Catch Me If You Can เป็นภาพยนตร์อาชญากรรมเกี่ยวกับชีวประวัติอเมริกันที่กำกับและอำนวยการสร้างโดยสตีเวนสปีลเบิร์กจากบทภาพยนตร์ของเจฟฟ์นาธานสัน ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงโดย Leonardo DiCaprio และ Tom Hanks กับ Christopher Walken, Martin Sheen และ Nathalie Baye ในการสนับสนุนบทบาท ภาพยนตร์เรื่องนี้มีพื้นฐานมาจากชีวิตของแฟรงค์อบานาเลผู้ซึ่งก่อนวันเกิดปีที่ 19 ของเขาประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงมูลค่าหลายล้านดอลลาร์โดยวางตัวเป็นนักบินแพนอเมริกันเวิลด์แอร์เวย์สแพทย์ชาวจอร์เจียและอัยการเขตลุยเซียนา อาชญากรรมที่สำคัญที่สุดของเขาคือตรวจสอบการทุจริต เขากลายเป็นคนที่มีทักษะสูงจนในที่สุดเอฟบีไอก็หันมาหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนตรวจสอบคนอื่น การพัฒนาสำหรับภาพยนตร์เริ่มขึ้นในปี 1980 แต่ถูกลากไปจนถึงปี 1997 เมื่อ DreamWorks ของสปีลเบิร์กซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในหนังสือของ Abagnale ในปี 1980 ที่มีชื่อเดียวกัน David Fincher, Gore Verbinski, Lasse Hallstrm, Milo Forman และ Cameron Crowe ได้รับการพิจารณาให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนที่สปีลเบิร์กจะตัดสินใจกำกับตนเอง การถ่ายทำเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม 2545 ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2545 เพื่อความสำเร็จที่สำคัญและเชิงพาณิชย์ รางวัลออสการ์ครั้งที่ 75, Christopher Walken และ John Williams ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมและคะแนนดั้งเดิมยอดเยี่ยม  ตามลำดับในปี 1963 วัยรุ่น Frank Abagnale
   
   อาศัยอยู่ใน New Rochelle, New York กับพ่อของเขา Frank Abagnale, Sr. และ Paula แม่ชาวฝรั่งเศส เมื่อ Frank Sr. ประสบปัญหาด้านภาษีกับ IRS ครอบครัวของเขาถูกบังคับให้ย้ายจากบ้านหลังใหญ่ไปยังอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ พอลล่ามีความสัมพันธ์กับแจ็คบาร์นส์เพื่อนสามีของเธอ ในขณะเดียวกันแฟรงค์ต้องย้ายไปโรงเรียนและประสบปัญหาเมื่อเขาเริ่มวางตัวเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสแทนในวันแรกของเขาที่นั่น แฟรงค์วิ่งหนีไปเมื่อพ่อแม่หย่าร้าง ต้องการเงินเขาหันไปหลอกลวงความมั่นใจเพื่อความอยู่รอดและข้อเสียของเขาก็ยิ่งแกร่งขึ้น เขาปลอมตัวเป็นนักบินของสายการบินและปลอมแปลงเช็คเงินเดือนของ Pan Am ในไม่ช้าปลอมของเขามีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันตัวแทน FBI ของ Carl Hanratty ก็เริ่มติดตาม Frank คาร์ลพบกับแฟรงค์ที่โรงแรม แต่แฟรงค์คาร์ลมองว่าเขาเชื่อว่าเป็นหน่วยสืบราชการลับซึ่งเป็นตัวแทนของผู้หลอกลวงและหนีไปก่อนที่คาร์ลจะรู้ตัวว่าเขาถูกหลอก ในขณะเดียวกันข้อเสียของแฟรงค์รวมไปถึงการแอบอ้างเป็นหมอและทนายความ ในฐานะดร. แฟรงค์คอนเนอร์เขาตกหลุมรักเบรนด้าคนงานโรงพยาบาลที่ไร้เดียงสา เขาขอให้พ่อทนายความของเบรนด้าอนุญาตให้แต่งงานกับเธอและยังต้องการความช่วยเหลือจากเขาในการเตรียมการสอบบาร์รัฐลุยเซียนาซึ่งแฟรงค์ผ่านไป คาร์ลติดตามแฟรงค์ไปงานหมั้นของเบรนด้า แต่แฟรงค์หนีผ่านหน้าต่างห้องนอนไม่กี่นาทีก่อนที่คาร์ลจะไปถึงเขา ก่อนออกเดินทางแฟรงค์ขอให้เบรนด้าพบเขาที่สนามบินไมอามี่อีกสองวันต่อมา ที่สนามบินแฟรงค์เห็นเบรนด้า แต่ก็มีตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าธรรมดาทุกแห่ง


   โดยตระหนักว่าเบรนด้าทรยศเขาเขาจึงหนีไปเที่ยวยุโรป Carl ติดตาม Frank ใน Montrichard ประเทศฝรั่งเศสเมืองเล็ก ๆ ที่แม่ของ Frank มา คาร์ลจับกุมแฟรงค์และคืนเขาให้สหรัฐอเมริกาก่อนที่จะลงจอดคาร์ลแจ้งแฟรงค์ว่าพ่อของแฟรงค์เสียชีวิต ความเศร้าโศกเสียใจแฟรงค์หนีออกจากเครื่องบินและไปยังที่ที่แม่และพ่อเลี้ยงของเขาอาศัยอยู่ เมื่อตำรวจมาถึงแฟรงค์ก็ยอมแพ้ เขาถูกตัดสินจำคุก 12 ปีในคุกความปลอดภัยสูงสุด คาร์ลมาเยี่ยมเขาเป็นครั้งคราว ในระหว่างการเยี่ยมครั้งหนึ่งคาร์ลแสดงแฟรงค์เช็คจากกรณีที่เขาทำงานอยู่และแฟรงค์ระบุทันทีว่าพนักงานธนาคารที่เกี่ยวข้อง คาร์ลก็กล่อมให้เอฟบีไอยอมให้แฟรงค์ทำหน้าที่ส่วนที่เหลือของประโยคที่เขาทำงานให้กับหน่วยฉ้อโกงธนาคารเอฟบีไอ แต่แฟรงค์พบงานที่น่าเบื่อและคับแคบและคิดถึงชีวิตในอดีตของเขา หนึ่งสัปดาห์เขาพยายามบินในฐานะนักบินของสายการบินอีกครั้ง เขาถูกดักฟังโดยคาร์ลซึ่งต้องการให้แฟรงค์กลับไปที่เอฟบีไอในวันจันทร์และยืนยันกับแฟรงค์ว่าไม่มีใครไล่เขา ในวันจันทร์ถัดมาคาร์ลเริ่มรู้สึกกระวนกระวายเมื่อแฟรงค์ยังไม่มาถึงที่ทำงาน อย่างไรก็ตามในที่สุดแฟรงค์ก็ปรากฏตัวขึ้นและพวกเขาก็คุยกันเรื่องคดีต่อไป