรือติดทันที 1 ราย
12. แคล้วคลาดจากเหตุการบางประการ 2 ราย
ข้อมูลที่ควรทราบก็คือ เมื่อท่านเจ้าคุณนรฯได้อธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆในพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ท่านอดีตจเรตำรวจจะรับเหรียญกลับ ได้กราบเรียนท่านเจ้าคุณนรฯว่า "กระผม พล.ต.ต. ชนะ วงศ์ชะอุ่ม จเรตำรวจ ได้สร้างเหรียญนาคปรกนี้ขึ้น เพื่อให้ตำรวจทอดผ้าป่าวัดอุ่มพุทธารามและไว้ป้องกันตัว กระผมตั้งใจและมีเจตตนาที่บริสุทธิ์.......ขอพระคุณเจ้าได้แผ่เมตตาให้เป็นพิเศษอีกครั้งหนึ่งด้วย"
ท่านเจ้าคุณนรฯท่านนั่งหลับตาสักครู่แล้วจึงได้อธิษฐานจิตอีกครู่หนึ่งและประพรมน้ำมนต์ลงไปในห่อพระอีกครั้ง..........ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่เจ้าคุณนรฯอธิฐานจิตที่น่าบูชาอย่างยิ่ง มีประสบการณ์อย่างมากมายครับ




ขอจองครับ



1007.เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต   วัดเขาตาเงาะอุดมพร จ.ชัยภูมิ หรือ เรียกว่า เหรียญ 'ไม้จิ้มฟัน' องค์ท่านถือไม้จิ้มฟัน  เนื้อนวโลหะ สร้างน้อย
(นวโลหะเหรียญรุ่นนี้ ขอบจะแดงครับ ไม่ใช่เป็นเหรียญรมดำนะครับ ถ้ารมดำขอบจะดำ)หายาก นิยม นิยมไม่แพ้เหรียญขี่คอ(หลวงพ่อผาง หลวงพ่อจื่อเลยครับ)
 
1,700-







ขอจองครับ



1010.เหรียญเสมาหลวงปู่ทวด วัดเอี่ยมวรนุช ปี2506 พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ปลุกเสก สวยๆ รมดำเต็มๆเดิมๆ 1000-
เหรียญรุ่นแรกที่ออกวัดเอี่ยมวรนุช ได้พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ เสกก่อนออกมาทำบุญที่วัดเอี่ยมวรนุช
จัดเป็นเหรียญที่อาจารย์ทิมเสกในราคาสบายกระเป๋าเมื่อเทียบกับเหรียญที่ออกวัดช้างไห้ที่ราคาไปไกลลิบแล้ว
พระแท้ดูง่ายแขวนเดี่ยวสบายใจแถมอนาคตแพงแน่นอนครับ









1011.พระผงจันทร์ลอย(หมอสุจินต์) หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี ปี19 หายาก นิยมครับ  1,200
ปิดท่านวันชัยครับ
 พระผงรุ่นนี้เริ่มต้นจากเมื่อปี พ.ศ. 2500 ทางวัดใหม่อมตรส กรุงเทพ ได้เปิดกรุพระสมเด็จฯ ให้ประชาชนบูชาซึ่งส่วนหนึ่งสมบูรณ์ทั้งองค์และส่วนหนึ่งชำรุด ส่วนที่ชำรุดบางองค์ก็สามารถตกแต่งได้ ในขณะนั้นช่างชู เป็นผู้ซ่อมและเป็นผู้แกะพิมพ์พระ ซ่อมพระที่ชำรุดเสียหายให้เป็นพระสภาพสมบูรณ์ได้สนิทกับทางคุณหมดวสันต์ เฉลิมวงษ์วัฒนะ ซึ่งเป็ฯผู้ร่วมงานกับข้าพเจ้า (หมอสุจินต์ อยู่สวัสดิ์) ได้เก็บสะสมรวบรวมเศษพระสมเด็จที่แตกหักไว้เป็นจำนวนมาก

ต่อมาข้าพเจ้า (หมอสุจินต์ ) ได้ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการศูนย์สุขาภิบาลเขต 4 จังหวัดขอนแก่น และได้มีความสนใจพระปฏิบัติสายพระอาจารย์มั่น โดยเฉพาะหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลางเพล จ.อุดรธานี จึงมีความคิดว่าจะขอเศษส่วนและผงพระสมเด็จที่ช่างชูเก็บรวบรวมไว้เป็นจำนวนมากนำมาปั้นเป็นรูปหลวงปู่ขาวแล้วมาแบ่งกันพอติดตัวไปใช้กันเท่าที่จะทำได้ ได้ปรึกษากับหมอวสันต์ และช่างชูแล้ว

ตกลงกันครั้งแรกจะทำเป็นพระบูชาหลวงปู่ไว้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ทำเป็นพระเครื่องรูปหลวงปู่ขาว อาจจะได้สักคนละเล็กละน้อยแล้วนำไปใช้ติดตัวได้ จึงไปปรึกษากับหมอประพักตร์ โสฬสจินดา ที่ทำงานอยู่ด้วยกันและเป็นผู้ที่สนิทสนมกับหลวงปู่ขาวเป็นอย่างมาก หลวงปู่ขาวท่านก็อนุญาติให้ทำได้ แต่มีลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่ทราบว่าจะนำเอาผงสมเด็จฯ มาทำและแจกกันใช้เพียง 4-5 คน เท่านั้นจึงไม่ยอมทำอย่างนั้น ขอให้ทำเพื่อแจกจ่ยกับผู้อื่นได้นำไปใช้ด้วย

หลวงปู่ขาวท่านจึงแนะนำให้ทำเป็นรูปจันทร์ลอยเล็กๆ และใช้ยันต์ด้านหลังเป็น**พุทโธ** เมื่อตกลงกันแล้วจึงมีรูปแบบการสร้างและจำนวนดังนี้คือ

พระเนื้อผง
1.รูปจันทร์ลอย ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ขาว ด้านหลังเป็นยันต์พุทโธ
2.รูปจันทร์ลอย ด้านหน้าเป็นพระปิดตา ด้านหลังเป็นยันต์พุทโธ
3.รูปจันทร์ลอย ด้านหน้าเป็นรูปพระไสยาสน์ ด้านหลังเป็นยันต์พุทโธ
พระ 3 องค์จัดเป็นชุด 2000 ชุด
4.พระพิมพ์สมเด็จทรงพระประธาน 30 องค์
5.พระปิดตาลอยองค์เล็ก 30 องค์
6.พระรูปหลวงปู่ขาวสามเหลี่ยมปลายมน 20 องค์

นอกจากนี้ยังได้ทำพระเนื้อโลหะอีกนิดหน่อย
7.พระปิดตาจันทร์ลอย 50 องค์
8.พระพิมพ์ไสยาสจันทร์ลอย 50 องค์
9.พระรูปเหมือนหลวงปู่ขาวพิมพ์เตารีด 300 องค์

สำหรับการทำนั้นได้ให้ช่างชูเป็นผู้ทำและผสมมวลสาร เท่าที่จำได้ส่วนผสมที่ช่วยกันผสมนั้น ผงพระสมเด็จทั้งวัดระฆังและบางขุนพรหมของช่างชู 1 ห่อ(ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมอื่น) จึงถือได้ว่าเป็นมวลสารหลักเลยก็ว่าได้,เศษพระวัดเงิน คลองเตยที่แตกหัก, ฯลฯ นอกจากนี้เป็นส่วนผสมอื่นเช่นน้ำข้าวเหนียว,ปูนขาว,น้ำมัน,และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของมวลสารนี้คือดอกไม้บูชาของหลวงปู่ขาวด้วย

แล้วนำไปให้หลวงปู่ขาว หลวงปู่ขาวท่านได้นำพระไปวางไว้ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาของท่านที่หลวงปู่สวดมนต์ ไหว้พระในห้องของท่านเอง แล้วหลวงปู่ขาวท่านได้อธิฐานจิตให้ระหว่างพรรษษของปี 2519 เป็นเวลาถึง 3 เดือน

หลังจากออพรรษาแล้วหลวงปู่ขาวท่านอนุญาตให้นำพระออกมาแจกจ่ายกันแล้วก็มอบพระส่วนหนึ่งไว้ให้หลวงปู่ขาว แจกผู้ที่มามนัสการหลวงปู่ อีกส่วนหนึ่งก็ได้นำมาแจกผู้ที่เคารพเลื่อมใสกัน

และแจกครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนสิงหาคมและกันยายน 2533 ซึ่งเป็นงานอายุครบ 60 ปีของข้าพเจ้าและครบเกษียญอายุราชการด้วย ฉะนั้นขอกุศลทั้งหลายจงเกิดแก่ผู้ร่วมสร้างพระชุดนี้และ

ขอให้ผู้ที่นำไปใช้จงเจริญในธรรม บังเกิดมหาโภคทรัพย์และพ้นจากสรรพทุกข์,สรรพโศก,สรรพโรคสรรพภัยทั้งหลายทั้งปวงเทอญ...................(นายสุจินต์ อยู่สวัสดิ์)

--------------------------------------------------------------------------

เป็นข้อความที่ทางผู้สร้างได้อธิบายรายละเอียดต่างๆ เอาไว้เพื่อเป็นประวัติและประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังต่อไป

เป็นพระผงชุดหนึ่งที่น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งไม่แพ้พระผงรุ่นหมออวยเลย แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ประวัติและไม่ได้นำมาเผยแพร่เท่าไรนักและอีกอย่างหนึ่งก็คือพระชุดนี้เป็นชุดหนึ่งที่หายากของหลวงปู่ขาวครับ

พระชุดนี้สมบูรณ์แบบดูจากที่หลวงปู่ขาวท่านเป็นผู้แนะนำรูปแบบในการสร้าง(รูปทรงจันทร์ลอย) และการใช้ยันต์ที่ด้านหลังองค์พระ แล้วยังอธิฐานจิตให้ 1 พรรษา ส่วนผสมมวลสารก็สุดยอดตั้งแต่ยังไม่ได้เสกเลย

แบบนี้จึงไม่ต้องสงสัยในพุทธคุณของพระรุ่นนี้เลยกับพระผงอนาลโย (พระผงชุดของหมอสุจินต์)







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2019, 08:54:43 PM โดย thesun »



1012.เหรียญ ลป.จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม รุ่นพัฒนาวัดสารนาถฯ จ.ระยอง ปี2517 ลป.ทิม วัดละหารไร่ร่วมเสก
เนื้ออัลปาก้า มาพร้อมกล่องเดิม
700-

เหรียญหลวงพ่อจันทร์ วัดจันทราราม (รุ่นพัฒนาวัดสารนาถฯ อ.แกลง จ.ระยอง ) ปี2517
สร้างจากมวลสารเหล็กไหลแท้ อธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อจันทร์ และ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เหรียญรุ่นนี้มีคุณวิเศษ เนื่องด้วยได้ผสมมูลเหล็กไหลลงไป ซึ่งมูลเหล็กไหลของหลวงปู่นั้นมีอภินิหารมากมาย เล่ากันว่า มีทหารและตชด.
ได้นำมูลเหล็กไหลไปทดลองยิงด้วยปืน เอ็ม16 และปืนลูกซอง 5 นัด
ปรากฏว่ายิงไม่ออกเลยแม้แต่นัดเดียว นับว่าเป็นอีกหนึ่งของดีที่น่ามีไว้ขึ้นคอเป็นที่สุด

พระดีอนาคตไกล








1006.เหรียญระฆัง2จุด อาจารย์ฝั้น อาจาโร เนื้อฝาบาตร ปี2514 เหรียญยอดนิยมอันดับต้นๆของท่านอาจารย์ สวยๆ ไม่ต่ำกว่าสองหมื่นครับ องค์นี้สภาพผ่านการใช้ แต่ยังสวยอยู่
เปิดบูชาแบ่งปัน
7,500- รับประกันทุกกรณี

ปิดครับ



1011.พระผงจันทร์ลอย(หมอสุจินต์) หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี ปี19 หายาก นิยมครับ  1,200
ปิดท่านวันชัยครับ
 พระผงรุ่นนี้เริ่มต้นจากเมื่อปี พ.ศ. 2500 ทางวัดใหม่อมตรส กรุงเทพ ได้เปิดกรุพระสมเด็จฯ ให้ประชาชนบูชาซึ่งส่วนหนึ่งสมบูรณ์ทั้งองค์และส่วนหนึ่งชำรุด ส่วนที่ชำรุดบางองค์ก็สามารถตกแต่งได้ ในขณะนั้นช่างชู เป็นผู้ซ่อมและเป็นผู้แกะพิมพ์พระ ซ่อมพระที่ชำรุดเสียหายให้เป็นพระสภาพสมบูรณ์ได้สนิทกับทางคุณหมดวสันต์ เฉลิมวงษ์วัฒนะ ซึ่งเป็ฯผู้ร่วมงานกับข้าพเจ้า (หมอสุจินต์ อยู่สวัสดิ์) ได้เก็บสะสมรวบรวมเศษพระสมเด็จที่แตกหักไว้เป็นจำนวนมาก

ต่อมาข้าพเจ้า (หมอสุจินต์ ) ได้ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการศูนย์สุขาภิบาลเขต 4 จังหวัดขอนแก่น และได้มีความสนใจพระปฏิบัติสายพระอาจารย์มั่น โดยเฉพาะหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลางเพล จ.อุดรธานี จึงมีความคิดว่าจะขอเศษส่วนและผงพระสมเด็จที่ช่างชูเก็บรวบรวมไว้เป็นจำนวนมากนำมาปั้นเป็นรูปหลวงปู่ขาวแล้วมาแบ่งกันพอติดตัวไปใช้กันเท่าที่จะทำได้ ได้ปรึกษากับหมอวสันต์ และช่างชูแล้ว

ตกลงกันครั้งแรกจะทำเป็นพระบูชาหลวงปู่ไว้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ทำเป็นพระเครื่องรูปหลวงปู่ขาว อาจจะได้สักคนละเล็กละน้อยแล้วนำไปใช้ติดตัวได้ จึงไปปรึกษากับหมอประพักตร์ โสฬสจินดา ที่ทำงานอยู่ด้วยกันและเป็นผู้ที่สนิทสนมกับหลวงปู่ขาวเป็นอย่างมาก หลวงปู่ขาวท่านก็อนุญาติให้ทำได้ แต่มีลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่ทราบว่าจะนำเอาผงสมเด็จฯ มาทำและแจกกันใช้เพียง 4-5 คน เท่านั้นจึงไม่ยอมทำอย่างนั้น ขอให้ทำเพื่อแจกจ่ยกับผู้อื่นได้นำไปใช้ด้วย

หลวงปู่ขาวท่านจึงแนะนำให้ทำเป็นรูปจันทร์ลอยเล็กๆ และใช้ยันต์ด้านหลังเป็น**พุทโธ** เมื่อตกลงกันแล้วจึงมีรูปแบบการสร้างและจำนวนดังนี้คือ

พระเนื้อผง
1.รูปจันทร์ลอย ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ขาว ด้านหลังเป็นยันต์พุทโธ
2.รูปจันทร์ลอย ด้านหน้าเป็นพระปิดตา ด้านหลังเป็นยันต์พุทโธ
3.รูปจันทร์ลอย ด้านหน้าเป็นรูปพระไสยาสน์ ด้านหลังเป็นยันต์พุทโธ
พระ 3 องค์จัดเป็นชุด 2000 ชุด
4.พระพิมพ์สมเด็จทรงพระประธาน 30 องค์
5.พระปิดตาลอยองค์เล็ก 30 องค์
6.พระรูปหลวงปู่ขาวสามเหลี่ยมปลายมน 20 องค์

นอกจากนี้ยังได้ทำพระเนื้อโลหะอีกนิดหน่อย
7.พระปิดตาจันทร์ลอย 50 องค์
8.พระพิมพ์ไสยาสจันทร์ลอย 50 องค์
9.พระรูปเหมือนหลวงปู่ขาวพิมพ์เตารีด 300 องค์

สำหรับการทำนั้นได้ให้ช่างชูเป็นผู้ทำและผสมมวลสาร เท่าที่จำได้ส่วนผสมที่ช่วยกันผสมนั้น ผงพระสมเด็จทั้งวัดระฆังและบางขุนพรหมของช่างชู 1 ห่อ(ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมอื่น) จึงถือได้ว่าเป็นมวลสารหลักเลยก็ว่าได้,เศษพระวัดเงิน คลองเตยที่แตกหัก, ฯลฯ นอกจากนี้เป็นส่วนผสมอื่นเช่นน้ำข้าวเหนียว,ปูนขาว,น้ำมัน,และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของมวลสารนี้คือดอกไม้บูชาของหลวงปู่ขาวด้วย

แล้วนำไปให้หลวงปู่ขาว หลวงปู่ขาวท่านได้นำพระไปวางไว้ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาของท่านที่หลวงปู่สวดมนต์ ไหว้พระในห้องของท่านเอง แล้วหลวงปู่ขาวท่านได้อธิฐานจิตให้ระหว่างพรรษษของปี 2519 เป็นเวลาถึง 3 เดือน

หลังจากออพรรษาแล้วหลวงปู่ขาวท่านอนุญาตให้นำพระออกมาแจกจ่ายกันแล้วก็มอบพระส่วนหนึ่งไว้ให้หลวงปู่ขาว แจกผู้ที่มามนัสการหลวงปู่ อีกส่วนหนึ่งก็ได้นำมาแจกผู้ที่เคารพเลื่อมใสกัน

และแจกครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนสิงหาคมและกันยายน 2533 ซึ่งเป็นงานอายุครบ 60 ปีของข้าพเจ้าและครบเกษียญอายุราชการด้วย ฉะนั้นขอกุศลทั้งหลายจงเกิดแก่ผู้ร่วมสร้างพระชุดนี้และ

ขอให้ผู้ที่นำไปใช้จงเจริญในธรรม บังเกิดมหาโภคทรัพย์และพ้นจากสรรพทุกข์,สรรพโศก,สรรพโรคสรรพภัยทั้งหลายทั้งปวงเทอญ...................(นายสุจินต์ อยู่สวัสดิ์)

--------------------------------------------------------------------------

เป็นข้อความที่ทางผู้สร้างได้อธิบายรายละเอียดต่างๆ เอาไว้เพื่อเป็นประวัติและประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังต่อไป

เป็นพระผงชุดหนึ่งที่น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งไม่แพ้พระผงรุ่นหมออวยเลย แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ประวัติและไม่ได้นำมาเผยแพร่เท่าไรนักและอีกอย่างหนึ่งก็คือพระชุดนี้เป็นชุดหนึ่งที่หายากของหลวงปู่ขาวครับ

พระชุดนี้สมบูรณ์แบบดูจากที่หลวงปู่ขาวท่านเป็นผู้แนะนำรูปแบบในการสร้าง(รูปทรงจันทร์ลอย) และการใช้ยันต์ที่ด้านหลังองค์พระ แล้วยังอธิฐานจิตให้ 1 พรรษา ส่วนผสมมวลสารก็สุดยอดตั้งแต่ยังไม่ได้เสกเลย

แบบนี้จึงไม่ต้องสงสัยในพุทธคุณของพระรุ่นนี้เลยกับพระผงอนาลโย (พระผงชุดของหมอสุจินต์)






ปิดครับ



1013.เหรียญคุณพระ สะดุ้งกลับ หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน จ.พัทลุง สวยๆ 500-

เหรียญคุณพระ สะดุ้งกลับ เนื้อทองแดงรมดำ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2546  ปลุกเสกและเริ่มแจก  เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2547

พุทธคุณ
กลับดวง จากร้ายกลายเป็นดี
แก้ดวง คนทั้ง 7 วัน

พ่อท่านพรหม อธิษฐานจิตเดี่ยวแล้วยัง

ปลุกเสกโดย พระเกจิอาจารย์ ผู้เข้มขลังแดนใต้ ได้แก่
1.อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
2.หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม
3.หลวงพ่อขาว วัดพระพุทธ
4.หลวงพ่อสุข วัดตุยง
5.อาจารย์แก้ว วัดซาเมาะ
6.พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ

พระพุทธอยู่ในรูปลักษณ์พิมพ์สะดุ้งกลับ
เมื่อพิธีพุทธาภิเษก จะเป็นการเสกกลับทั้งหมด
เหมือนกับเป็นการเสกกลับร้ายกลายเป็นดี
คาถาทุกบท จะต้องว่า กลับหลังทั้งหมด
จะถือว่าเป็น สะดุ้งกลับอย่างแท้จริง

แม้กระทั่งการวางจิต ในการพุทธาภิเษก
หรือ วางจิตในการปลุกเสก
ต้องมีการวางจิตทวนกลับทั้งหมด
วิธีเสกเริ่มแรก จะเป็นการเสกแบบเดินหน้าปกติ
และเสกแบบสะดุ้งกลับ กลับหลังตามกลับมา
เปรียบเสมือนเป็นการแก้ดวง กลับดวง
ว่าด้วยเรื่องคุณพระ
ก็คือ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ









1014.พระชัยวัฒน์หล่อโบราณ หลวงตาช้วน วัดหนัง ก้นอุดชันโรง ปี12 พระชัยวัดหนัง หลวงปู่เอี่ยม(ต้นตำหรับ) และพระชัยวัดหนังเจ้าคุณผล
แพงมากแล้ว ใช้ของหลวงตาช้วนแทนได้ครับ ยังพอเก็บได้ เก็บก่อนที่จะแพงกว่านี้ครับ หาไม่ง่ายแล้วครับ
700-

หลวงตาช้วนท่านได้ร่ำเรียนวิชามาจาก เจ้าคุณผล วัดหนัง วิชาต้นตำรับจากหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เด็กฝั่งธนรู้ดีว่าใช้แทน อาจารย์กันได้เลยครับ

พระครูวิบูลศีลวัตร (ช้วน ปาสาทิโก)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดหนังราชวรวิหาร
สถานะเดิม...ชื่อ ช้วน นามสกุล อ่องสาธร เป็นบุตรโยมบิดา เชื้อ โยมมารดา อบ อ่องสาธร เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๓ ตรงกับ วันพฤหัสบดี แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีจอ ณ บ้านโคกขาม จ.สมุทรสาคร ต่อมาจึงได้ย้ายมาทำสวนส้มเขียวหวานอยู่ที่ บางมด บางขุนเทียน ธนบุรี
มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน โดยที่ท่านเป็นบุตรคนที่2
- วัยเด็กได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดยายร่ม จากนั้นได้เข้ารับราชการทหารเกณฑ์ สังกัดกองทหารรักษาพระองค์ฯ ประจำวังจันทร์เกษม ตามกำหนดรับราชการทหาร ๒ ปี ก็ปลดประจำการณ์ จึงได้มาอยู่ช่วยบิดามารดา ทำสวนส้มเขียวหวานที่บางมดตามเดิม
- อุปสมบท
เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๘๐ ขณะที่มีอายุ ๒๘ ปี ได้เข้ารับการบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาพระอุโบสถ วัดหนังราชวรวิหาร เขตบางขุนเทียน ธนบุรี (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น) เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร โดยมี
- พระวิเชียรกวี (ฉัตร อินทสุวณโณ) เป็น พระอุปัชฌาย์
- พระญาณรังษี (ผวน ภทธโร) เป็น พระกรรมวาจาจารย์
- พระครูภาวนาภิรัต (ผล คุตตจิตโต) เป็น พระอนุสาวนาจารย์
ได้รับเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา นามว่า "พระช้วน ปาสาทิโก"
- สมณศักดิ์
พ.ศ.๒๔๙๕ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรมของ พระวิเชียรกวี(หลวงปู่ฉัตร) ที่ พระครูสมุห์
พ.ศ.๒๕๐๐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรมของ พระวิเชียรกวี(หลวงปู่ฉัตร) ที่ พระครูสังฆรักษ์
พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมของ พระสุนทรศีลสมาจาร(หลวงปู่ผล) ที่ พระปลัด
พ.ศ.๒๕๒๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์แต่งตั้งเลื่อนเป็น พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท ที่ พระครูวิบูลศีลวัตร
พ.ศ.๒๕๓๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์แต่งตั้งเลื่อนเป็น พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ที่ พระครูวิบูลศีลวัตร
พ.ศ.๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์แต่งตั้งเลื่อนเป็น พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ ที่ พระครูวิบูลศีลวัตร
- งานสงเคราะห์
นอกจากศึกษาพระธรรมวินัยอย่างแตกฉานแล้ว ท่านยังได้ศึกษาตำรายาแผนโบราณจาก พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงปู่ผล) เพื่อเป็นการอนุเคราะห์ช่วยเหลือชาวบ้านด้วยความเมตตาเป็นที่ตั้ง ตัวยาที่โดเด่นในการใช้รักษาก็คือ ยาเป่าฝี ยารักษาโรคต่าง ๆ และ ยาเขียวใหญ่ เป็นยาสมุนไพรที่ปรุงแจกในการทำแต่ละครั้งเป็นกระถางมังกรใบใหญ่ ๆ ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่วันก็ต้องทำใหม่อีกอยู่อย่างนี้เป็นประจำเสมอ ๆ
หลวงตาช้วน มักจะได้รับการอาราธนาเข้าร่วมนั่งปรกพิธีพุทธาภิเษก เป็นประจำในปริมณฑล กรุงเทพมหานคร
ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ท่านได้รับการอาราธนาเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
เรื่องของงานบุญต่าง ๆ ท่านไม่เคยพลาดร่วมบริจาคช่วยเหลือกับทางเจ้าอาวาสวัดหนัง ตามโอกาสเวลาเป็นประจำ
ท่านเป็นแบบอย่างของพระที่ไม่สะสมเงินตรา ไม่สะสมของมีค่า ประการใด ๆ อยู่แบบสมถะ มักน้อย สันโดษ
เคารพครูบาอาจารย์เป็นอย่างสูง
- ชราภาพ-มรณภาพ
พระครูวิบูลศีลวัตร (ช้วน ปาสาทิโก) เมื่อมีอายุมากขึ้นสภาพสังขารเสื่อมโทรมลงตามลำดับ อวัยวะต่าง ๆ ทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ความเจ็บไข้อาพาธรุกโรมเข้ามาสู่สังขารร่างกาย ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็ง จึงทำให้ดูเหมือนท่านไม่เป็นอะไรมาก ได้รับการดูแลจากน้อง หลาน ฝ่ายคฤหัสถ์ และฝ่ายบรรพชิต คอยเปลี่ยนวาระถวายการปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด หลวงตาเริ่มอาพาธหนักด้วยโรคชรา ญาติ ๆ จึงได้นำเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทางคณะแพทย์พยาบาลก็ได้ทำการรักษาดูแลเอาใจใส่เป็ยอย่างดี ช่วยให้หลวงลุงดำรงสังขารมาได้จนถึงวันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ เวลา ๑๖.๑๘ น. ท่านก็ถึงกาลมรณภาพ ละสังขารด้วยอาการสงบยังธรรมสังเวช และความเศร้าสลดใจให้เกิดแก่ญาติ ๆ ศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง
สิริอายุได้ ๙๐ ปี ๖ เดิอน ๑๘ วัน พรรษา ๖๒
ด้านวัตถุมงคล
หลวงตาช้วนถือได้ว่าเป็นสายวัดหนังรูปสุดท้ายที่ได้รับวิชามาจากหลวงปู่ผลอีกทีก็ว่าได้ พระเครื่องวัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีมากมายหลายอย่าง เช่น
-เหรียญคอตรงและคอเอียงหลวงปู่ผลปี2512 ใช้แจกเป็นของชำร่วยในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ผล
-พระชัยวัฒน์ สร้างในปี2512 เช่นเดียวกับเหรียญคอตรงและคอเอียง
-หมากทุย
-ตะกรุดโทน ตะกรุดท่อ
-พระปิดตา รุ่นต่างๆ
-พระสมเด็จ
-รูปถ่ายหลวงปู่เอี่ยม - หลวงปู่ผล หลังจาร
-เหรียญหลวงปู่เอี่ยมปี2525
-เชือกผูกคอเด็ก
-พระปิดตางาแกะ เป็นต้น
จึงไม่แปลกใจที่วัตถุมงคลของท่าน หลายๆชนิดในสนามพระขายเป็นของหลวงปู่ผลหรือแม้กระทั้ง พระปิดตาปี2506 ที่ท่านทำแล้วให้หลวงปู่ผลปลุกเสกเพื่อแจกเป็นของชำร่วยในงานศพโยมพ่อของท่าน เซียนพระหรืองานประกวดต่างๆยังยัดเข้าไปเป็นพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมก็มี
แม้ว่าท่านจะสร้างเหรียญของครูบาอาจารย์มามากมาย แต่เหรียญรูปเหมือนของท่าน ท่านสร้างแค่รุ่นเดียวคือปี2542 โดยท่านให้เหตุผลที่ไม่สร้างเหรียญรูปเหมือนของท่านว่า
"จะสร้างทำไม เหรียญครูบาอาจารย์ก็ยังมีอยู่"











1015.เหรียญชันเข่า หรือ( นั่งหนาว )หลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง ปี 2517 กะไหล่ทองกรรมการ หายาก ผิวสวยเดิม
จัดเป็นเหรียญนิยมหายากเหรียญนึงในนามวัตถุมงคลหลวงพ่อ
700-
ปิดครับ
เหรียญนั่งชันเข่า หรือ นั่งหนาว หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปี 2517 สร้าง วัดโนนสาวเอ้ บ้านโนนสาวเอ้ ม.2 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.ปราจีนบุรี เพื่อสมนาคุณแก่ผู้ร่วมบริจาคสร้างพระอุโบสถของวัด ปลุกเสกโดย หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปลุกเสก ปี พ.ศ.2517













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2019, 09:36:29 PM โดย thesun »



1016.เหรียญหล่อเศรษฐี "รุ่นแรก" หลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ วัดผาเทพนิมิต ปี55 เนื้อสัมฤทธ ิ์ 500-








1017.พระนาคปรกใบมะขามพิมพ์ใบโพธิ์รุ่นแรก ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร สวยๆเดิม 500- (ช่วงแรงๆสองพันขึ้นครับ)






1018.แผ่นปั๊มขนาดบูชา หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา ปี22 ขนาด 5X7 นิ้ว  พร้อมซองเดิมจากวัด ตั้งบูชาได้ครับ 700-









1019.พระบูชารุ่นแรก รุ่นเดียว หลวงปู่อุ่น อุตตโม วัดอุดมรัตนาราม จ.สกลนคร ปี18 หายาก สภาพสวย นานๆเจอที 4500-


หลวงปู่อุ่น ท่านเป็นศิษย์ยุคต้นๆของพระอาจารย์มั่น  ทั้งยังเป็นอาจารย์อีกองค์ของท่านอาจารย์วัน หลวงปู่ผ่าน...
และท่านยังเป็นสหธรรมิกกันกับหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ฝั้น เป็นต้น

หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม ท่านมรณะภาพปีพ.ศ.2523 เมื่อสลายธาตุขันธ์องค์ท่าน อัฐิแปรสภาพเป็นพระธาตุสวยงามมากครับ




ประวัติหลวงปู่อุ่น อุตฺตโม วัดอุดมรัตนาราม จ.สกลนคร (พระครูบริบาลสังฆกิจ)
พระครูบริบาลสังฆกิจ (พระอาจารย์อุ่น อุตตโม) นามเดิม อุ่น วงศ์วันดี เกิดวันอาทิตย์ที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๒ ที่บ้านอากาศ ตำบลอากาศ อำเภอวานรนิวาส(อากาศอำนวย)จังหวัดสกลนคร นามบิดา อุปละ นามมารดา บุดดี วงศ์วันดี ท่านเป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง ๗ คน เมื่ออายุครบ ๒o ปี อุปสมบทใหม่ฝ่ายมหานิกาย และลาสิกขาไป ต่อมาวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๓ ท่านอุปสมบทใหม่ฝ่ายธรรมยุต ณ อุทกุกเขปสีมา (สิมน้ำ) ที่ท่าบ้านร้าง กลางลำน้ำยาม บ้านอากาศ โดยท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชเวที วัดโพธิสมภรณ์ เป็นพระอุปัชาฌาย์ หลวงปู่สีลา อิสสโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านอยูปฎิบัติธรรมกับหลวงปู่สีลาและต่อมาไปอยู่กับหลวงปู่เกิ่ง อธิมุตุตโก จนกระทั้งปี พ.ศ.๒๔๘0 ท่านได้ตั้งวัด อุดมรุตนาราม ขึ้นที่บ้านอากาศ ณ บริเวณเสนาสนะป่าชึ่งหลวงปู่สิงห์ ขนุตยาคโม และหลวงปู่มหาปิ่น ปญญาพโล เคยจำพรรษา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๙ และเมื่อหลวงปู่มั่นมาอยู่ที่บ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร ท่านก็พาลูก ศิษย์ไปกราบฟังธรรมเป็นประจำ ท่านยึดถือปฎิปทาตามแบบอย่างครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด เป็นผู้มักน้อยสันโดษ เป็นผู้มีใจเด็ดเดี่ยวในการปฎิบัติ เพื่อมุ้งหวังความหลุดพ้นจากอาสวกิเลส ในวันพระท่านจะพาญาติโยม ปฎิบัติโดยไม่นอนตลอดคืน ท่านตั้งสำนักเรียนขึ้นที่วัดอุดมรัตนาราม ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูบริบารสังฆกิจ ท่านมรณภาพ เมื่อวันที่ ๓0 พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๓ ภายหลังอัฐิท่านเป็นพระธาตุ












1020.เหรียญอาร์ม กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ออกพระตำหนักสามแยกประแสร์ ปี2518 จ.ระยอง
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ร่วมปลุกเสก เหรียญดีน่าสะสม ราคาเบาๆ
700-ปิดคุณdom ทางไลน์ครับ

เหรียญอาร์มกรมหลวงชุมพร พระตำหนักสามแยกประแส ปีพ.ศ. 2518
หลวงปู่ทิมปลุกเสก


ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพร หรือ ชื่อเต็มว่า “พระตำหนักพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” เป็นศาลของสมเด็จท่านฯ หนี่งใน 200 ศาลทั่วทั้งประเทศ เป็นศาลประดิษฐานพระรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งราชนาวีไทย ในลักษณะพระอิริยาบถประทับยืนฉลองพระองค์ชุดเครื่องแบบเต็มยศพลเรือเอกแห่งราชนาวี มีความสูง 173 เซนติเมตร ศาลแห่งนี้นับเป็นที่เคารพสักการะของชาวระยองเป็นอย่างมาก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบุคคลต่างๆ มักจะแวะมาสักการะอยู่อย่างไม่ขาดสาย

ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพร อยู่ตรงข้ามทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ตรงก.ม.ที่ 278 โดยด้านหลังของศาลยังมีจุดขมวิวของปากน้ำประแส

--------------------------------------------------------------

เหรียญนี้จัดสร้าง และปลุกเสกในปีพ.ศ. 2518 เพื่อจะนำมาแจกเป็นที่ระลึกในงานมูลนิธิกรมหลวงชุมพร พระตำหนักสามแยกประแสร์ โดยได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า และเกจิอาจารย์สายระยอง เหรียญรุ่นี้มีการจัดสร้างทั้งสิ้น 20,000 เหรียญ แยกเป็น

• เนื้อทองแดงชุบนิเกิ้ล 5,000 เหรียญ
• เนื้อทองแดงมันปู 15,000 เหรียญ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 02, 2019, 08:35:23 PM โดย thesun »




 

ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi