พระโคศุภราชมิ่งมงคลงาแกะ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐมพระโคมีขนาดกว้าง ๑.๕ นิ้ว สูง ๑ นิ้ว และพิเศษ หลวงพ่อแช่มได้ลงอักขระให้ด้วยปฐมเหตุ การสร้างพระโคเมื่อหลายสิบปีก่อน ชาวบ้านดอนยายหอมต่างได้รับความเดือดร้อนจากโจรผู้ร้ายชุกชุมมาก ได้มาแอบลักขโมยฟ่อนข้าวที่กองอยู่ตามท้องนา ถึงกับต้องคอยออกไปนอนเฝ้าแทบทุกคืนก็ยังไม่วายโดนลักขโมย ทำความเดือดร้อนกันทั่วไปหมด ชาวบ้านที่เป็นชาวไร่ ชาวนาก็เลยเดินทางไปที่วัดดอนยายหอมเพื่อขอพึ่งบารมีของหลวงพ่อเงิน
การที่จะหวังพึ่งบ้านเมืองก็เป็นไปไม่ได้ เพราะการคมนาคมเมื่อก่อนโน้นไม่สะดวกสบายเหมือปัจจุบันนี้ ทางบ้านเมืองจึงดูแลได้ไม่ทั่วถึง ชาวบ้านต่างก็ได้เล่าถึงความเดือนร้อนที่พวกตนกำลังได้รับอยู่
หลวงพ่อเงินได้พูดกับชาวบ้านไปว่า ''เรื่องเช่นนี้ ไปหาคุณแช่มซิ ท่านช่วยได้ '' ชาวบ้านทั้งหมดจึงได้มุ่งเดินไปที่กุฏิของหลวงพ่อแช่ม แต่ต่างก็เกิดความลังเลใจสงสัยอยู่บ้างเหมือนกัน และคิดว่า ''ท่านแช่มจะช่วยอะไรพวกเราได้'' หลวงพ่อแช่มนั้นท่านได้ทราบความประสงค์ของชาวบ้านได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เมื่อชาวบ้านมาที่กุฏิของท่านกันมากมายอย่างนี้
ท่านได้สอบถามไปตามธรรมเนียมและได้พูดในตอนท้ายว่า ''เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลหรอกนะ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ แต่ว่าขอให้ผู้ที่มีข้าวอยู่ในกลางท้องนา เอาดินเหนียวปั้นเป็นรูปวัว ตัวไม่ต้องใหญ่มากรักหรอกเอามาให้ในเย็นวันนี้ จะเสกวัวให้ไปเฝ้ากองข้าวแทน''
พอตอนเย็นชาวบ้านต้องก็นำเอาหุ่นวัวซึ่งปั้นขึ้นด้วยดินเหนียวมามอบให้หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อท่านสั่งไปว่า ''พรุ่งนี้มาเอาไปนะ'' คืนนั้นแทบทั้งคืนหลวงพ่อได้ใช้เวลาอันสงบสงัดของยามราตรีทำพิธีด้วยสายสิญจน์โยงไปที่หุ่นวัวทุกตัวแล้วนั่งปริกรรมปลุกเสก วัวพยนต์ จนกระทั่งเห็นว่าวัวพยนต์ที่ปลุกเสกใช้ได้ดีแล้ว จึงได้หยุด
รุ่งขึ้นชาวบ้านก็มาขอรับวัวพยนต์ที่หลวงพ่อปลุกเสกให้ หลวงพ่อได้สั่งกำชับไปว่า ''เย็นนี้ให้เอาวัวนี้ไปไว้ที่กองข้าวแต่ละกองแล้วตอนกลางคืนไม่ต้องออกไปนอนเฝ้า เพราะวัวพยนต์จะทำการเฝ้าแทนเอง'' ชาวบ้านได้ทำตามที่หลวงพ่อสั่งมาทุกประการ แต่ด้วยความสงสัยไม่แน่ใจ พอตอนดึกจึงได้ออกไปดักดู ปรากฏว่าในขณะที่ซุ่มดูอยู่ ได้แลเห็นเงาตะคุ่มๆประมาณ ๔-๕ คนเดินมาที่กองข้าว
แต่พอมาถึงกองข้าวและทำท่าจะแบกฟ่อนข้าว ทุกคนที่ได้แอบอยู่ก็ต้องตกตะลึงเพราะได้ทองเห็นวัวตัวใหญ่สีดำ โผล่ออกมาจากหลังกองข้าวนั้นเอง วิ่งไล่ขวิดพวกที่มาลักขโมยฟ่อนข้าว ต่างเอะอะวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง สร้างความมหัศจรรย์แก่ผู้ที่แอบดูเป็นอย่างมาก พอตอนเช้าข่าวว่าวัวเสกของหลวงพ่อแช่มไล่ขวิดขโมยก็กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่าไฟลามทุ่งเมื่อเสร็จจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ชาวบ้านก็ได้นำเอาวัวพยนต์มาบูชาที่บ้านอีก
ก็บันดาลให้เจ้าของบ้านเกิดโชคลาภ เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในครอบครัว..... แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า วัวพยนต์ที่สร้างจากดินเหนียวนั้นไม่คงทนถาวร มักแตก เสียหายง่าย จึงมีการสร้างใหม่ด้วยวัสดุที่ไม่แตกหักง่าย ในครั้งต่อ ๆ มา มีทั้งขนาดบูชา และติดตัว เช่นโลหะต่าง ๆ งาแกะเป็นต้น
หลวงพ่อได้ให้นามใหม่ว่า
"พระโคศุภราชมิ่งมงคล" หลวงพ่อได้อธิษฐานจิต เพื่อความเป็นมิ่งมงคลแก่ผู้ที่บูชา ขอให้พระโคได้คุ้มครองปกปักรักษาทรัพย์สมบัติของผู้บูชาพร้อมทั้งยังให้บังเกิดโชคลาภ เพิ่มพูนทรัพย์สิน ทำมาค้าขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ถ้าท่านใดบูชาเป็นประจำทุกวันจะเป็นการเสริมดวงชะตาของท่านให้ดีขึ้น ท่านที่ดวงชะตาดีอยู่แล้วก็จะเสริมให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก
โดยจัดน้ำใส่ถ้วยพร้อมทั้งหญ้าวางบูชาด้วยพระคาถานี้ว่า
''ตะมัตตะถัง ปะกาเสนโต พระโคศุภราชมิ่งมงคล ประดุจดั่งพญาราชสีโห วิฉิมหิโก สัตถา อาหัง''
และมีอีกคาถาว่า คาถาสำหรับโคศุภราชมิ่งมงคลมีดังนี้
......นะ...ข้านอนเจ้าจงนั่ง...นะ...ข้าสั่งเจ้าอย่าลืม......นะ...ข้าหลับเจ้าจงตื่น...นะ...อย่าลืมที่ข้าสั่ง...นะโมพุทธายะ...