แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - zต้องตาz

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 13
16




เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่แสง จนฺดโชโต(ญาณวโร) วัดป่าอรัญญวิเวก บ้านไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทศก์ เทสรังสี,หลวงปู่ขาว อนาลโย,หลวงปู่บัว สิริปุณโณ


ธรรมโอวาท

"..... รู้และหลงเกิดจากหัวใจ ฉลาดหรือโง่เกิดจากหัวใจ ละเอียดหรือปราณีตเกิดจากหัวใจ ลุ่มหลงโง่เขลาเบาปัญญาเกิดจากหัวใจ

        จะล้างม่องใด กะล้างลงตรงหัวใจแก้ไขอยู่นี้บ่ต้องแก้ไขหลาย จับบ่ถูกมันกะดิ้น จับถูกมันบ่ดิ้นกำคอมันโลด ....."


                                     หลวงปู่แสง จนฺดโชโต(ญาณวโร)

ธรรมพินิจ

"..... อยากพ้นทุกข์ให้ดูที่ จิตใจ ตัวเอง มรรคผล อยู่ตรงนี้ ....."



17




เหรียญรุ่นสามสิบ(หลังพระอาจารย์สวน) หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิจ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นเณรอุปัฏฐากพระอาจารย์มั่น ในยุคหนองผือ


หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เล่าเรื่องเจโตปริยญาณ ของพระอาจารย์มั่น ไว้ดังนี้

"... คืนวันหนึ่งในขณะที่ท่านได้มีโอกาสเข้าไปอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นที่กุฏิ ท่านทำการบีบนวดเส้นถวายหลวงปู่เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ก็เกิดความคิดในใจขึ้นมาว่า "..เราได้ประกอบความเพียรติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา ๒ วัน ๒ คืนแล้วยังไม่ได้พักเลย วันพรุ่งนี้ก็จะต้องออกเดินทางไปธุระที่สกลนคร เพื่อบอกลาคุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ ในฐานะที่เป็นโยมอุปัฏฐาก ได้จัดบริขารถวายในคราวอุปสมบท จากนั้นก็จะไปกราบลาหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เพื่อจะเดินทางไปจำพรรษาที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย .." เมื่อคิดแล้วก็เกิดความอยากจะไปพักผ่อนเพื่อบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยและเก็บกำลังไว้ใช้ในการเดินทาง ตามประสาพระบวชใหม่

ในขณะที่หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย กำลังกังวลอยู่กับความคิด เพียงคิดจบลง หลวงปู่มั่นก็ได้ปรารภขึ้นมาโดยทันทีว่า


"... จะไปพักก็ไปได้นะ  สังขารร่างกายอย่าไปหักโหมมันมากนัก  พรุ่งนี้เราก็จะออกเดินทางไกล เราก็ไม่ได้พักมาสองวันสองคืนแล้ว ..."

     คำพูดของหลวงปู่มั่น ได้ไปตรงกับความคิดของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ที่คิดอยู่พอดี จึงทำให้นึกสะกิดใจขึ้นมาทันทีว่า "..หลวงปู่มั่นพูดขึ้นมาลอย ๆ หรือว่าท่านจะรู้วาระจิตของเราตามที่เราเคยได้ยินมากันแน่.." และแล้วก็วิจัยวิจารณ์รำพึงอยู่ในใจคนเดียวได้ขณะหนึ่งผ่านไป จิตก็ได้หวนนึกถึงเรื่องที่จะไปพักขึ้นมาอีก หลวงปู่มั่นก็ได้พูดขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งก็ตรงกับความคิดในขณะนั้นอีก จึงทำให้หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย แน่ใจว่า หลวงปู่มั่นล่วงรู้วาระจิตของเราจริงๆ ทำให้เกิดความอิ่มเอิบปลื้มปีติ มีความซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย หายเหน็ดเหนื่อยหายอ่อนเพลีย ความง่วงเหงาหาวนอนหายไปจนหมดสิ้น เนื่องจากเกิดความมหัศจรรย์ในเจโตปริยญาณ ญาณที่ล่วงรู้ความคิดของบุคคลอื่นของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงได้ตั้งหน้าตั้งตาบีบนวดถวายหลวงปู่มั่นต่อไปอย่างนอบน้อมด้วยความเคารพอย่างสูงสุด พลางก็คิดว่า".. เราจะต้องเอาวิชชาอันประเสริฐนี้ให้ได้ และได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวถ้าไม่ได้ไม่ยอม หลวงปู่มั่นท่านก็มีร่างกายสังขารเป็นมนุษย์เหมือนกันกับเรานี่เอง เราก็เป็นมนุษย์เหมือนกันกับท่าน ท่านทำได้เราจะทำไม่ได้อย่างท่านก็ลองดู คิดว่าคงจะไม่เหลือวิสัย .."

เพียงแค่ความคิดจบลง หลวงปู่มั่นท่านก็พูดสวนความคิดนั้นขึ้นมาในทันทีทันใด ว่า

"... จะเอาวิชชานี้จริง ๆ หรือ! ..."

     เมื่อหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้ฟังคำพูดของหลวงปู่มั่นเพียงเท่านั้น ความปลื้มปีติ ความอิ่มเอิบและความมีพลังใจก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะความมหัศจรรย์ในความสามารถของหลวงปู่มั่นที่ท่านได้บำเพ็ญจนบรรลุวิชชาขั้นนี้ จนดำริรู้ภายในใจของผู้อื่นได้ เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และอภิญญาสมาบัติหรือวิชชาในทางพระพุทธศาสนา เช่น เจโตปริยญาณ การกำหนดรู้วาระจิตของคนอื่นที่ท่านได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ แต่ก่อนเราเข้าใจว่าเป็นเพียงนวนิยาย บัดนี้กลายเป็นความจริงเสียแล้ว เราได้มีโอกาสเห็นหลวงปู่มั่นซึ่งเป็นสาวกสุดท้ายภายหลัง ยังมีความมหัศจรรย์ถึงปานนี้ ถ้าได้เห็นพระพุทธเจ้าหรือได้เห็นพระอริยสงฆ์สาวกในครั้งพุทธกาลแล้ว จะมีความมหัศจรรย์สักเพียงไร ..."

                                                                 หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย

โอวาทธรรม

"..... การละความชั่วอย่างเดียวยังไม่พอ แต่ต้องรู้จักบำเพ็ยบุญกุศลด้วย

      บำเพ็ญบุญกุศลอย่างเดียวยังไม่พอ  ต้องรู้จักชำระจิตใจของตนเองให้สะอาดหมดจด

                       สามอย่างนี้ให้ยึดเป็นหลักดำเนินชีวิต ....."


                                                                 หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย

ธรรมพินิจ

"..... ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา คือหลักในการดำเนินชีวิต ....."

18




เหรียญรุ่นสอง หลวงปู่ผ่าน ปญฺญาปทีโป วัดป่าปทีปปุญญาราม บ้านเซือม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านทันได้รับการอบรมจากพระอาจารย์มั่น และเป็นศิษย์ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ,หลวงปู่ฝัน อาจาโร,หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม


วันคืนแห่งมรรคผลของหลวงปู่ผ่าน ว่าด้วย ได้ดวงตาเห็นธรรม

"... วันหนึ่ง ในปี พ.ศ.๒๕๒๘ ท่านไป กราบขอฟังธรรมเทศนากับหลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่ภูทอก หลังจากถามไถ่กันพอได้ความแล้ว
หลวงปู่ผ่านได้กราบเรียนหลวงปู่หลุยว่า  “ครับกระผมยังอยู่ กระผมก็เคยพบท่านอาจารย์ แต่คนมากจึงไม่ได้เข้าไปหา กระผมอยากฟังเทศน์ ขอให้ท่านเทศน์ให้ฟัง”


หลวงปู่หลุยท่านจึงเทศน์ให้ฟัง เรื่อง “ภาวิโต พหุลีกโต” เหมือนที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยเทศน์

      พอลงจากภูทอก หลวงปู่มานั่งภาวนาอยู่ข้างล่าง พอจิตรวมลง ปรากฏเห็นต้นไม้ที่ภูทอกนั้นตายหมด ท่านว่า ทำไมเป็นอย่างนี้หนอ? ท่านนั่งอยู่นานจนใกล้ค่ำจึงกลับวัด มาถึงวัด มองต้นไม้ในวัดก็เหมือนต้นไม้นั้นตายหมด จึงไปภาวนาดูว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เมื่อจิตเป็นสมาธิ จึงรู้ขึ้นมาว่า


“โลกนี้แผ่นดินนี้มีมาอยู่ก่อนแล้ว แต่ใครมาเกิด อยู่ที่ไหนก็มายึดถือเอาว่าเป็นของเรา ไร่เรา นาเรา ยื้อแย่งกันอยู่อย่างนั้นสัตว์ทั้งหลายในโลกจึงออกจากวัฏสงสารไม่ได้ เราไม่เอาหรอก เราไม่อยู่แล้ว” จิตถามว่า “แล้วจะไปอยู่ไหน”

ตอบว่า “ไปอยู่พระนิพพาน อยู่ที่นี่บาปนะ เราบวชอยู่นี่กินข้าวของชาวบ้านมันบาปนะ พระพุทธเจ้าท่านว่า บุคคลใดบวชแล้วไม่ได้บรรลคุณธรรม กินข้าวของชาวบ้านนั้นกินเหล็กแดงดีกว่า”

จากนั้นก็ภาวนาเพ่งดูแต่กระดูกนั้น เกิดเสียงขึ้นมาทางหูว่า“ให้ถึงสุตธรรม” ท่านจึงพิจารณาดู ได้ความว่า สุตธรรมคือ ผู้สดับธรรมครั้งแรก รู้ขึ้นมาในจิตเรื่อง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ทุกข์ คือ ชาติ-ความเกิดเป็นทุกข์ ชรา-ความแก่เป็นทุกข์ มรณะ-ความตายเป็นทุกข์

สมุทัย คือ ตัวสมมติ มนุษย์ทั้งหลายคิดว่า ร่างกายนี้เป็นของเรา แข้งเรา ขาเรา ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของตนเอง ยึดมั่นถือมั่นใน รูป รส เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ ว่าเป็นตัวเราของเรา

นิโรธ คือ ความรู้แจ้ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วจึงชื่อว่าถึงสุตธรรมเหมือนพระอัญญาโกณฑัญญะ ฟังเทศนาครั้งแรกของพระพุทธเจ้า พิจารณาเห็นความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปจึงได้ดวงตาเห็นธรรมเป็น พระโสดาบัน ..."


                                   หลวงปู่ผ่าน ปญฺญาปทีโป

ธรรมโอวาท

"..... ทำอย่างไรจิตใจถึงจะไม่หลงระเริงในรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัส ก็ต้องมาพิจารณาให้เห็นว่าร่างกายมันเป็นอย่างไร ลอง

        พิจารณาให้ดี ทำให้มาก ทำให้คล่อง เมื่อถึงขั้นที่เรียกว่า ปล่อยวางในร่างกายได้ นั่นแหละจึงจะเรียกว่า ผู้เห็นธรรม ....."


                                   หลวงปู่ผ่าน ปญฺญาปทีโป

ธรรมพินิจ

"..... ให้พิจารณา ร่างกายนี้ ให้ จิต คลายความยึดมั่นถือมั่นในกายนี้ นี้หละทาง มรรคผล ....."

19




เหรียญรุ่นหกสิบแปด พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม(ถ้ำพวง) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง


พระอาจารย์วัน เล่าถึงการทำหน้าที่อุปัฏฐากพระอาจารย์มั่น ไว้ดังนี้

"... ผู้อุปัฏฐากจะต้องเป็นผู้มีจิตใจหนักแน่นต่อการอุปัฏฐาก ต้องพยายามหาช่องทางทำให้ได้เสมอ เมื่อถูกท่านห้ามเข้าแล้ว จะหยุดไปเสียเลยก็ใช้ไม่ได้ เพราะท่านต้องการฝึกให้ผู้อยู่ด้วยนั้น ให้เป็นคนดี มีสติปัญญาและมีความสามารถอาจหาญ ข้อสำคัญคือท่านไม่ให้ประมาท ท่านเคยให้คติไว้ว่า "ศิษย์สมภารหลานเจ้าวัด ยอมมักทะนงตน ดื้อด้าน"

     ความจริงก็เป็นเช่นนั้นส่วนมาก ผู้ที่เป็นศิษย์พระเถระผู้ใหญ่นั้น ถ้าอยู่นานๆไปชักจะลืมตน ถือว่าตนได้อยู่กับครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่แล้วก็เย่อยิ่งทะนงตน จะไม่เกรงกลัวต่อใครๆทั้งนั้น ถึงท่านผู้อื่นจะเป็นผู้ใหญ่ขนาดปูนอุปัชฌาอาจารย์ก็ตาม ย่อมมองเห็นผู้อื่นนั้นต่ำต่อยลงไปทั้งสิ้น ความดีก็ไม่เท่าตน ความฉลาดก็ไม่เท่าตน อะไรๆก็ไม่เท่าตนทั้งนั้น ไม่กลัวเกรงต่อใคร ไม่อยากเคารพนับถือใคร นอกจากผู้ที่ตนอาศัยอยู่เท่านั้น และชอบใช้อำนาจข่ม ขู่เข็ญท่านผู้อื่นด้วยอำนาจกาฝากของตน ในที่สุดก็หมดความเคารพนับถือเชื่อฟังต่อครูบาอาจารย์ที่ตนอาศัยอยู่ด้วยนั้นอีก แทนที่จะเป็นบัณทิตกลับเป็นคนพาลไป ..."


                                                   พระอาจารย์วัน อุตฺตโม

ธรรมโอวาท

"..... ร่างกายของเรานี้แหละ คือแหล่งรวมทุกข์ก้อนใหญ่ทีเดียว ถ้าหลงมากก็ทุกข์มาก ถ้าหลงน้อยก็ทุกข์น้อย เมื่อถึงวันนึง เราก็ต้องจากกายนี้

       คงเหลือแต่ดวงจิตที่ยังคงผูกอยู่กับกิเลสเผาผลาญ ต้องพิจารณาให้มาก ให้เห็นว่ามันเป็นของไม่สวยงาม เป็นของน่ารังเกียจ ถ้าพิจารณาได้อย่างนี้มันก็จะค่อยๆ คลายความหลงงมงายลงไปเอง ....."


                                                   พระอาจารย์วัน อุตฺตโม

ธรรมพินิจ

"..... สังขารร่างกายนี้ คือ กองทุกข์ พิจารนาให้เห็นชัดจนถึงจิต แล้วจิตมันจะหมุน ออกจากกองทุกข์นี้เอง ....."

20






รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่ครูบาอินทจักรรักษา(อินถา อินฺทจกฺโก) วัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์พระกรรมฐานสายล้านนา ขนานแท้ องค์ท่านนับเป็นผู้ริเริ่มฟื้นฟูการปฏิบัติธุดงค์กรรมฐาน ตลอดจนการมีข้อวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด ของล้านนา


ครูบาอินทจักรรักษา ได้เห็นสัจธรรมความเป็นจริงของชีวิตโดยพิจารณาว่า

“... เออ เราเป็นคนหลงรักตัวตนมาตั้งหลายสิบปี หลงอยู่สารพัดแท้ จริงมันก็เป็นสิ่งน่ากลัวทั้งสิ้น ...”

                                  หลวงปู่ครูบาอินทจักรรักษา(อินถา อินฺทจกฺโก)

ธรรมโอวาท

 “.....เออ เราเป็นคนหลงรักตัวตนมาตั้งหลายสิบปี หลงอยู่สารพัดแท้ จริงมันก็เป็นสิ่งน่ากลัวทั้งสิ้น.....”


                                  หลวงปู่ครูบาอินทจักรรักษา(อินถา อินฺทจกฺโก)

ธรรมพินิจ

"..... ผู้ที่รู้เห็นทุกข์ภัยใน สังขาร จึงใด้เชื่อว่าเป็นผู้เดินตามทางแห่ง มรรคผล ....."

21




เหรียญรุ่นผูกพัทธสีมา ปีพ.ศ.๒๕๑๔ หลวงพ่อพุทธมงคล วัดพุทธมงคลนิมิตร อ.เมือง จ.นครสวรรค์

เหรียญนี้จัดสร้างโดยอดีตเจ้าอาวาสวัดพุทธมงคลฯ ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติวัดแรกของจังหวัด โดยมีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี และครูบาอาจารย์สายพระอาจารย์มั่น อีกหลายรูปอธิษฐานจิตให้


พระอาจารย์มั่น เมตตาแก้ปัญหาธรรมของหลวงปู่เทสก์ ไว้ดังนี้

"... ถ้าองค์ไหนดำเนินตามรอยของผมจนชำนิชำนาญมั่นคง องค์นั้นยอมเจริญก้าวหน้า อย่างน้อยก็คงตัวได้ตลอดรอดฝั่ง ถ้าองค์ไหนไม่ดำเนินตามรอยผม องค์นั้นยอมอยู่ไม่ทนทาน ต้องเสื่อมหรือสึกไป ผมเองหากมีภาระมากยุ่งกับหมู่คณะ การประกอบความเพียรไม่สม่ำเสมอ เพ่งพิจารณาในกายคตาไม่ละเอียด จิตใจก็ไม่ค่อยปลอดโปร่ง

     การพิจารณาไม่ให้จิตหนีออกนอกกาย อันนี้จะชัดเจนแจ่มแจ้งหรือไม่ก็อย่าได้ท่อถอยเพ่งพิจารณาอยู่ ณ ที่นี่ละ จะพิจารณาให้เป็นอสุภะหรือให้เป็นธาตุก็ได้ หรือจะพิจารณาให้เป็นขันธ์หรือให้เป็นไตรลักษณ์ได้ทั้งนั้น แต่ให้พิจารณาเพ่งลงมาเฉพาะในเรื่องนั้นจริงๆ ตลอดอิริยาบถทั้งสี่แล้วก็มิใช้ว่าเห็นแล้วก็จะหยุดเสียเมื่อไร จะเห็นชัดหรือไม่ชัดก็ให้พิจารณาอยู่อย่างนั้นแหละ เมื่อพิจารณาอันใดชัดเจน แจ่มแจ้งด้วยใจตนเองแล้ว สิ่งอื่นนอกนี้จะมาปรากฏชัดในที่เดียวกันดอก ..."


                                 พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

ธรรมโอวาท

"..... ถ้าจะแก้กรรมเวรให้ถูกจุดตรงๆ แล้ว ต้องทำสมาธิ เพราะการทำสมาธิ เป็นการฝึกหัดจิตโดยตรง คือตัวผู้ก่อกรรมทำเวรนั่นเอง เมื่อจิตเห็นความส่งส่ายเป็นตัวกรรมเวรแล้ว

        ก็จะได้ตั้งสติควบคุมจิตให้อยู่ในความสงบ มีสติรู้อยู่อย่างเดียว ไม่ส่งส่ายออกไปแสวงหากรรมเวร แล้วกรรมเวรของจิตก็จะสิ้นสุดลงเพียงแค่นี้ ....."


                                 หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ธรรมพินิจ

"..... แก้กรรม ต้องแก้ที่จิต หยุดที่จิต ดับที่จิต ....."

22




เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพุทธมงคล วัดพุทธมงคลนิมิตร อ.เมือง จ.นครสวรรค์

เหรียญนี้จัดสร้างโดยอดีตเจ้าอาวาสวัดพุทธมงคลฯ ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติวัดแรกของจังหวัด โดยมีหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และครูบาอาจารย์สายพระอาจารย์มั่น อีกหลายรูปอธิษฐานจิตให้


พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต กล่าวชมหลวงปู่ฝั้น เมื่อครั้งใด้ดาวตาเห็นธรรม ไว้ดังนี้

"...ท่านฝั้น ครั้งก่อนได้ยินเสือร้องจิตใจถึงสงบ มาครั้งนี้ได้หมาแทะกระดูกเป็นอาจารย์เข้าอีกแล้ว จึงมีสติรอบรู้ในอรรถในธรรม ท่านฝั้นถือเอาหมาแทะกระดอกเป็นอุบายอันแยบคาย สำหรับเปลียนจิตใจให้สงบจนสามารถทำให้เห็นแจ้งในธรรมนั้นได้ถูกต้อง ชื่อว่าเป็นศิษย์พระพุทธองค์โดยแท้ การเห็นอะไรแล้วน้อมนำเข้ามาพิจารณาภายในจิตเช่นนี้เป็นการกระทำที่ชอบแล้ว ..."

                             พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

ธรรมโอวาท

"..... พุทธะ คือ ผู้รู้ จิตมันไม่อยู่ ก็ไม่รู้ สิ่งใดเกิดขึ้น ให้รู้ให้หมด

       เมื่อเรารู้แล้ว เราก็ไม่ยึดสิ่งเหล่านั้น ความชั่วทั้งหลาย ทุกข์ทั้งหลาย ก็ไม่ยึด

       มันก็วางหมด ว่างหมดใจเรา มันก็ปล่อย มันละหมด เรียกว่า ปล่อยวาง ....."


                             หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

ธรรมพินิจ

"..... พุทธะ คือ ผู้รู้ รู้ที่จิตที่ใจของตัวเองนี้ ....."

23




เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่มหาเขียน ฐิตสีโล วัดรังสีปาลิวัน บ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง


ธรรมะปาฏิหาริย์ ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่เมตตาต่อองค์หลวงปู่มหาเขียน

     หลวงปู่มหาเขียน เมื่อครั้งได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่น กัณฑ์แรกเรื่อง “โทษของการเกิด” และกัณฑ์ที่สองเรื่อง “มุตโตทัย” (ธรรมะเป็นเครื่องพ้น) หลวงปู่เขียนถึงกับลุกจากที่นั่งไปกราบพระอาจารย์มั่น พร้อมกล่าวคำปฏิญาณตนอย่างเด็ดเดี่ยวต่อหน้าพระอาจารย์มั่นเป็นภาษาบาลีว่า


“... สา สเน อุรํ ทตฺวา ขอมอบกายถวายชีวิตทั้งหมดนี้แก่พระพุทธศาสนา ชีวิตทั้งชีวิตนี้ขอมอบไว้ในพระศาสนา ขอให้ท่านพระอาจารย์โปรดเป็นสักขีพยานด้วยเถิด ...”

     จากนั้นตราบ จนสิ้นอายุขัย หลวงปู่เขียนได้กระทำสัจจวาจานั้นให้เป็นที่ปรากฏแก่ชนทั้งหลาย ถึงความเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส ผู้บริสุทธิ์หมดจดงดงามในธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

หลวงปู่มหาเขียน เล่าถึงเมือครั้งออกการปฏิบัติอยู่กับพระอาจารย์มั่น ดังนี้

"... ขณะพักอยู่กับพระอาจารย์มั่นนั้น จะต้องระมัดระวังความคิดอย่างหนัก พยายามรักษาจิตใจตนไม่ให้วอกแวกไปทางอื่น เพราะเกรงกลัวว่าท่านพระอาจารย์มั่นจะทักว่าคิดไปในทางไม่ดี เนื่องจากชื่อเสียงกิตติศัพท์ของท่นพระอาจารยืมั่น ในทางว่ากล่าวตักเตื่อนศิษย์ยานุศิษย์นั้น ใครๆก็ขยาดหวาดกลัวกันทั้งนั้นซึ่งตามธรรมดาความคิดของปุตุชนก็มีดีบ้างไม่ดีบ้าง ขณะอยู่กับพระอาจารย์มั่นนั้น เสมือนหนึ่งกิเลสมันหมดไปไม่มีเหลืออยู่เลย มันยอมหมอบลาบคาบแก้ว หมดทิฐฏฐิมานะ การถือตัวปรากฏว่าไม่มีเลย เพราะมันกลัวท่านพระอาจารย์มั่น ..."

                             หลวงปู่มหาเขียน ฐิตสีโล


ธรรมโอวาท

"..... ทุลุลภขณสมฺปติติ สมณะศักดิ์ตำแหน่ง ห้ามอบายภูมิไม่ได้

       แต่คุณงามความดี ศีล สมาธิ ปัญญาเท่านั้น ที่จะห้ามอบายภูมิได้ ....."


                             หลวงปู่มหาเขียน ฐิตสีโล

ธรรมพินิจ

"..... ทำความดี ศีล สมาธิ ปัญญา คือทางที่จะนำเราพ้น อบายภูมิ ....."


24




เหรียญรุ่นแรก พระครูสิริสารธรรม(สมจิตร ปฏิมิตฺโต)หลวงพ่อโคกสี วัดศิริธรรมิกาวาส อ.เมือง จ.ขอนแก่น

พระสุปฏิบันโนผู้ปรารถนาพระโพธิญาณแห่งโคกสี ศิษย์ของหลวงปู่เหล่า ปญฺญาธโร วัดบ้านโคกสี


ผญาบูชาพระคุณหลวงพ่อพระครูสิริสาราธรรม

"... ออนซอนเด้ ออนซอนโพธิ์ไทรกว้าง ใบกระดกนกกระแจ้ง สานุศิษย์จากทั่วแดน พากันแหนแห่ล้น อาศัยซ่นเผิ่งบุญ ย้อนพระคุณแผ่ตุ้ม ให่อยู่ซุ่มกินเย็น ไผฮ้อนมายามเห็นโห่นสบายหายฮ้อน ออนซอนบารมีกว้าง สารธรรมผายแผ่ ตั้งแต่พ่อและแม ฮอดลูกหลานน้อยๆ กะพอยได้เพิ่งพา มหาจุฬาได้ก่อตั้ง อยู่วัดป่าเจริญงาม ย้อนว่าความเมตตาซักซ่อยจูงพยุงตุ้ม

     บารมีพระครูสิริสารธรรม นำฮุ่มหอมฮักฮ่อ จึงได้สร้างได้ก่อ ได้เจริญก้าวหน้า วันนี้แม่นบ่ลืม ไผเคยได้กราบกล้ม ล้วนแต่กล่าวความขลัง ทั้งน้ำมนต์ฝ่ายผูกแขน นี่แม่นบารมีล้ำ อีกคำสอนคำต้าน ขานไขให่คิดฮ่ำ ล้วนแต่รสพระธรรม นำไปเฮ็ดให่ถูกต้อง เจริญแท้ดั่งสอน การก่อสร้างให้ลองย้อนตรวจเบิ่งสิเห็นตาม ล้วนงดงามสบายตา พัฒนาจนดีล้น นี่แม่นผลความคิดอันไกลกว้าง บนเส้นทางของหลวงพ่อ ได้พาสร้างพาก่อ วัดโคกสีจนเลิศล้ำ เฮ็ดนำได้บ่กี่องค์

     การศึกษาสงฆ์ก้าวไปบ่มีถอย หลวงพ่อคอยสนับสนุน ส่งเสริมให่ดีล้น การสร้างคนกะบ่หน่อย มอบทุนต่อการศึกษา การประชาสงเคราะห์ กลุ่มศาลากะมาส้น ล้วนแต่ผลบุญชี้บารมีของหลวงพ่อ นำมากล่าวเพียงแค่นี้ ความจริงแล้วนับบ่ไหว ถวยแทนซ่อดอกไม้ สักการะบูชาคุณ โอกาสบุญอันสำคัญ เพื่อให่หันเห็นฮุ่ง นำเชิดชูนำมาย้อง พระผู้เป็นครรลอง ให้พี่น้องได้ชมชืน ยิ่งวันคืนผ่านล่วง ยิ่งเห็นแท้พระจริง โลกบ่เคยยุนิ่งหมุนไปอยู่บ่มีเซา ชีวิตเฮากะโรยลับล่วง ล้นไปบ่มียั้ง ให่เฮาเอาตนตั้ง เดินตามทางของหลวงพ่อ

     ความดีให้ฟ้าวเฮ็ดก่อ ความชั่วฝ้าวหลีกเว้น สิเห็นท่างป่องงาม เดินตามทางสอนชี้ เอาความดีล้ำค่า ปฏิบัติบูชาหลวงพ่อเฮามื่อนี้ เอาดีตุ้มต่อดีทุกคนเด้อ ..."


                        สานุศิษย์หลวงพ่อโคกสี(สมจิตร ปฏิมิตฺโต)

ธรรมโอวาท

"..... แม่คือคนสำคัญ ผู้ให้กำเนิด ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีเราในวันนี้

       แม่จึงเป็นพระพรหมของลูก !!! เป็นบุคควรแก่การสักการะบูชา อย่างยิ่ง

                            คนดี คิดดี ทำดี ได้ดี ....."


                       หลวงพ่อโคกสี(สมจิตร ปฏิมิตฺโต)

ธรรมพินิจ

"..... พ่อแม่ของเรานี้หละ คือ พระเจ้าของลูกๆ ....."

25








สมเด็จเก๊ หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น

พระสมเด็จองค์นี้ เป็นพระเก๊ นะครับ ให้ระวังกันไว้ มิจฉาชีพ มีเยอะ เท่าที่เห็นพระเก๊ของหลวงปู่ก็ออกมาก็ประมาณ ๕-๖ ปีได้ และช่วง ๒-๓ ปีผ่านมา มีสมเด็จไพรดำเก๊ ลงประมูลในเวปยู โดยถ่ายรูปที่เดียวพร้อมกัน ๓ องค์  ผู้ปิดประมูล เห็นลงที่อยู่ว่าอยู่ อ.ศรีบุญเรือง  ถ้าเป็นสมาชิกเพจนี้ ถ่ายรูปชัดๆให้สมาชิกใด้ร่วมศึกษาหน่อยน่าจะดี  ให้สังเกตวิวัฒนาการพระเก๊พวกนี้จะดีขึ้นเรื่อยๆจนถึงยุคปัจจุบัน ความเนียนและดีขึ้นกว่า ๒ องค์นี้เยอะเลย แต่ที่พอสังเกตได้ก็คือ เนื้อพระ  ....

26




เหรียญนั่งพานรุ่นเททอง หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน  อ.วังสะพุง จ.เลย

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง


ธรรมเทศนาที่พระอาจารย์มั่น เมตตาท่านหลวงปู่ชอบ และหลวงปู่ขาว ไว้ดังนี้

"... กลัวแต่คนอื่นจะเห็นตับไตไส้พุงของตัวเอง แต่ตัวเองไม่สนใจดูตับไตไส้พุงและจิตใจของตัวเองว่ามันมีอะไรอยู่ภายในนั้น มัวเพลินดู เพลินฝัน เพลินคิด แต่เรื่องคนอื่น กลัวเขาจะมาเห้นตับไตไส้พุงของเรา คิดส่งออกไปภายนอก ไม่สนใจคิดเข้ามาภายใน นักปฏิบัตอเราไม่สนใจดูกายดูใจของตัวเราเอง จะหาความฉลาดรอบรู้มาจากไหน ... "

                                  พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

ธรรมโอวาท

"..... ถ้าใจมี “ธรรม” เป็นที่อยู่แล้วจะอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ ไม่มีความเดือดร้อน

       แต่ถ้าใจนั้นไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่แล้ว ต่อให้นั่งนอนอยู่ในปราสาททองก็ ไม่มีความสุข

       เพราะ ไฟกิเลสมันเผาผลาญหัวใจให้ได้รับ ความเดือดร้อน อยู่มิเว้นวาย ....."


                                  หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ธรรมพินิจ

"..... ที่ทุกข์ ก็เพราะไม่มี ธรรม ....."

27




เหรียญรุ่นฉลองสมณศักดิ์  หลวงปู่ม่น ธมฺมจิณฺโณ วัดเนินตามาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี

พระสุปฏิบันโนผู้ทรงอภิญญาณแห่งพนัสนิคม ผู้สืบสายการปฏิบัติของเมืองชลบุรี องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระสมุห์บุญยิ่ง วิริโย วัดเขาบางพระ


ธรรมเทศนาที่หลวงปู่ม่น เมตตาไว้ ดั้งนี้

"... ทุกคนควรจะมุ่งมันนะและก็ตั้งใจทำ ความดี ซึ้งเมือแก่กล้าไปแล้วก็จะเป็น อธิฐานบารมี สั่งสมอยู่ในจิต ซึ้งจะเป็นพลังปัจจัยให้ผู้ปฏิบัติธรรม สามารถตรัสรู้อริยสัจธรรม เพื่อความสิ้นไปของอาสวะกิเลส ตันหาอุปาทาน อันเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย ได้บรรลุมรรคผลนิพานตามศักดิ์บารมีต่อไปได้ ..."

                                  หลวงปู่ม่น ธมฺมจิณฺโณ

ธรรมโอวาท

"..... ให้ใจรู้ใจ ให้จิตรู้จิต นี้อาตมาเดินอย่างนี้ !!! เรียกว่า เพ่งใจ ให้ใจอยู่ที่ใจ ให้ใจรู้ใจ ให้ใจปรกติ หยุดอะไรบ่างอย่าง ไปอย่างนี้คล่อง จริตมันคล่องไปทางนี้

        นั่งเฉยๆให้ปรกติ ปรกตินี้มันพูดมากหลายอย่าง ปรกติจริงๆก็ไม่ให้ยืดถืออารมณ์อะไรทั้งนั้นแหละ อารมณ์ทั้งหลายมันเพิ่งเกิดที่หลัง ที่เราเห็นมา ได้ยินมา มันก็เกิด จิตก็ไม่ปรกติ  ก็ปรุงแต่งไปตามอารมณ์นั้น ตัวสังขารมันก็เกิดขึ้น

        ต้องให้จิตหยุด หยุดอยู่ที่นี้ ให้ว่างจากตัวเราของเรา นี้ตัวเราที่นั่งอยู่นี้ ของเราที่เห็นอยู่โน่น ให้ว่างสองอย่างนี้ ใจอาตมาเดินอย่างนี้นะ ....."


                                  หลวงปู่ม่น ธมฺมจิณฺโณ

ธรรมพินิจ

"..... เบื้องต้นของการปฏิบัตธรรม คือ ทำความดี!!!  ที่สุดแล้ว ให้ว่างที่จิต หยุดที่จิต ดับที่จิต ....."

28






รูปหล่อรุ่นแรก พระอาจารย์สุบรรณ สิริธโร วัดถ้ำผาเกิ้ง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่สิม พทธาจาโร,หลวงปู่ชอบ ฐานสโม


ธรรมสากัจฉาที่พระอาจารย์สุบรรณ เมตตาตอบเรื่อง : ของขลัง

ครั้งหนึ่งเมื่อไปธุดงค์ในป่า มีโยมได้ถามพระอาจารย์สุบรรณ เรื่องของขลังที่มีฤทธิ์ อำนาจในด้านต่างๆ อาทิ เขี้ยวเสือโคร่ง เขี้ยวหมูตัน พระอาจารย์สุบรรณ ท่านตอบว่า


"... พวกหมูป่าที่มีเขี้ยวตัน พวกนี้เขาก็มีของไว้ป้องกันตัวติดตัวมาตั้งแต่เกิด พวกพรานก็ยิงไม่เข้า แต่ที่เขาต้องเกิดมาเป็นสัตว์ก็เพราะวิบากกรรมของเขา แต่มีของพวกนี้ติดตัวมาด้วย ..."

พระอาจารย์สุบรรณ ยังตอบคำถามศิษย์ว่า: แล้วของขลังพวกนี้ มันเสื่อมลงได้ไหมครับ? ท่านเมตตาตอบไว้ดังนี้

"... เสื่อมได้ ถ้ามันไม่เสื่อมมันก็เป็นอัตตานะซิ หลวงพ่อไม่อยากสอนคนให้โง่ เพราะใครก็ไม่อยากโง่ เลยสงสาร เพราะเราก็เคยโง่มาก่อนแล้ว
     ความโง่ของสัตว์ทั้งหลายทำให้ล่มจมในอบายภูมิ ทำให้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่เจริญรุ่งเรือง ...”



                                พระอาจารย์สุบรรณ สิริธโร

ธรรมโอวาท

"..... พระพุทธเจ้าสอนให้เชื่อเรื่องกรรม เพราะกรรมมีเหตุและมีผล ไม่สอนให้งมงาย ไม่สอนให้อ้อนวอนขอ เพราะถ้าอ้อนวอนแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ ถ้าสมหวังก็เพลิดเพลินระเริงใจ ไม่อยากพิจารณาหาเหตุหาผล

       นั้นแหละเป็นความโง่เขลาเบาปัญญา ถึงแม้ไปเป็นพระราชา หรือยาจก ก็จะโง่อยู่อย่างนั้นเพราะเป็นสัตว์โลกเหมือนกัน ....."


                                พระอาจารย์สุบรรณ สิริธโร

ธรรมพินิจ

"..... อย่างมง่าย ให้เชื่อกฏแห่งกรรม ....."

29




เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่เปรื่อง ฐานงฺกโร วัดสันติวัฒนา  อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่


ธรรมโอวาท

“..... อุปกิเลสที่เป็นหนทางให้เกิดความฉิบหายแก่คนทั้งหลาย ซึ่งเรียกว่า ผี 6 ตัว ซึ่งได้แก่
           ผีตัวที่หนึ่ง ชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลา เป็นอาหาร
           ผีตัวที่สอง ชอบเที่ยวยามวิกาล ไม่รักบ้านรักลูกรักเมียตน
           ผีตัวที่สาม ชอบเที่ยวดูการละเล่น ไม่เว้นบาร์คลับละครโขน
           ผีตัวที่สี่คบคนชั่วมั่วกับโจร หนีไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน
           ผีตัวที่ห้า ชอบเล่นม้า กีฬาบัตร สารพัดถั่วโปไฮโลสิ้น
           ผีตัวที่หก เกียจคร้านการทำกิน   มีทั้งสิ้นหกผีอัปรีย์เอย!!!  .....”


                                    หลวงปู่เปรื่อง ฐานงฺกโร

ธรรมพินิจ

"..... รักษาศีล ๕ ได้ ผี จะกลัว ....."

30




เหรียญรุ่นฉลองเจดีย์หลังบาตร หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน  อ.วังสะพุง จ.เลย

เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง


หลวงปู่ชอบ กล่าวถึงคำสอนพระอาจารย์มั่น พระอาจารย์ของท่านว่า

"... ท่านพระอาจารย์มั่นจะให้โอวาทเสมอว่า การเป็นอาจารย์คนนั้นสำคัญมาก จึงควรต้องระมัดระวังตน อาจารย์ผิดคนเดียวอาจทำให้คนอื่นๆผิดตามไปด้วยเป็นจำนวนมาก และในทำนองเดียวกัน ถ้าอาจารย์ทำถูกต้องเพียงคนเดียวก็จะสามารถพาดำเนินให้คนอื่นปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ตามไปได้โดยไม่มีประมาณเช่นกัน ..."

                                    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ธรรมโอวาท

"..... คนมีศรัทธาในทาน บางครั้งก็สงสัยในทาน คนมีศรัทธารักษาศีล บางครั้งก็สงสัยในศีล

        คนภาวนาจนตนเองรู้แจ้งเห็นจริงจะไม่สงสัยในเรื่องศีลทานภาวนา

        เพราะจิตมันเปิดความจริงออกมาให้เห็นทั้งหมด ....."


                                    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ธรรมพินิจ

"..... ถ้าปฏิบัตจนมีธรรมเกิดขึ้นในใจตนเองแล้ว ก็หมดสงสัย ....."

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 13
ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi