[Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป(อ่าน 647644 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

1340.พระปิดตารุ่นแรก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ปี13 เนื้อลายเสือ หายาก นิยม พบเจอน้อย เปิดบูชา 700-

ปิดท่าน j999 ครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 02, 2020, 03:28:53 PM โดย thesun »



1341.เปิดของเก่าสะสม พระยอดนิยม พระผงสรงน้ำ พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ ญาณวรเถร (วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ) ออกที่วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี  ปี2484
พิมพ์เสาเล็ก เนื้อจัด พระส่วนมากจะหาสวยๆยาก เพราะมวลสารที่ใช้ มีความอ่อนตัว พระดีนอกดีใน สุดยอดพระเกจิอาจารย์ยุคนั้นร่วมอธิษฐานจิตมากมาย
หายาก สร้างน้อย รับประกันทุกกรณี เอาไปเลี่ยมทองขึ้นคอได้เลยครับ
เปิดแบ่งปัน 4800-  ปิดท่านj999


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 04, 2020, 08:19:46 PM โดย thesun »



1340.พระปิดตารุ่นแรก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ปี13 เนื้อลายเสือ หายาก นิยม พบเจอน้อย เปิดบูชา 700-






ขอจองครับ



1341.เปิดของเก่าสะสม พระยอดนิยม พระผงสรงน้ำ พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ ญาณวรเถร (วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ) ออกที่วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี  ปี2484
พิมพ์เสาเล็ก เนื้อจัด พระส่วนมากจะหาสวยๆยาก เพราะมวลสารที่ใช้ มีความอ่อนตัว พระดีนอกดีใน สุดยอดพระเกจิอาจารย์ยุคนั้นร่วมอธิษฐานจิตมากมาย
หายาก สร้างน้อย รับประกันทุกกรณี เอาไปเลี่ยมทองขึ้นคอได้เลยครับ
เปิดแบ่งปัน 4800-
สมัยก่อน และ เศรษฐกิจดีๆ แบบนี้หลักหมื่นครับ ผมแบ่งให้เอาไปบูชา ไปศึกษากันครับ




จัดสร้าง 2 พิมพ์คือพิมพ์เสาใหญ่ และ พิมพ์เสาเล็ก

พระผงสรงน้ำท่านเจ้าประคุณ สมเด้จพระพุทธโฆษาจารย์เจริญฯ เรียกง่ายๆ ว่าสมเด็จเมืองชล เป็นพระเนื้อผงพิมพ์แรก ที่ท่านเจ้าประคุณ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เจริญ  สร้างเพื่อแจกในงาน สรงน้ำของท่านในปี 2484
พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระสานโสภณ (เอื้อน ฃินทตฺโต) พร้อมกับท่านเจ้าคุณศีลขันธโสภณ  ได้ขวนขวายหาผงที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้นว่า ผงสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) ผงพระวัดสามปลื้ม และไม้จันทน์แดง จันทน์หอม
ได้นำไปให้คุณหมอชิต นภาสรรพ เจ้าของยานัตถุ์หมอมี ใช้เครื่องบดยาบดจนละเอียด แล้วนำไปผสมกับผงวิเศษ ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เมตตาลงอักขระโดยดินสอพองโบราณ
ในห้องพระ แล้วลบใส่โถเอาไว้ นำมาผสมกับผงวิเศษต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังได้นำเส้นเกศาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ผสมลงไปอีกด้วย พระรุ่นนี้ดีนอกดีในครับ

ในพิธีพุทธาภิเษกพระผงสมเด็จสรงน้ำในครั้งนั้นนอกจากสุดยอดพระเกจิอาจารย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ยุคสงครามอินโดจีน อาราธนามาปลุกเสกแล้ว ท่านเจ้าคุณนรฯ ก็ได้รับอาราธนา
ให้เป็นพระอาจารย์ร่วมเข้าพิธีปลุกเสกเป็นครั้งแรก ซึ่งท่านเจ้าคุณนรฯ  หวังแสดงกตัญญุตาต่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ปรากฏว่าในการปลุกเสกครั้งนั้นท่านเจ้าคุณนรฯ ได้บริกรรมอธิษฐานจิตเนิ่นนานเป็นพิเศษ
พระสมเด็จสรงน้ำ สร้างเป็นรูปพระพุทธประทับนั่งปางสมาธิ สถิตอยู่บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย ภายในซุ้มเรือนแก้ว ที่ด้านหลังมีอักขระขอมความว่า อะ อุ มะ หมายถึงพระรัตนตรัย
คือแก้วสามประการ ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อักขระบรรทัด สุดท้ายคือ พะ ฆะ อะ เป็นพระนามย่อของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
พุทธคุณเด่นทาง เมตตามหานิยม, แคล้วคลาด ครับ
















ขอจองครับ



1342.เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่อร่าม ชินวังโส วัดป่าถ้ำแกลบ ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย จ.เลย ปี47 เนื้อฝาบาตร หายาก สวยๆ 800-

ปิดท่าน J999 ครับ



"หลวงปู่อร่าม" มีนามเดิมชื่อ "อร่าม ศรีคำมี" เกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2470 ที่บ้านท่ามะนาว ต.นาอ้อ อ.เมืองเลย จ.เลย ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา สมัยเป็นเด็ก ชอบไปวัดกับโยมแม่ ท่านเป็นผู้มีอัธยาศัยเรียบร้อย ไม่เคยก่อปัญหาให้กับครอบครัว เมื่ออายุ 3 ขวบ บิดาของท่านเสียชีวิต อายุ 7 ขวบ เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดในหมู่บ้าน

วัยหนุ่มเข้าทำงานที่แขวงการทาง อายุ 35 ปี แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่บ้านหนองเสือคราง ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย แต่แล้วเมื่อลูกสาวอายุ 5 ขวบ เจ็บป่วยหนักและเสียชีวิต ทำให้ท่านปลงอนิจจังกับชีวิต เกิดความเบื่อหน่าย จึงออกบวชขณะอายุ 48 ปี ที่วัดศรีอภัยวัน บ้านนาอ้อ ต.นาอ้อ อ.เมือง โดยมีหลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ เจ้าอาวาสวัดศรีสุทธาวาส อ.เมืองเลย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูญาณธราภิรัติ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระถนัด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายานาม ชินวังโส ​
หลังอุปสมบทจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีอภัยวัน ท่านอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ท่อน ญาณธโร เป็นเวลา 5 พรรษา

จากนั้นหลวงปู่อร่าม ลาไปจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ กับหลวงปู่คำดี ปภาโส เป็นเวลา 2 พรรษา ก่อนเดินธุดงค์ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่านาศรีเทียน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

ต่อมาท่านไปกราบหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งหลวงปู่อ่อนเมตตาสั่งสอนข้อปฏิบัติให้ ตลอดจนถึงการเร่งความเพียรในการภาวนา ถึง 12 ปี และอยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่อ่อน ที่วัดป่านิโคธาราม ระหว่างนั้นหลวงปู่อร่ามก็ขออนุญาตออกธุดงค์ เพียงลำพัง ท่านธุดงค์มาที่บ้านน้ำสวยโพนสว่าง อ.เมือง จ.เลย ออกไปที่วัดถ้ำแกลบ ปฏิบัติธรรมภาวนาอยู่ในถ้ำ

กระทั่งชาวบ้านท่าวังแคน ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย มีความเลื่อมใสศรัทธา จึงสร้างกุฏิชั่วคราวที่ถ้ำแกลบ เป็นกุฏิทำจากไม้ไผ่ให้หลวงปู่อร่าม ผ่านไปไม่นาน มีชาวบ้านถวายที่ดินให้เพื่อสร้างวัดขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "วัดถ้ำแกลบ"

"หลวงปู่อร่าม ชินวังโส" เป็นพระเถระที่ชอบความสงบ มักน้อย สันโดษ ปฏิบัติเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ยึดถือแนวทางปฏิบัติมาจากหลวงปู่อ่อน นับเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งของจังหวัดเลย

หนึ่งในโอวาทธรรมคำสอนของ "หลวงปู่อร่าม ชินวังโส" ที่หลวงปู่ฝากไว้คือ "..อย่าไปรัก อย่าไปชัง อะไรมันมาก มันจะเป็นทุกข์.."

วันที่ 30 มกราคม 2563 หลวงปู่อร่าม  ได้ละสังขารอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลเลย สิริอายุ 92 ปี 8 เดือน





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 04, 2020, 09:36:08 PM โดย thesun »



1342.เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่อร่าม ชินวังโส วัดป่าถ้ำแกลบ ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย จ.เลย ปี47 เนื้อฝาบาตร หายาก สวยๆ 800-



"หลวงปู่อร่าม" มีนามเดิมชื่อ "อร่าม ศรีคำมี" เกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2470 ที่บ้านท่ามะนาว ต.นาอ้อ อ.เมืองเลย จ.เลย ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา สมัยเป็นเด็ก ชอบไปวัดกับโยมแม่ ท่านเป็นผู้มีอัธยาศัยเรียบร้อย ไม่เคยก่อปัญหาให้กับครอบครัว เมื่ออายุ 3 ขวบ บิดาของท่านเสียชีวิต อายุ 7 ขวบ เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดในหมู่บ้าน

วัยหนุ่มเข้าทำงานที่แขวงการทาง อายุ 35 ปี แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่บ้านหนองเสือคราง ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย แต่แล้วเมื่อลูกสาวอายุ 5 ขวบ เจ็บป่วยหนักและเสียชีวิต ทำให้ท่านปลงอนิจจังกับชีวิต เกิดความเบื่อหน่าย จึงออกบวชขณะอายุ 48 ปี ที่วัดศรีอภัยวัน บ้านนาอ้อ ต.นาอ้อ อ.เมือง โดยมีหลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ เจ้าอาวาสวัดศรีสุทธาวาส อ.เมืองเลย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูญาณธราภิรัติ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระถนัด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายานาม ชินวังโส ​
หลังอุปสมบทจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีอภัยวัน ท่านอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ท่อน ญาณธโร เป็นเวลา 5 พรรษา

จากนั้นหลวงปู่อร่าม ลาไปจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ กับหลวงปู่คำดี ปภาโส เป็นเวลา 2 พรรษา ก่อนเดินธุดงค์ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่านาศรีเทียน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

ต่อมาท่านไปกราบหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งหลวงปู่อ่อนเมตตาสั่งสอนข้อปฏิบัติให้ ตลอดจนถึงการเร่งความเพียรในการภาวนา ถึง 12 ปี และอยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่อ่อน ที่วัดป่านิโคธาราม ระหว่างนั้นหลวงปู่อร่ามก็ขออนุญาตออกธุดงค์ เพียงลำพัง ท่านธุดงค์มาที่บ้านน้ำสวยโพนสว่าง อ.เมือง จ.เลย ออกไปที่วัดถ้ำแกลบ ปฏิบัติธรรมภาวนาอยู่ในถ้ำ

กระทั่งชาวบ้านท่าวังแคน ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย มีความเลื่อมใสศรัทธา จึงสร้างกุฏิชั่วคราวที่ถ้ำแกลบ เป็นกุฏิทำจากไม้ไผ่ให้หลวงปู่อร่าม ผ่านไปไม่นาน มีชาวบ้านถวายที่ดินให้เพื่อสร้างวัดขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "วัดถ้ำแกลบ"

"หลวงปู่อร่าม ชินวังโส" เป็นพระเถระที่ชอบความสงบ มักน้อย สันโดษ ปฏิบัติเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ยึดถือแนวทางปฏิบัติมาจากหลวงปู่อ่อน นับเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งของจังหวัดเลย

หนึ่งในโอวาทธรรมคำสอนของ "หลวงปู่อร่าม ชินวังโส" ที่หลวงปู่ฝากไว้คือ "..อย่าไปรัก อย่าไปชัง อะไรมันมาก มันจะเป็นทุกข์.."

วันที่ 30 มกราคม 2563 หลวงปู่อร่าม  ได้ละสังขารอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลเลย สิริอายุ 92 ปี 8 เดือน






ขอจองครับ



1343.รูปหล่อรุ่นแรกหลวงปู่ถิน ปภากโร วัดโพนทอง อ.ภูเรือ จ.เลย ปี18 ก้นอุดผงพุทธคุณ หายาก นานๆ
จะมาให้เห็นที
เปิดบูชา 700-  ปิดท่านj999 ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2020, 05:16:07 PM โดย thesun »



1344.นำของเก่าเก็บ สะสมมาแบ่งปัน  รูปหล่อลอยองค์ขนาดห้อยคอ พระโพธิสัตว์พังพกาฬ พิมพ์นาคปรก 7 เศียร  องค์พ่อจตุคามรามเทพ หลักเมืองนครศรีธรรมราช  รุ่นแรกปี32 เนื้อนวโลหะ รุ่นแรก ยุคแรก
ขององค์พ่อ พิธีดี พิธีใหญ่ถูกตามขั้นตอน พิธีพรหมศาสตร์ จตุคามศาสตร์  ประสบการณ์มากมาย ขอได้สำเร็จดังหวัง
เปิดบูชาแบ่งปันเบาๆ 2,800-  ปิดท่านj999
อยู่กับสายตรงแพงกว่านี้แน่นอนครับ พระเครื่ององค์พ่อจตุคามรุ่นแรกยังเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย ศักดิ์ศรีรุ่นแรก  เคยขึ้นหลักหมื่นมาแล้วครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2020, 05:15:58 PM โดย thesun »



1344.นำของเก่าเก็บ สะสมมาแบ่งปัน  รูปหล่อลอยองค์ขนาดห้อยคอ พระโพธิสัตว์พังพกาฬ พิมพ์นาคปรก 7 เศียร  องค์พ่อจตุคามรามเทพ หลักเมืองนครศรีธรรมราช  รุ่นแรกปี32 เนื้อนวโลหะ รุ่นแรก ยุคแรก
ขององค์พ่อ พิธีดี พิธีใหญ่ถูกตามขั้นตอน พิธีพรหมศาสตร์ จตุคามศาสตร์  ประสบการณ์มากมาย ขอได้สำเร็จดังหวัง
เปิดบูชาแบ่งปันเบาๆ 2,800-
อยู่กับสายตรงแพงกว่านี้แน่นอนครับ พระเครื่ององค์พ่อจตุคามรุ่นแรกยังเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย ศักดิ์ศรีรุ่นแรก  เคยขึ้นหลักหมื่นมาแล้วครับ

สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช  ทั้งขนาดใหญ่สำหรับตั้งบูชา ขนาดเล็กสำหรับอาราธนาติดตัว และขนาดตั้งหน้ารถ
รูปหล่อองค์จตุคามรามเทพ เป็นรูปปฏิมากรรมพระโพธิสัตว์พังพกาฬ สร้างขึ้นตามตำนานของชาวทะเลใต้ ตามอุดมคติศิลปศาสตร์ชาวศรีวิชัย ด้วยฝีมือช่างที่ละเอียดปราณีต
งาดงามเป็นเลิศ ตามหลักอาถรรพณ์เวทวิทยา แห่งสมมุติศาสตร์ องค์พระเทวราช ประทับนั่งบนบัลลังก์ฐานขนด เศียรนาคราชแผ่พังพาน ดุจผู้พิทักษ์องค์ราชัน

เชื่อกันว่าเดิมนั้น องค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช มีพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2
ของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช เชื่อว่ามีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า
"ราชันดำแห่งทะเลใต้" หรือมีอีกราชสมัญญานามนึงว่า "พญาพังพกาฬ" และต่อมาสำเร็จวิชาจตุคามศาสตร์ และทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิต เป็นพระโพธิสัตว์
เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง












ขอจองครับ



1343.รูปหล่อรุ่นแรกหลวงปู่ถิน ปภากโร วัดโพนทอง อ.ภูเรือ จ.เลย ปี18 ก้นอุดผงพุทธคุณ หายาก นานๆ
จะมาให้เห็นที
เปิดบูชา 700-

หลวงปู่ถิน ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง เคยอยู่ศึกษาธรรมร่วมสำนักกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
หลวงปู่ถิน ท่านสำเร็จกสิน 10 มีอภิญญาณ สูง ถึงขนาดเป็นที่ กล่าวขานกันในสมัยนั้นว่า
" พระอาจารย์เรืองวิทยาคม ผู้มีพลังจิตอันสูงส่ง ปรากฎแสงเรืองรองจากฝ่าเท้าทั้งสอง ขณะเดินจงกลมบำเพ็ญสมาธิจิต "

หลวงปู่ถิน ท่านอยู่ ภูเรือ ไม่ลงจากเขาเลย ตั้งแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ ปฏิบัติ
เก็บตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครเลย แม้แต่พระสายท่านพระอาจารย์มั่น ก็รู้จักท่านน้อยมาก​
หลวงปู่ชอบ สมัยท่านยังอยู่ และ แข็งแรง ต้องขึ้นไปกราบท่านทุกปี หลวงปู่ถินท่านมีศักดิ์เป็นลูกพี่ ลูกน้อง กับองค์หลวงปู่ชอบ










ขอจองครับ



1345.พระดี ปีลึก ศรีเมืองกาญจน์ พระผงกรรมฐาน หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี ปี2497 ผสมผงเก่าหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว น่าใช้ น่าบูชา มีในรายการประกวด
พระเครื่องเสมอ 


เป็นพระที่หลวงปู่เหรียญท่านใช้เวลาในการรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆถึง 3 ปีเต็ม.. ซึ่งหนึ่งในมวลสารสำคัญที่เป็นส่วนผสมในการสร้างพระยุค2497 หลายๆพิมพ์ก็คือผงเก่า
ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว(อาจารย์ของท่าน ที่พระปิดตาของท่านเป็นหนึ่งในเบญจภาคีพระปิดตาที่หายากสุดๆ)..เหลือเป็นมรดกตกทอดมาถึงหลวงปู่เหรียญ..
...ยุค 2497 มีสร้างหลายพิมพ์ ที่เป็นที่นิยมสุดๆ ก็เป็นพิมพ์ประทานพรซุ้มเรือนแก้ว เข่าอ่อน ที่ราคาขึ้นหลักหมื่นนานแล้ว..และ มีพิมพ์ท่ากระดาน...ขุนแผน...สมเด็จฯ หลังอุ ฯลฯ
...และ ส่วนมากที่ด้านหลังท่านจะขีดเทียนจีนแดงไว้ทุกองค์ เพื่อเป็นการนับองค์...






1345.1 พิมพ์ พระท่ากระดาน หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว กาญจนบุรี ปี 2497 เปิดบูชา 1300-





1345.1 พิมพ์ สมเด็จหลังอุ หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว กาญจนบุรี ปี 2497 เปิดบูชา 1200-







1346.พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกเตารีด หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ปี41 พิมพ์เล็ก ติดจีวรและผสมเกศาหลวงพ่อ(องค์นี้ส่องดูเห็นเกศาหลวงพ่อหลายเส้นครับ)
หายาก นานๆเจอที มวลสารดีมากครับ
เปิดบูชา 500- 


พระผงรูปเหมือนหลังเตารีด ฉลองอายุ70 ปี 41 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี  สร้างแจกในงานวันเกิดหลวงพ่อจรัญ 15 สค. 2541 """"

            พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อจรัญหลังเตารีด เนื้อดำ วันเกิดครบรอบ 70 ปี พ.ศ.2541 เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่มีทั้งเกศาและจีวรของหลวงพ่อ

            *** มวสารประกอบด้วย

            ทองที่ลอกจาก " พระพุทธชโลธร " พระประธานในพระอุโบสถ วัดอัมพวัน ช่วงปี 24-25 ,

           ผงจาก พระชุดวัดพรหมบุรี 2496 ที่แตกหัก ซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้มอบให้ ,

           ผงธูปจากกระถางธูป ในพระอุโบสถ ซึ่งหลวงพ่อท่านได้ทำ วัตรเช้า-เย็นทุกวัน ,

           ดอกไม้ไหว้พระในวัดอัมพวัน ซึ่งใช้ประกอบพิธีในวันสำคัญต่างๆทางพุทธศาสนาำ ,

           ตำราใบลานเก่าแก่ ที่พบเจอที่ช่อระกาทั้งด้านซ้ายและขวาขณะซ่อมแซม ศาลาสุธรรมภาวนา (ในวัดอัมพวัน) ประมาณ พ.ศ.2530 ,

            เกศาของหลวงพ่อ ที่ได้สะสมรวบรวมไว้ในแต่ละเดือน ซึ่งท่านจะปลงเกศาเดือนละ 1 ครั้ง ,

           จีวรเก่าของหลวงพ่อ ในปี พ.ศ. 2531

                   ได้นำมวลสารทั้งหมด เข้าร่วมปลุกเสกในพิธี รูปหล่อกริ่งกังวาล ณ วัดอัมพวัน - มวลสารทั้งหมดได้นำมารวบรวมและเก็บรักษาไว้ในพระอุโบสถวัดอัมพวัน ตลอดเวลาโดยไม่มีทำการเคลื่อนย้ายใดๆ

             - ในปีพ.ศ. 2541 ช่วงกลางพรรษา หลวงพ่อได้เมตตาอธิษฐานปลุกเสกวัตถุมงคลทั้งหมดให้ในพระอุโบสถ วัดอัมพวัน

             - เพื่อนำมาแจกจ่ายญาติโยมและลูกศิษย์ เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิด หลวงพ่อจรัญ อายุครบ 70 ปี

           นับเป็นพระเนื้อผงอีกรุ่นหนึ่งที่นิยมเล่นหากันมาก  ด้วยเจตนารมณ์การสร้างดีมาก ๆๆ แถมจัดทำอย่างชัดเจน ออกในปี 2541 พร้อมมีประสบการณ์สูง







1347.ล็อกเก็ต "สถาปนา" หลัง ญสส. ที่ระลึกครบ 8 รอบ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวร ปี52 ฉากทอง หลังเงิน หมายเลข 11 ด้านในบรรจุพระเกศาสมเด็จพระญาณ
ขนาดความสูง 1.5 นิ้ว หายาก สร้างน้อย สวยๆ
เปิดบูชา 1,500












1348.ล็อคเก็ตหลังเข็มกลัด ตัวถังเงิน หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี (วัดหนองนา) ตำบลไร่รถ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี  ปี36 ด้านในบรรจุเกศา หลวงพ่อ
กล่องเดิม หายาก
เปิดบูชา 1800-




หลวงปู่เจริญ หรือ หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิษย์มือซ้ายของหลวงปู่โต๊ะ วัดสองเขตสามัคคีธรรม ( วัดลาดตาล ) ส่วนศิษย์มือขวาของหลวงปู่โต๊ะคือ หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย ) หลวงพ่อเจริญท่านมีความสามารถเก่งในด้านอักขระขอม และช่างก่อสร้าง
หลวงพ่อเจริญมีอุปลักษณะนิสัยดี หัวเราะเก่ง อารมณ์เย็น ไม่ดุด่าว่าใคร สมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ผมเคยไปกราบนมัสการมาแล้ว นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตจริงๆที่ได้กราบไหว้พระอริยะสงฆ์ ซึ่งหาได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบันนี้

หลวงพ่อเจริญ ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีปฏิปทาน่าเคารพบูชา ท่านมีประวัติดีเด่นน่าศึกษาควรแก่การยกย่องก็คือ ท่านเป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกในการสร้างวัดธัญญวารี เป็นรูปแรกแต่ชาวบ้านมักเรียกชื่อวัดตามชื่อของหมู่บ้านว่า “วัดหนองนา” ซึ่ง บริเวณพื้นที่ของหมู่บ้านนี้แต่เดิมกันดารมาก การเดินทางไปมาก็ไม่สะดวก แต่หลวงปู่เจริญท่านก็มีความอดทนอุตสาหะอย่างมากในการพัฒนาวัดให้เจริญก้าว หน้าจนกระทั่งในปัจจุบันนี้ แล้วท่านยังเป็นเจ้าอาวาสวัดรูปแรก เป็นเจ้าคณะตำบลรูปแรก และเป็นเจ้าคณะอำเภอรูปแรกอีกด้วย นับว่าผลงานตำแหน่งหน้าที่เหล่านี้ของท่านควรแก่การศึกษาและยกย่องอย่างมาก

นามเดิม เจริญ นามสกุล เปรมรัตน์ เกิดเมื่อวันศุกร์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2452 ปีระกา ณ.บ้านหลักแก้ว อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง โยมบิดาชื่อ เหลี่ยม โยมมารดาชื่อ ปาน

อายุ 15 ปี พ.ศ.2467 ท่านได้เดินทางมาอยู่กับญาติยังเมืองสุพรรณ และบรรพชาเมื่ออายุ 17 ปี พ.ศ. 2468 ณ.วัดสำปะซิว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีพระอธิการเหย่ เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว เป็นพระอุปัชฌาย์

ท่านเดินทางกลับวิเศษไชยชาญเพื่อไปอุปสมบทยังวัดบ้านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2472 ณ. พัทธสีมาวัดลานช้าง ตำบลหลักแก้ว อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยมี

หลวงพ่อบุญ วัดสี่ร้อย เป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่อหิน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลวงพ่อจั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาทางธรรมว่า ปภาโส หลังจากอุปสมบทได้เดินทางกลับมาจำพรรษายังวัดสุวรรณภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ และในปี พ.ศ.2472 นี้เองท่านก็สามารถสอบได้นักธรรมเอกจากสำนักเรียนวัดสุวรรณภูมิ

พ.ศ.2476 หลวงพ่อเจริญ ในวัย 24 ปี 4 พรรษา นักธรรมเอกสำนักวัดสุวรรณภูมิ ได้เดินทางมาเยี่ยมญาติที่บ้านหนองนา แล้วได้เห็นพื้นที่หมู่บ้านหนองนามีทำเลเหมาะแก่การสร้างวัด ประกอบกับบ้านหนองนามีจำนวนประชากรมาก เวลาจะบำเพ็ญกุศลกันทีต้องเดินทางไปยังวัดที่อยู่หมู่บ้านอื่นซึ่งไกลกันมาก ไม่สะดวก ท่านจึงปรึกษากับชาวบ้าน ชาวบ้านก็เห็นดีด้วย แล้วชาวบ้านก็ได้ร่วมกันถวายที่ดินให้สร้างวัดตามประสงค์

ตอนแรกเมื่อ พ.ศ.2476 ได้ ติดต่อขออนุญาตทางราชการเพื่อจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ชาวบ้านหนองนาจึงได้เดินทางไปยังวัดสุวรรณภูมิ ได้ขออนุญาตพระครูโต๊ะ ( หลวงปู่โต๊ะ วัดลาดตาล ) ซึ่งสมัยนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณภูมิและเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเจริญ เพื่อติดต่อขอหลวงพ่อเจริญ มาดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักสงฆ์ทิพยวารี (ชื่อ เดิมของวัดสมัยแรกเริ่มตั้ง) และชาวบ้านยังได้ไปอาราธนาพระอธิการแต้ม วัดสำปะซิว ( ภายหลังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระลอย ) มาร่วมช่วยกันก่อสร้างและพัฒนาวัดนี้ขึ้นด้วย

ในปีแรก พ.ศ.2477 นับเป็นพรรษาแรกมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ทั้งหมด 8 รูป หลวงพ่อแต้ม หลวงพ่อเจริญ และพระที่อยู่จำพรรษาด้วยกัน พร้อมด้วยชาวบ้านได้เริ่มก่อสร้างวัดขึ้น มี กุฏิ สระน้ำ หอประชุม โดยหลวงพ่อเจริญและหลวงพ่อแต้มได้ใช้ความรู้ในเรื่องการก่อสร้าง (ช่างก่อสร้าง) ที่เรียนมาจากหลวงปู่โต๊ะ แล้วหลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อแต้ม ก็กลับไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสำปะซิวดังเดิม

พ.ศ.2480 พระ วิบูลเมธาจารย์ วัดปราสาททอง (เจ้าคณะจังหวัดสมัยนั้น) ได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อเจริญ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทิพยวารี (ชื่อเดิม) อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับว่าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดนี้
หลัง จากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแล้วหลวงพ่อเจริญท่านก็ได้สร้าง เสนาสนะและถาวรวัตถุ ที่ทำสังฆกรรมสงฆ์ และสิ่งก่อสร้างต่างๆอย่างมากมาย

พ.ศ. 2481 หลวงพ่อเจริญได้ปรึกษากับศิษย์ว่า การที่ทางวัดเปิดสอนหนังสือแก่เด็กนั้น (โดย แรกเริ่มหลวงพ่อเจริญนั้นเป็นผู้สอนเอง ภายหลังภาระการก่อสร้างวัดมากขึ้น จึงต้องจ้างครูมาสอนแทน) มีเด็กอีกมากมายที่ยังไม่มีความรู้ ไม่มีวิชาติดตัว เห็นทีสมควรจะจัดตั้งเป็นโรงเรียนและมีครูสอน อย่างมาตรฐาน จึงทำเรื่องขออนุญาตทางราชการเปิดโรงเรียนประชาบาลขึ้น

พ.ศ.2482 ทาง ราชการก็ได้อนุญาตให้ทางวัดจัดตั้งโรงเรียนขึ้น แต่มีความเห็นว่า ชื่อของวัดทิพยวารียังไม่เหมาะสมที่จะนำมาเป็นชื่อโรงเรียนเพราะว่าไม่สอด คล้องกับชื่อของหมู่บ้าน(หนองนา) จึงขอให้ทางวัดและโรงเรียนใช้ชื่อว่า ธัญญวารี อันมีความหมายสอดคล้องกับชื่อหมู่บ้าน หนองนา ดังนั้นหลวงพ่อเจริญจึงส่งเรื่องถึงคณะสงฆ์ขอเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดธัญญวารี

พ.ศ.2483 ทางวัดได้ยื่นเรื่องขอพระราชทานวิสุงคามสีมาต่อทางราชการ จวบจน พ.ศ.2486 ได้ทำพิธีปักเขตวิสุงคามสีมา
วัดธัญญวารี ได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2477 จวบจนปัจจุบัน (พ.ศ.2550) เป็นเวลา73 ปี ได้รับให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง เป็นวัดดีเด่น ก็ด้วยเพราะหลวงพ่อเจริญและความร่วมมือของผู้มีส่วนร่วมทุกๆท่าน จวบจนปัจจุบันเป็นวัดที่ใหญ่วัดหนึ่งในเมืองสุพรรณ

หลวงพ่อเจริญมรณภาพด้วยชราภาพในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2545 สิริอายุ 92 ปี 72 พรรษา

ศิษย์ของหลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี (วัดหนองนา)
ศิษย์ของท่านมีมากมายหลายท่าน แต่ที่มีชื่อเสียงพอสมควรแล้วมีดังนี้ หลวงปู่เฉลี่ย วัดธัญญวารี (ศิษย์เอก) , หลวงปู่สมหวัง วัดไร่รถ , หลวงพ่อจำลอง วัดนเรศสุวรรณาราม (เจ้าตำรับปลัดขริกจุกฟักทอง) เป็นต้น













1349.เหรียญรุ่น2 หลวงปู่บุญ วัดแจ้งศิริสัมพันธ์  ต.บางกระสอ อ.เมือง นนทบุรี ปี05 เนื้อทองแดงกะไหล่ทองสวยๆ เป็นเหรียญเก่า ไม่ค่อยพบเจอ หายาก ของจังหวัดนนทบุรี
เหรียญรุ่นแรกท่านปี2496หลักหมื่น ใช้รุ่น2 แทนได้ครับเปิดบูชาเบาๆ
เปิดบูชา 800- 
ปิดท่าน j999 ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 15, 2020, 11:32:19 AM โดย thesun »




 

ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi