[Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป(อ่าน 648160 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

1020.เหรียญอาร์ม กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ออกพระตำหนักสามแยกประแสร์ ปี2518 จ.ระยอง
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ร่วมปลุกเสก เหรียญดีน่าสะสม ราคาเบาๆ
700-ปิดคุณdom ทางไลน์ครับ

เหรียญอาร์มกรมหลวงชุมพร พระตำหนักสามแยกประแส ปีพ.ศ. 2518
หลวงปู่ทิมปลุกเสก


ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพร หรือ ชื่อเต็มว่า “พระตำหนักพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” เป็นศาลของสมเด็จท่านฯ หนี่งใน 200 ศาลทั่วทั้งประเทศ เป็นศาลประดิษฐานพระรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งราชนาวีไทย ในลักษณะพระอิริยาบถประทับยืนฉลองพระองค์ชุดเครื่องแบบเต็มยศพลเรือเอกแห่งราชนาวี มีความสูง 173 เซนติเมตร ศาลแห่งนี้นับเป็นที่เคารพสักการะของชาวระยองเป็นอย่างมาก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบุคคลต่างๆ มักจะแวะมาสักการะอยู่อย่างไม่ขาดสาย

ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพร อยู่ตรงข้ามทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ตรงก.ม.ที่ 278 โดยด้านหลังของศาลยังมีจุดขมวิวของปากน้ำประแส

--------------------------------------------------------------

เหรียญนี้จัดสร้าง และปลุกเสกในปีพ.ศ. 2518 เพื่อจะนำมาแจกเป็นที่ระลึกในงานมูลนิธิกรมหลวงชุมพร พระตำหนักสามแยกประแสร์ โดยได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า และเกจิอาจารย์สายระยอง เหรียญรุ่นี้มีการจัดสร้างทั้งสิ้น 20,000 เหรียญ แยกเป็น

• เนื้อทองแดงชุบนิเกิ้ล 5,000 เหรียญ
• เนื้อทองแดงมันปู 15,000 เหรียญ





ปิดคุณdom ทางไลน์ครับ



1022. เหรียญหล่ออธิษฐาน พระแก้วมรกตหลังดวงเกษม หลวงพ่อเกษม เขมโก ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปี36 กล่องเดิม หายาก
สร้างน้อย เงินหนาๆ ครับ 
1,500-












1023.พระนาคปรกผงเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี  วัดบรมธาตุนครศรีธรรมราช หลังยันต์ห้า ปี2496 เนื้อมหาว่านดำ พระดี พิธีใหญ่ สวย สมบูรณ์ 1500-



ประวัติการสร้างพระนาคปรกผงเทพนิมิตร ปี 2496
ความเป็นมาที่เป็นเหตุที่ให้ชื่อว่าเทพนิมิตร เพราะได้ตำราจากความฝัน ว่ามีอาจารย์ผู้เฒ่ารูปหนึ่งมาบอกว่าต่อไปเมื่อหน้า ความสุขความสบายจะไม่มีแก่มนุษย์ผู้ไร้ศีลธรรมจะประสบภัยอันเกิดจากศาสตรา อาวุธนานาชนิดซึ่งไม่เคยพบเห็น ภัยจากโจรผู้ร้ายที่มีใจดำอำมหิตเยี่ยงสัตว์ป่า และภัยจากภูตผีปีศาจ เพื่อให้พ้นจากภัยนี้ท่านบอกว่าให้หาดอกไม้ที่พระสงฆ์เถรานุเถระทำวัตรขอขมา โทษซึ่งกันและกันก่อนเข้าพรรษา และดอกไม้หน้าพระประธานวันเข้าพรรษาวันเดียวให้ได้ ๑๐๘ วัด กับให้เอาตะใคร่พระเจดีย์ที่บรรจุบรมธาตุ ตะใคร่พระศรีมหาโพธิ์ ผงวิเศษของอาจารย์ต่างๆหลายสำนัก ผงวิเศษของอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน มาทำเป็นรูปพระเข้าพิธีปลุกเสกตลอดสามเดือน พร้อมด้วยการทดลองคุณภาพให้เห็นเป็นที่ไว้วางใจได้ ให้ผู้ที่บูชาพระผงเทพนิมิตรนี้ละบาปบำเพ็ญบุญ มั่นอยู่ในศีลธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระจะรักษาให้พ้นภัยทั้งปวงดังกล่าวแล้ว
ข้าพเจ้า (อ.ชุม) ตื่นขึ้นรู้สึกปลื้มใจ จึงประกาศให้บรรดาศิษย์ทั่วทุกจังหวัดช่วยกันจัดหา โดยกำหนดเอาดอกไม้บูชาพระจากพระอารามหลวง และอารามราษฎรที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย อาศัยความพร้อมเพรียงของศิษย์ทั้่งหลายจึงจัดหามาได้ตามปรารถนา ซ้ำยังได้ผงของอาจารย์ต่างๆ หลายสำนัก เช่น ผงวิเศษของอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน ซึ่งมีศิษย์นำมามอบให้พร้อมด้วยประวัติ ปรากฎว่าผงศักดิ์สิทธิ์นี้ ขุดพบจากโคกโบสถ์เก่าใต้ฐานพระเจดีย์ ณ บ้านศรีประจันต์ ตำบลศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยความร่วมมือร่วมใจของบรรดาศิษย์หลายร้อยคน พร้อมด้วยการเสียสละทั้งกำลังทรัพย์และกำลังกาย จึงได้สิ่งที่ต้องการมาครบตามปรารถนา ข้าพเจ้าจึงเข้าพิธีทำและปลุกเสกตลอด 3 เดือน พร้อมด้วยการทดลองคุณภาพ เห็นเป็นที่ไว้วางใจได้ และเริ่มแจกแก่บรรดาศิษย์ที่เข้าพิธีียกครูประจำปี 2496 แล้วเก็บไว้แจกผู้ที่สมัครเข้าเป็นศิษย์ใหม่เพื่อเป็นที่ระลึก พร้อมด้วยการขอร้องให้ละบาปบำเพ็ญบุญ ประพฤติตนเป็นพลเมืองดีของชาติ

พระผงเทพนิมิตรที่สร้างในปี 2496 นี้จะมีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์ขุนแผน พิมพ์ชินราชท่าเรือ พิมพ์นางตรานาคปรกใหญ่-เล็ก พระนาคปรกหลังยันต์ เป็นต้น
โดยมีการสร้างแต่ละพิมพ์ พิมพ์ละ 84,000 องค์ และจัดให้มีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2496 ครบ 84,000 องค์
-วันที่ 1 กันยายน 2497 ทำพิธีปลุกเสก
-วันที่ 14 กันยายน 2497 ออกพิธี
-วันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา
โดยพิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
พระชุดนี้ได้ทำพิธีปลุกเสกที่ วัดบรรพตพินิจ อ.เขาชัยสน พัทลุง และมาปลุกเสกที่วัดบรมธาตุนครศรีธรรมราช อีกครั้งหนึ่ง โดยมีคณาจารย์สายใต้และสายเขาอ้อร่วมปลุกเสกดังนี้
1. หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี
2. หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี
3. หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน
4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา
5. หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย
6. หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง
7. หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา
8. หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์
9. หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่,
10. หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่
11. หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย
12. หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง
13. หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
14. หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
15. หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ
16. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก
17. หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง
18 หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน)
19. หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร
20, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี
21. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน
22, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย
23. หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู
24, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร
25, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน
26, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
27. หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
28. หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
29. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
30. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ

อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน

มวลสารที่รวบรวมมามีพระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ เมื่อเสร็จพิธีกรรม อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้นำพิมพ์ต่างๆ เช่น พระพิมพ์นางตราและท่าเรือขนาดใหญ่-เล็ก พระนาคปรกหลังยันต์ พระพิมพ์ชินราชใหญ่-เล็ก พระพิมพ์ขุนแผน ออกแจกด้วยตัวท่านเอง พร้อมสมุดอุปเท่ห์การบูชาพระ ผู้คนจึงรู้จักกันว่าเป็นพระของอาจารย์ชุม จำนวนการสร้างนั้นมีพิมพ์ละ 84,000 องค์ เมื่อพระมีจำนวนมากบางส่วน ท่านจึงได้นำบรรจุเก็บไว้ในถัง 200 ลิตร ต่อมาปลวกมาทำรัง พระที่พบจึงมีทั้งแบบมีคราบปลวกและที่ไม่มีคราบ

พุทธคุณวิเศษของพระในพิธีนี้ มีครบทุกด้านไม่ว่า ทางโชค ลาภ บอกเหตุดีร้ายให้ผ้บูชาล่วงหน้า และคงกระพัน ดังนั้นลูกศิษย์ ลูกหา ของอาจารย์ชุม จึงมักนิยมพระชุดนี้ ติดตัวกันไว้เสมอ ไม่พิมพ์ใดก็พิมพ์หนึ่ง

ครั้งหนึ่งเคยมีคนสอบถามท่านอาจารย์ชุมว่า พระรุ่นไหนดีที่สุด ท่านกล่าว ว่า พระเทพนิมิตร โดยให้เหตุผลว่าอัศจรรย์ตั้งแต่ก่อนสร้าง ระหว่างสร้าง และเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ขนาดว่าตายแล้วเกิดอีก ยังไม่แน่ว่าจะทำได้แบบครั้งนั้น จึงเป็นเหตุให้ศิษย์สายตรงต่างก็จะต้องมีพระรุ่นนี้ติดตัว หรือมีไว้ในครอบครองอย่างน้อยสักองค์หนึ่ง
อาจารย์ชุมท่านว่าดีทางกันศาสตราวุธทุกชนิด ตลอดถึงกันโจรและสัตว์ร้าย หนักไปทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ใช้ได้ทั้งหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ พระรุ่นนี้ลูกศิษย์อาจารย์ชุมจึงนิยมบูชาติดตัวกันมากครับ

พระเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี สร้างและปลุกเสกเมื่อปี 2496 มีพระ 6 พิมพ์ด้วยกัน

1. พระนาคปรกเทพนิมิตร หลังยันต์ห้า (แทนตัวอ.ชุม ซึ่งเกิดวันเสาร์) สำหรับแจกผู้ชาย
2. พระกลีบบัีวเทพนิมิตร หรือเทพนิมิตรพิมพ์เล็ก (แทนตัวคุณแม่บุญสืบ ภรรยา อ.ชุม ซึ่งเกิดวันพฤหัสบดี) สำหรับแจกผู้หญิง
3. พระสาม (พิมพ์พระลำพูน)
4. พระโคนสมอ (พิมพ์พระอยุธยา)
5. พระขุนแผนทรงพล (พิมพ์พระสุพรรณ)
6. พระขุนแผนเทพนิมิตร พิมพ์ฐานบัว

สองพิมพ์แรกจะเป็นพระพิมพ์ที่จัดสร้างและแจกจำหน่ายออกไปมาก จนคนรู้จักเล่นหากันจนเป็นมาตรฐานดีแล้ว แต่นอกจากนี้ยังมีพระพิมพ์พิเศษที่หาชมได้ยากอีกหลายๆพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่หวงแหนของลูกศิษย์ลูกหาที่เก็บกันไว้ พระ พิมพ์พิเศษ โดยมากจะเป็นพิมพ์ที่ทำตามอย่างพระกรุโบราณ หรือพระเกจิรุ่นเก่าๆ มีทั้งแบบหลังปั๊มยันต์ห้าและหลังเรียบ เนื้อหาของพระพระเป็นแบบเดียวกับพระนาคปรกเทพนิมิตรทุกประการ มีทั้งสีดำและแดง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เผา

วิธีใช้และอาราธนา

ว่านะโม 3จบแล้วตั้งใจอธิษฐานว่า

ข้าพเจ้าขอถึงซึ่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก แล้วตามองดูรูปที่นั่งอยู่สักครู่นึ่ง แล้วหายใจเข้าภาวนาว่า"พุทธ " หายใจออกภาวนาว่า "โธ" จนจิตสงบ
แล้วเสกด้วยคาถา

"อิสวาสุ สุสวาอิ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ๓ จบ"

ถ้ามีเรื่องเดือดร้อน หรือมีเหตุจำเป็นที่จะต้องถามพระ ให้ทราบถึงเหตุนั้น ให้จุดธูปเชิญเทวดาที่รักษาพระให้มา พร้อมด้วยระลึกถึงอาจารย์คง อาจารย์ขุนแผน ตั้งใจให้เป็นสมาธิ ใช้มือจับพระเข้า แล้วนั่งบริกรรมด้วยคาถานี้ "นะมะพะทะนึมึพึทึ" บริกรรมไปจนเทวดามาเข้าทรงแล้วจึงถามได้ตามปรารถนา พระนี้ข้าพเจ้า (อ.ชุมฯ)รับรองว่ากันศาสตราทุกชนิดได้จริง ตลอดถึงกันโจรและสัตว์ร้ายหนักไปทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ใช้ได้ทั้งหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ ห้ามนำไปทดลองทำเป็นเล่น ขาดความเคารพนับถือ ผู้ที่ไม่มีความเชื่อขออย่าได้รับไปตั้งแต่วันนี้ จะเกิดโทษนานา ชนิดแก่ตน

ลงนาม (อ.ชุม ไชยคีรี)










1024.พระกลีบบัวเทพนิมิตร หรือเทพนิมิตรพิมพ์เล็ก อาจารย์ชุม ไชยคีรี วัดบรมธาตุนครศรีธรรมราช ปี2496 700-






1024.นำเหรียญยอดนิยมสายกรรมฐาน และเหรียญนอดนิยมอันดับต้นๆของท่านพ่อมาแบ่งปัน เหรียญเสมาธรรมจักร หรือบางท่านเรียกว่าเหรียญตาชั่ง ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี03 บล็อคแตกสองจุด ผิวน้ำมันก๊าซ
เดิมๆ สวยๆ ประกวดติดรางวัลแน่นอน สภาพนี้ ตำหนิครบ รับประกันตลอดชีพ เก็บทั้งทีเก็บสวย ไม่มีผิดหวังครับ
  เปิดราคาแบ่งปัน 27,000-
สภาพนี้อยู่ในมือสายตรง สามหมื่นกว่าขึ้นแน่นอนครับ เก็บแบบนี้อนาคตสดใส ออกต่อก็มีกำไรครับ ปิดท่านj999ครับ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 05, 2019, 09:49:17 PM โดย thesun »



1024.นำเหรียญยอดนิยมสายกรรมฐาน และเหรียญนอดนิยมอันดับต้นๆของท่านพ่อมาแบ่งปัน เหรียญเสมาธรรมจักร หรือบางท่านเรียกว่าเหรียญตาชั่ง ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี03 บล็อคแตกสองจุด ผิวน้ำมันก๊าซ
เดิมๆ สวยๆ ประกวดติดรางวัลแน่นอน สภาพนี้ ตำหนิครบ รับประกันตลอดชีพ เก็บทั้งทีเก็บสวย ไม่มีผิดหวังครับ
  เปิดราคาแบ่งปัน 27,000-
สภาพนี้อยู่ในมือสายตรง สามหมื่นกว่าขึ้นแน่นอนครับ เก็บแบบนี้อนาคตสดใส ออกต่อก็มีกำไรครับ
 
เหรียญตาชั่ง ท่านพ่อลี วัดอโศการาม เป็นเหรียญที่นิยมมากที่สุดในสาย หลวงพ่อลี มีประสบการณ์มาก แกะพิมพ์ได้อย่างสวยงาม

เหรียญเสมาท่านพ่อลี 2503 เนื้อทองแดง แบ่งออกเป็น 3 บล็อคนะครับ ดูจุดที่ผมวงไว้เลยนะครับ
1. เป็นบล็อคไม่แตกครับ สังเกตไม่มีเนื้อเกิน บริเวณใต้ฐานปัญจวัคคีย์ทั้ง 5
2. เป็นบล็อคแตกเดียว หรือแตกที่เดียว จะมีเนื้อเกินบริเวณใต้ฐานปัญจวัคคีย์ องค์กลาง
3. เป็นบล็อคแตกสอง หรือแตก 2 ที่ จะมีเนื้อเกินบริเวณใต้ฐานปัญจวัคคีย์ องค์กลาง และมีเนื้อเกินอีกที่ที่ฐานล่างสุดขวามือเรา รวมมีเนื้อเกิน 2 ที่

ราคาเล่นหาเฉพาะเนื้อทองแดง เรียงตามลำดับดังนี้ครับ บล็อคแตกเดียวนิยมที่สุด รองลงมาคือ แตกสอง และสุดท้ายคือบล็อคไม่แตกครับ





















ผิวพระจะมีเส้นสายฝนและมีผดตามผิว เอกลักษณ์ของเหรียญรุ่นนี้


ขีดคมๆตรงกอไก่ สระอา



มีจุดเนื้อเกิน เหมือนยันต์ทะลุ


ขอจองตามข้อความ ครับ



1025.ขออนุญาติเปิดเหรียญยอดนิยมหลวงปู่ดุลย์ เหรียญกายทิพย์เนื้อทองแดงกะไหล่ทองลงยา 5 สี หลวงปู่ดุลย์ อตุโล  ปี2521 พิมพ์กนกลอย สวยๆ ลงยาเดิมๆ ประกวดติดรางวัลแน่นอน

สภาพนี้นิยม และหายาก รับประกันทุกกรณี
ปิดครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2019, 02:07:48 PM โดย thesun »



1026.สมเด็จรุ่นแรกหลวงปู่มา ญาณวโร วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด หรือเรียกว่า สมเด็จหลังหัวเสือ หน้าตรง  ปี16  เนื้อผงพุทธคุณ มวลสาร 108
ผสมเกศาหลวงพ่อ  ประสบการณ์สุดยอด ที่สำคัญหายาก นิยมครับ
1,400-





















1027.รูปเหมือนปั๊มหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี รุ่นบรรจุอัฐิ ปี2503 สวยๆ ประกวดติดรางวัลแน่นอน หายาก นิยมครับ ประสบการณ์แคล้วคลาดดีมาก
คนเก็บหายหมดไปจากสนามเลยครับ
2,500- ปิดท่านj999 ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 12, 2019, 09:44:04 AM โดย thesun »



1027.รูปเหมือนปั๊มหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี รุ่นบรรจุอัฐิ ปี2503 สวยๆ ประกวดติดรางวัลแน่นอน หายาก นิยมครับ ประสบการณ์แคล้วคลาดดีมาก
คนเก็บหายหมดไปจากสนามเลยครับ
2,500-

เหรียญหลวงพ่อหมื่นปลายๆถึงแสน ใช้รูปหล่อที่บรรจุอัฐิเสมือนองค์ท่านแทนได้ครับ

พระรุ่นนี้ถึงแม้นว่าจะไม่ทันหลวงพ่อทองสุขปลุกเสก แต่ก็ได้อัฐิของท่านไว้ในองค์พระ เพราะฉะนั้นเสมือนหลวงพ่อยังอยู่ในองค์พระครับ

พระรูปหล่อองค์ดังกล่าวได้บรรจุอัฐิของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง สร้างหลังจากหลวงพ่อทองสุข ฯ ได้มรณะภาพลง ทำการปลุกเสกโดยหลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง
 ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดกับหลวงพ่อทองสุข ฯ ซึ่งหลวงพ่อแผ่วได้นำอัฐิของหลวงพ่อทองสุข ฯ นำมาบรรจุในรูปหล่อรุ่นโดดบาตร หรือบางท่านเรียกว่ารุ่นบรรจุอัฐิ
ที่โดดบาตรเนื่องจากหลวงพ่อแผ่วปลุกเสกจนพระรูปหล่อโดดออกมาจากบาตรครับ ซึ่งแต่ก่อนไม่ค่อยมีคนสนใจแต่ปัจจุบันเนื่องจากมีความแน่ชัดว่าได้บรรจุอัฐิของหลวงพ่อทองสุข
ไว้ในรูปหล่อรุ่นนี้จริงจึงทำให้รูปหล่อรุ่นนี้โดนเซียนเก็บเงียบหมดบางคนก็นำเอามาอาราธนาติดตัวเลยครับ


หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองเพชรฯ














ขอจองครับ



1028.เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร วัดป่าหนองหลุบ จ.ขอนแก่น ปี45 เหรียญนี้พิเศษมีจาร พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อันดับต้นๆของขอนแก่นที่ยัง
ดำรงขันธ์อยู่ น่าเก็บครับ  สวยๆ หายากแล้วครับ
1,000- ปิดท่าน j999 ครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 12, 2019, 03:12:13 PM โดย thesun »



1028.เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร วัดป่าหนองหลุบ จ.ขอนแก่น ปี45 เหรียญนี้พิเศษมีจาร พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อันดับต้นๆของขอนแก่นที่ยัง
ดำรงขันธ์อยู่ น่าเก็บครับ  สวยๆ หายากแล้วครับ
1,000-




หลวงพ่อ กิตติศักดิ์ กิตติสาโร เจ้าอาวาสวัดป่าหนองหลุบ
นามเดิม ภุชงค์เฉลิมศักดิ์ ผิวเหลือง
บิดา นายณรงค์ ผิวเหลือง
มารดา นางทองถิน ผิวเหลือง ตอนหลังได้ บวชชี จนสิ้นชีวิตเมื่อปี ๒๕๕๒ อายุ ๙๑ ปี
สถานที่เกิด บ้านหนองหลุบ ต.บ้านทุ่ม อ. เมือง จ. ขอนแก่น
เมื่อวันจันทร์ ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๔๘๘ ตรงกับ วันขึ้น ๙ ค่ำ ปีระกา เดือน ๑๑ เวลาราว ๐๖.๐๐ น. ช่วงเช้าขณะพระบิณฑบาตถึงหน้าบ้านพอดี
///การศึกษาทางโลก///
เรียนถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๘ สมัยเก่า แต่สอบผ่านไม่ได้ ที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนซึ่งเป็โรงเรียนประจำ จังหวัดขอนแก่น
การทำงานเมื่อก่อนเป็นนักดนตรีเพราะชอบเล่นกีตาร์ ร้องเพลงเองได้ เมื่อสมัยเป็นนักเรียน ได้เล่นดนตรีตามบาร์ฝรั่ง(สแนคบาร์) ไนท์คลับ เขียนเพลงขายบ้าง เพราะได้ศึกษา โน้ตสากล
หากแต่ป่วยบ่อยๆ เคยถูกผ่าตัด กลัวตายจึงตัดสินใจออกบวชเพราะอยากบวชมานานแล้ว ก่อนที่จะออกบวชเป็นผู้ที่ชอบนั่งสมาธิ ศึกษาธรรมะและประวัติพระเถระ ในอดีตชอบปฏิปทาพระธุดงค์มาก เวลานอนหลับก็ฝันว่าบวชบ่อยมาก เมื่อตอนเด็กๆเคยฝันว่าเป็นพระเหาะลงมาจากสวรรค์ในท่านั่งสมาธิ มาพร้อมกันสามองค์ ยังจำได้ไม่เคยลืม
///สถานที่บวช///
บวชที่วัดพระธาตุเสด็จ ต.เสด็จ อ. เมือง จ. ลำปาง โดยมีพระครูวิมลปัญญา เป็นพระอุปัชฌาย์ (มรณภาพแล้ว) พระครูคำอ้ายสุภทฺโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ พระอินสม จนฺทโชโต เป็นพระอณุสาวนาจารย์
วันที่บวชบวชในวันอาสาฬหบูชา เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๔ เวลา ๑๒.๐๔ น. อายุ ๓๖ ปี อยู่จำพรรษาที่วัดพระธาตุเสด็จ ๑ พรรษา
เมื่อออกพรรษาแล้วลาหลวงพ่อเจ้าอาวาส ออกศึกษาธรรมทางภาคเหนือ เช่น หลวงปู่สิมพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง หลวงปู่ครูบาธรรมไชย ครูบาไชยวงษา ที่อำเภอลี้ จ.ลำพูน แล้วลงภาคกลาง ศึกษากับหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
หลังจากนั้นเข้าศึกษาวิปัสสนาที่วัดมหาธาตุกับท่านเจ้าคุณลุง (พระธรรมธีรราชมหามุนี) พระอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ อยู่นานถึง ๘ เดือน แล้วลาท่านเข้าจำพรรษาที่เกาะสีชัง ๑ พรรษา อยู่องค์เดียวทางเชิงเขาด้านเกือบติดทะเล
เรียบเรียงโดย พายุ โพธิ์สม








ขอจองครับ



1029.พระชุดหลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ประกอบไปด้วย เหรียญรุ่นแรก ปี22 + พระชัยพรหมมุนี พุทธเมตตา ปี34 เนื้อนวโลหะ ก้นจาร เปิดบูชาคู่ 1900-
ตอนนี้วัตถุมงคลหลวงปู่กำลังเป็นที่นิยมมากนะครับ  ราคาขยับขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง เก็บได้เก็บอนาคตสดใสครับ ปิดท่านj999ครับ

พระชัยวัฒน์พรหมมุนี หล่อโบราณ รุ่นแรก ตอกโค๊ต ก้นจาร สร้างวัตถุมงคล ครั้งที่ 9 ของหลวงปู่วิเวียร

เป็นการจัดสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษ เพื่อฉลองอายุ ของท่านเจ้าประคุณพระพรหมมุนี พี่ชายของท่าน มีอายุ 72 ปี และหลวงปู่วิเวียร สิริอายุ 70 ปี

ได้มีการเททอง จัดพิธีแบบโบราณ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2534
ที่วัดดวงแข โดยหลวงพ่อพระพรหมมุนี และหลวงปู่วิเวียร เป็นประธาน ทั้งนี้หลวงปู่ท่านประกอบพิธีลงอักขระทั้ง 108 และ นะ 14 นะ ซึ่งเป็นตำราการหล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์

เหตุที่หลวงปู่วิเวียรจัดสร้างพระชัยวัฒน์พรหมมุนีนั้น นอกจากจะเป็นที่ระลึกถวายแก่พี่ของท่านแล้ว หลวงปู่ยังกล่าวว่าปรมาจารย์การสร้างพระกริ่ง คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ฯ ท่านเคยดำรงสมณศักดิ์ที่ "พระพรหมมุนี" มาก่อน

พระชัยวัฒน์พรหมมุนี หล่อโบราณ เนื้อเงิน สร้าง 599 องค์ เนื้อนวะโลหะ สร้าง 2534 องค์





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 15, 2019, 10:02:39 AM โดย thesun »



1030.พระชัยวัฒน์รุ่นแรก หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดใหม่เสนานิคม ลาดพร้าว กทม. ปี43 หลวงปู่เททอง ที่วัด มาพร้อมกล่องเดิม สร้างน้อย หายาก
ตั้งแต่ศึกษาสะสมมาพึ่งผ่านมือเป็นองค์ที่สองครับ
900-ปิดท่านj999 ครับ

พระชัยวัฒน์รุ่นแรกจัดสร้างพร้อมพระกริ่งปวเรศ และในพิธีนั้นมีพ่อแม่ครูอาจารย์มาร่วมพิธีมาก อาทิ หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่บุญหนา หลวงปู่พวง เป็นต้น โดยมีองค์หลวงปู่เป็นองค์เททอง
ทุกเบ้าใส่ทองคำ 2 บาท  มีคนมาถวายทองคำเพื่อมาร่วมหล่ออีกจำนวนมาก จำนวนจัดสร้างทั้งพระกริ่งปวเรศและพระชัยวัฒน์จำนวนไม่มากครับ ไม่ค่อยออกมาหมุนเวียนในสนามครับ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 15, 2019, 10:03:11 AM โดย thesun »



1031.สมเด็จโต หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง ปี05 หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ร่วมปลุกเสก
 มีในรายการประกวดสายตะวันออกเสมอๆครับ
เปิดคู่ 900- ของดีราคาเบาราคายังจับต้องได้ เก็บก่อนแพงครับ


 หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ร่วมปลุกเสก หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ปถม อาจสาคร เป็นผู้แนะนำ การตำ
คลุกเค้าผงและกดพิมพ์พระ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขายมวลสารส่วนผสม 1.ผงวิเศษเก่าของหลวงพ่อทาบ 2.สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ 3.ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ของอาจารย์ปถม อาจสาคร 4.ผงถ่านคัมภีร์ใบลานโบราณเก่าของหลวงพ่อทาบ 5.ผงวิเศษของหลวงพ่อบุญมี วัดโพธิสัมพันธ์ อ.ศรีราชา ชลบุรี 6.ผงดินมงคลของหลวงพ่อทาบ 7.ผงโยคีฮาเล็บ วัดสารนาถ อ.แกลง ปลุกเสกครั้งที่ 1 หลวงพ่อทาบปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาเต็ม ปลุกเสกครั้งที่ 2 รายนามพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ณ วัดกระบกขึ้นผึ้ง 1.หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รับนิมนต์เป็นประธานพิธี 2.หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก 3.หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง 4.หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก พระเกจิอาจารย์ได้เข้าสมาธินั่งปรกปลุกเสกตั้งแต่ 18.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ทิมอิสริโก รับนิมนต์มาปลุกเสกนอกวัดละหารไร่ และท่านได้นั่งปรกปลุกเสกรวดเดียว 8 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพักฉันน้ำชา (ปกติจะลั่นฆ้องทุก 2 ชั่วโมงเพื่อให้พระคุณเจ้าได้ถอนสมาธิพักผ่อนอิริยาบถและฉันน้ำชาประมาณ 30 นาที) ถ้าต้องการพกพาสีผึ้งติดตัว ให้ใช้พระคาถา อารธนาสีผึ้งเขียวติดตัว ดังนี้ ตั้งนะโม 3 จบ อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง #ประวัติ หลวงพ่อทาบ 2/4 แม้หลวงพ่อทาบหรือท่านพระครูอรรถโกศล จะสงเคราะห์ผู้เกิดทุกข์เกิดร้อนด้วยการลงนะหน้าทอง อาบน้ำมนต์ ตลอดจนแจกสีผึ้งเขียว ให้ผู้เดือดร้อนจนสัมฤทธิ์ผลตามความปรารถนาแล้ว วิชาของท่านกลับมาย้อนทำลายใจของท่านเองเข้าจนได้ กล่าวคือพระลูกวัดท่านรูปหนึ่ง ซึ่งบวชอยู่รับใช้ใกล้ชิดท่านมาหลายปีเกิดอยากสึกไปครองเรือน จึงมาอ้อนวอนขอสีผึ้งเขียวท่านโดยบอกกับท่านตรง ๆ ว่า ชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง หลวงพ่อทาบใจอ่อนเห็นใจในความรักของหนุ่มสาวซึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติหลวงพ่อทาบจึงให้สีผึ้งเขียวแก่ทิดสึกใหม่ผู้นั้นไปเพียงหนึ่งหัวไม้ขีด ทิดสึกใหม่คนนั้นก็เอาไปป้ายหญิงที่ตนรัก หญิงสาวก็หนีพ่อแม่ตามหนุ่มทิดสึกใหม่ผู้นั้นไปอย่างที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง แต่ทว่าหญิงสาวคนนั้นก็คือ หลานสาวแท้ ๆ ของท่านเอง!!! คุณลุงเจริญ เพชรนคร หลานแท้ ๆ ของหลวงพ่อทาบเล่าให้ผู้เขียนทราบถึงความเสียใจของท่าน โดยท่านพูดว่า “ นิ้วเราเองมาทิ่มตาเราเอง ต่อไปนี้จะไม่แจกสีผึ้งแก่คนในบ้านค่ายอีก ” แต่สำหรับคนที่มาจากแดนไกล หรือคนต่างถิ่น หลวงพ่อทาบท่านจะดูลักษณะความจำเป็น แล้วท่านจึงจะให้สีผึ้งเขียวไป แต่ก็ให้เพียงคนละนิดปริมาณเท่าหัวไม้ขีดไฟเท่านั้น ผู้ได้สีผึ้งจากหลวงพ่อทาบจึงมักจะนำสีผึ้งนั้นไปหุ้มทองห้อยคอ เพราะถือเป็นของหายาก และกว่าจะได้มาจากหลวงพ่อทาบก็แสนจะยาก สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบมีชื่อเสียงและนับเป็นเครื่องรางที่อยู่ในยุทธจักรนักนิยมพระเครื่องอย่างหนึ่งทีเดียว เมื่อหลวงพ่อทาบไม่ให้สีผึ้งแก่ใคร และแม้จะให้ก็มอบให้ปริมาณน้อยมากเพียงแค่หัวไม้ขีดไฟ ก็เลยเป็นสาเหตุให้ผู้คนมาแสวงหาสีผึ้งเขียวมากยิ่งขึ้น เพราะของใดๆ ก็ตาม ถ้าได้ยากผู้คนมักจะอยากได้ แต่สำหรับคนบ้านค่ายและคนระยองแล้วหมดโอกาส เพราะหลวงพ่อทาบจะไม่แจกคนในบ้านเดียวกันอีกแล้ว แต่ท่านบอกว่า ท่านจะทิ้งสีผึ้งให้เป็นสมบัติโลก ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันถ้าอยากได้ และยังไม่ลืมของ ๆ ท่าน กว่าจะเป็น “สีผึ้งเขียว” ลุงเจริญ เพชรนคร เล่าว่าตัวท่านเองนั้น หลวงพ่อทาบได้เมตตาเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุได้ ๖ขวบ มีนิวาสสถานอยู่ ซากกอไผ่ ซึ่งไม่ห่างไกลจากวัดกระบกขึ้นผึ้งมากนัก ลุงเจริญได้เรียนรู้วิชาต่าง ๆ ของหลวงพ่อทาบไว้มากมาย ตำราสำคัญบางเล่มของหลวงพ่อทาบก็ตกอยู่กับลุงเจริญ นอกจากจะเป็นศิษย์ผู้ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ ของหลวงพ่อทาบแล้ว ตัวท่านเป็นนักเขียนภาพและช่างแกะสลักที่มีฝีมืออีกด้วย ท่านเป็นผู้แกะแพะหลวงพ่ออ่ำวัดหนองกระบอกมาตั้งแต่ครั้งแรกๆ และเมื่อหลวงพ่ออ่ำมรณภาพลง หลวงพ่อลัดวัดหนองกระบอกได้รับสืบทอดวิชาต่อ ท่านได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อลัดให้เป็นผู้แกะแพะเขาควยถูกฟ้าผ่าอีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นผู้แกะพระปิดตาไม้รัก ของ หลวงพ่อทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ซึ่งเรียกว่า “พระปิดตารุ่นอธิบดี” ด้วย จากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสพบ ลุงเจริญ เพชรนคร โดยการแนะนำของพระครูนูญสาธุกิจ หรือพระอาจารย์เสียน เจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้งองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้พาไปพบลุงเจริญถึงบ้าน ลุงเจริญมีศักดิ์เป็นลุงของพระอาจารย์เสียน ลุงเจริญได้เล่าเรื่องราวของหลวงพ่อทาบให้ผู้เขียนทราบดังเรื่องราวที่ได้เขียนไว้ตั้งแต่ตอนต้น ๆ สำหรับเรื่องราวของสีผึ้งเขียวนั้นลุงเจริญเล่าว่า เมื่อหลวงพ่อทาบบวชได้ ๙ พรรษา ทราบว่า ครูภู่ คนอุบล ซึ่งมาได้เมียชื่อ นางเก๋า เป็นสาวงามชาวบ้านกอไผ่ เป็นผู้มีวิชาดี โดยเฉพาะเรื่องสีผึ้งนั้น นับว่าเป็นเอก มีผู้คนรู้กิตติศัพท์แล้วไปขอมาใช้ก็ได้ผลสมความปรารถนาทุกราย หลวงพ่อทาบหลังจากผิดหวังไม่ได้เรียนวิชาพัดโบกจากหลวงพ่อกาจ วัดหนองสนม จึงสนใจวิชาทำสีผึ้งของครูภู่ คนอุบล ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นพระหนุ่มเพิ่งย่างเข้าพรรษาที่ ๙ อายุประมาณ ๓๐ ปี ไปมาหาสู่บ้านครูภู่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อขอวิชาสีผึ้ง ครูภู่เห็นความเพียรและหน่วยก้านของหลวงพ่อทาบแล้ว ก็ยินดีจะมอบวิชาทำสีผึ้งนี้ให้ ซึ่งต่อมาก็มอบวิชานี้ให้อย่างหมดเปลือก ลุงเจริญเล่าว่า การทำสีผึ้งที่ครูภู่ คนอุบล มอบให้หลวงพ่อทาบนั้น แท้ที่จริงแล้วก็คือ วิชาลบผงปถมัง ผงอิทธิเจ และผงตรีนิสิงเห นั้นเอง แต่วัสดุที่จะนำมาผสมผงปั้นเป็นแท่งดินสอนั้น ค่อนข้างจะหายาก ซึ่งต้องใช้ความมานะ อดทน และมีความเพียรในการการแสวงหา ได้แก่ ว่านต่างๆ หลายสิบชนิดไม้มงคลอีกหลายชนิด ประการสำคัญต้องหา ไม้แยงแย้ และไม้ไก่กุกมากวนสีผึ้ง ไม้แยงแย้นั้นพอหากันได้ เพราะหลังจากแสวงหามาถึง ๔ ปี หลวงพ่อทาบก็ได้ไม้แยงแย้มาสมใจนึก ส่วนไม้หายากที่สุดคือ “ไม้ไก่กุก” ซึ่งต้องใช้ความสังเกตและมีมานะอดทน เพราะจะต้องเป็นไม้ไก่กุกที่ผู้ทำสีผึ้งต้องเห็นไม้ไก่กุกด้วยตาตนเอง ไม้ไก่กุกจะเป็นไม้อะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นไม้ที่ไก่ตัวผู้ใช้จะงอยปากจิก หรือเคาะดังกุ๊ก ๆ เพื่อหลอกให้ตัวเมียวิ่งมาหา โดยคิดว่าไก่ตัวผู้กำลังเรียกมาจิกอาหาร เมื่อไก่ตัวเมียวิ่งมาหาไม้ที่ไก่ตัวผู้เคาะกุ๊กๆ แล้วมองหาอาหารอยู่ ไก่ตัวผู้ได้โอกาสก็จะจิกคอและขึ้นทับทันที ไม้ชิ้นที่ไก่ตัวผู้ใช้จะงอยปากเคาะกุ๊ก ๆ นั้นแหละ คือ “ไม้ไก่กุก” ถือว่าเป็นไม้อาถรรพณ์ที่เป็นต้นเหตุให้ไก่ตัวเมียวิ่งตามมาให้ตัวผู้ทับเพื่อสืบพันธุ์ ท่านเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ถือเป็นเคล็ดว่าไม้ชิ้นนี้เป็นไม้ที่มีเสน่ห์อย่างสูง ที่ใช้ลวงให้ไก่ตัวเมียวิ่งมาหาได้ ต่างก็แสวงหาไว้เพื่อเอาไว้สร้างวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังเป็นเสน่ห์มหานิยม เมื่อได้ไม้ไก่กุกมาแล้ว หลวงพ่อทาบก็จะนำมาเอาว่านต่าง ๆ และไม้มงคล รวมทั้งไม้ไก่กุกด้วยมาบดป่นทำเป็นผงปั้นเป็นแท่งดินสอ หลังจากนั้นหลวงพ่อทาบจะเอาถาดทองเหลืองขนาดกลางมารอง มีกระดานชนวนวางอยู่บนถาดทองเหลือง หลวงพ่อทาบจะครองสีจีวรเรียบร้อย รำลึกถึงครูบาอาจารย์แล้วท่านก็จะลงผงอิทธิเจ ผงปถมัง และผงตรีนิสิงเห จากที่ได้เรียนมา ด้วยการใช้แท่งดินสอซึ่งสร้างจากว่าน และไม้มงคลต่าง ๆ ปั้นเป็นชอล์ก เมื่อเขียนบนกระดานชนวน ก็จะหลุดลอดแผ่นกระดานชนวนลงไปในถาดทองเหลือง ลุงเจริญเล่าว่า ท่านได้นั่งสังเกตเห็นหลวงพ่อทาบลงผงเต็มกระดาน แล้วเคาะให้ลอดกระดานลงไปอยู่ในถาดทองเหลือง เสร็จแล้วหลวงพ่อทาบก็จะรวบรวมผงนั้นใส่ขวด มีอยู่วันหนึ่ง ขณะหลวงพ่อทาบกำลังนั่งสมาธิลบผงอยู่นั้น ชอล์กที่ท่านเขียนเกิดหักดังเปาะขึ้น หลวงพ่อทาบสะดุ้งขึ้นตัว และเพ้อเสียสติทันที เป็นอยู่หลายวัน รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ลุงเจริญ เพชรนคร จึงไปตามครูภู่ที่บ้านซากกอไผ่มาดูอาการ และรักษา ครูภู่ ชาวอุบล เมื่อเห็นอาการหลวงพ่อทาบแล้วทำน้ำมนต์ให้หลวงพ่อทาบอาบ หลวงพ่อทาบอาบกินน้ำมนต์ของครูภู่อยู่ ๒-๓ ครั้ง อาการก็กลับปกติ สีผึ้งหลวงพ่อทาบ สร้างขึ้นตามตำราของครูภู่ ชาวอุบล นั้นแรก ๆ ก็เป็นสีผึ้งธรรมดา ไม่มีสีเขียว ต่อเมื่อหลวงพ่อทาบมีชื่อเสียงทางด้านสีผึ้งมากขึ้น ท่านจึงได้นำใบของว่านชนิดหนึ่งผสมลงไปด้วย สีผึ้งก็เลยมีสีเขียวจนภายหลังเรียกกันว่า “สีผึ้งเขียว” คุณลุงเจริญเล่าว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้น ท่านทำเสร็จแล้วจะใส่ไว้ในโถโบราณซึ่งมีฝาครอบ ปรากฏว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้นจะงอกหรือเพิ่มปริมาณได้ตามความแรงของกำลังวัน บางครั้งสีผึ้งจะฟูขึ้นจนติดฝาครอบโถเกาะกันเป็นวงคล้ายๆ กับดอกของใบพลู ซึ่งเป็นรูปคล้ายดอกใบพลูนี้แหละขลังนัก ศิษย์วัดกระบกขึ้นผึ้งเมื่อเปิดฝาโถเห็นเข้าก็จะเอาใบจาก ซึ่งใช้สำหรับมวนบุหรี่สูบมาม้วนเป็นกรวยตักไป ใช้ได้ผลชะงัดนัก รายไหนรายนั้น มักหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามคนป้ายไปและไม่เคยมีพลาดเลยสักรายเดียว ผมถามว่าต้องใช้ป้ายกี่ครั้งจึงจะสำเร็จ คุณลุงเจริญบอกว่าโดยมากมักครั้งเดียวก็สำเร็จ แต่ถ้าผู้หญิงบางคนดวงแข็งมีของดีคุ้ม หรืออำนาจดวงคุ้มครอง ก็ต้องใช้หลายหนหน่อย แต่สำเร็จทุกราย สีผึ้งของหลวงพ่อทาบนั้น มีเคล็ดวิธีการใช้ดุจเดียวกับหลวงปู่ทิม คือใช้ตามคำสั่งความสำคัญของนิ้วมือทั้ง ๕ นิ้ว นับแต่หัวแม่โป้งเรื่อยมา จนถึงนิ้วก้อยซึ่งเล็กที่สุด และวิธีจะใช้ป้ายผู้หญิงซึ่งหมายปองก็อย่าป้ายให้ต่ำกว่าบั้นเอวลงไป เวลาป้ายก็ให้ป้ายให้ถูกต้องเนื้อ อย่าให้ถูกผ้า เพราะจะได้ผลช้า ครั้งที่ผมไปวัดกระบกขึ้นผึ้งเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีมาแล้ว ก็ปรารถนาจะไปกราบนมัสการรูปเหมือนหลวงพ่อทาบ แต่ก็ได้ทราบจากท่านพระครูมนูญสาธุกิจหรือพระอาจารย์เสียน หลานแท้ๆ ของหลวงพ่อทาบว่าที่วัดไม่มีรูปเหมือนหลวงพ่อทาบ ผมจึงเรียนถามว่าทำไมท่านอาจารย์จึงไม่สร้างรูปเหมือนหลวงพ่อทาบขึ้นเพื่อให้คนทั่ว ๆ ไปที่นับถือท่านได้มากราบไหว้บูชา พระอาจารย์เสียนตอบว่า หลวงพ่อทาบท่านสั่งกำชับไว้ไม่ให้สร้างรูปหล่อของท่านขึ้นเด็ดขาด ท่านบอกว่าสร้างไว้ต่อไปก็ไม่มีคนรู้จัก เมื่อหมดยุคนี้ (คงหมายถึงยุคคนที่ทันท่าน) แล้วคนยุคต่อไปเขาก็ไม่รู้จัก อย่างไปสร้างไว้เลย แม้รูปหล่อเท่าองค์จริงก็ไม่ได้สร้างไว้ตามคำสั่งของหลวงพ่อทาบ แต่พระอาจารย์เสียนก็ได้สร้างรูปหล่อหลวงพ่อทาบ ขนาด ๕ นิ้ว จำนวนหนึ่งประมาณ ๔๐๐องค์ โดยขอให้หลวงปู่ทิมเป็นผู้ปลุกเสก ซึ่งหลวงปู่ทิมก็ทำให้ด้วยความเต็มใจเพราะหลวงพ่อทาบ และหลวงปู่ทิมนั้น ท่านเป็นเพื่อนรักกัน ทาบ-ทิม ทุกครั้งที่หลวงพ่อทาบสร้างพระเครื่องหรือเหรียญรูปท่าน หลวงพ่อทาบก็จะนิมนต์หลวงปู่ทิมมาช่วยเพิ่มพลังจิตปลุกเสกทุกครั้ง จนอาจารย์ปถม อดีตสหกรณ์ จ.ระยอง ถึงกับพูดว่า ถ้าพระเครื่อง หลวงพ่อทาบแล้ว ต้องถือว่าเป็นพระเครื่องหลวงปู่ทิม เพราะหลวงปู่ทิมมาปลุกเสกให้ ท่านอาจารย์ปถมได้พูดถึงสองพระอาจารย์ว่า ทาบทิม ทาบทิม หมายถึง ของของหลวงพ่อทาบก็คือของหลวงปู่ทิม ของหลวงปู่ทิม คือ ของหลวงพ่อทาบ อาจารย์ปถมคุ้นเคยกับหลวงพ่อทาบและหลวงปู่ทิม ตลอดจนพระเกจิอาจารย์ของบ้านค่ายเป็นอย่างมาก เพราะท่านอาจารย์ปถมสนใจในเรื่องราวเหล่านี้ และได้ไปรับราชาการที่ จ. ระยอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ อาจารย์ปถมเล่าถึงการทำวัตถุมงคลของหลวงพ่อทาบว่า นอกจากหลวงพ่อทาบจะเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงทางสีผึ้งเขียวดังกล่าวมาแล้ว ท่านยังมีความรู้ทางเครื่องรางอย่างอื่นเหมือนกัน ครั้งหนึ่งหลวงพ่อทาบได้เขี้ยวเสือมา ๙ เขี้ยว ท่านให้คุณลุงเจริญ เพชรนคร แกะเป็นเสือขึ้น ๙ ตัว ท่านให้เขี้ยวเสือตัวใหญ่ที่สุดเป็นจ่าฝูงแล้วภาวนาปลุกเสกเรียกรูปนาม ตั้งอาการ ๓๒ ภาวนา ปลุกเสกจนเสือทั้ง ๙ ตัว นั้น มีชีวิตชีวาขึ้น ท่านจึงปล่อยเข้าป่าหลังวัด มันก็วิ่งหลบเข้าป่าโดยมีจ่าฝูงนำหน้า หลังจากนั้นหลวงพ่อทาบก็ภาวนาเรียกเสือกลับ แต่ท่านเรียกว่าเท่าไรเจ้าเสียอาคมทั้ง ๙ ตัวก็ไม่กลับมา และหลังจากนั้นเป็นต้นมา หลวงพ่อทาบก็ไม่ดำริสร้างเขี้ยวเสือขึ้นมาอีกเลย ท่านพูดกับอาจารย์ปถมว่า “เราไม่มีวาสนาบารมีทางนี้” คงหมายถึง ท่านไม่ตบะเดชะมหาอำนาจนั่นเอง นอกจากสีผึ้งเขียว ซึ่งเป็นวัตถุมงคลอันมีชื่อเสียงของหลวงพ่อทาบจนติดอันดับสีผึ้งของสยามประเทศแล้ว หลวงพ่อทาบท่านยังได้สร้าง เหรียญรูปเหมือนขึ้น 2 รุ่น คือ รุ่นรูปไข่ และรุ่นดอกบัว นอกนั้นท่านก็ยังสร้างผ้ายันต์ไว้จำนวนหนึ่งคราวฝังลูกนิมิตผูกพัทธสีมา และก่อนจะมรณภาพไม่นาน ท่านได้สร้างพระเครื่องไว้อีกรุ่นหนึ่ง มีด้วยกันหลายพิมพ์ และได้นำเอาสีผึ้งผสมไว้ด้วย ทิ้งไว้เป็นสมบัติโลกให้แก่ผู้คนที่มีวาสนา ดังที่ท่านเคยลั่นวาจาไว้ “สมบัติโลก พระเครื่อง มรดกชิ้นสุดท้าย”













 

ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi