[Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป(อ่าน 671491 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

708.เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์สมาธิ หลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม เนื้อชนวน (เป็นเนื้อเดียวกับ พระยอดธงรุ่นแรก ที่หลวงปู่เททองด้วยตัวท่านเอง)
พบเห็นน้อยมากๆ หาชมยาก
1500- ปิดท่านวันชัยครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2018, 11:17:41 AM โดย thesun »



709.รูปเหมือนปั๊มรุ่น2 พ่อท่านเขียว อินทมุนี วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ปี16 สวยๆ พระเกจิระดับแนวหน้าแดนใต้ ลูกศิษย์ลูกหามากมาย ไม่มีใครไม่รู้จัก วัตถุมงคลมีประสบการณ์มากกมาย
รูปเหมือนปั๊มรุ่น2 แม้ราคาจะไม่สูงมาก ถ้าเทียบกับรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก ที่ราคาหลักหมื่น แต่ก็ไม่ค่อยพบเห็น ใช้แทนรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรกได้เลยครับ
ของดี ของเบา แต่ไม่เบาพุทธคุณ ที่ผมอยากจะแนะนำให้บูชา

2800- สภาพนี้ทั่วไป หรือในพื้นที่ต้องมี สามพันกว่าขึ้นครับ

เหรียญรุ่นแรก ของท่านราคา หลักแสน และรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก ปี13 ราคาหลักหมื่น ใช้รุ่นสองแทนได้ครับ พุทธคุณไม่หนีกัน

ความแตกต่างของรูปเหมือนปํ๊มรุ่นแรกและรุ่นสอง ด้านหลังจะมีเลขตอกที่สังฆาฎิ เลขหนึ่ง และ เลขสองตามลำดับ




รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก



พ่อท่านเขียว วัดหรงบล  อ.ปากพนัง  จ.นครศรีธรรมราช

คาถาบูชา: " นะโมนมัสการ พระอินทมุนี โพธิสัตโต อาราธนานัง นะมามิหัง นะโมพุทธายะ "


พ่อท่านเขียว ถือกำเนิดขึ้นในตะกูลชาวนา เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้นแรมไม่ปรากฏ เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ.2424 บิดาชื่อนาย ปลอด มารดาชื่อแป้น มีพี่น้อง 4คน ชาย2หญิง2 พ่อท่านเขียวเป็นพี่ชายคนโต น้องชายชื่อนายพลับ น้องสาวชื่อนางเอียด และนางปาน น้องชายและน้องสาวเสียชีวิตก่อนท่าน

การศึกษา
   
 เมื่อยังเยาว์วัย พ่อท่านเขียวอาศัยพระในบ้านช่วยสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ตามอักขระสมัย ท่านชอบศึกษาเล่าเรียนเป็นชีวิตจิตใจ

อุปสมบท
     
"พ่อท่านเขียว"ท่านตัดสินใจสละเพศฆราวาส เข้าสู่วัดเมื่ออายุได้ 22ปี อุปสมบท ณ วัดคงคาวดี (วัดกลาง) ปีเถาะ พ.ศ.2446 พระครูสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูบริหารสังฆกิจ (เต็ง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระเกื้อเป็นพระกรรมวาจา ได้รับฉายาว่า "อินทมุนี"ได้ปรนนิบัติรับใช้ รับฟังโอวาทจากพระอุปัชฌายะชั่วระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้น พ่อท่านเขียว ก็กราบลาพระอุปัชฌายะ ไปศึกษาเล่าเรียนต่อกับพระอาจารย์เอียด วัดบน พระอาจารย์เอียดเก่งทั้งทางโลก และทางธรรม อบรมนิสัยให้เหมาะแก่สมณเพศ จนท่านตั้งใจว่า ขอถือบวชอยู่ในพุทธศาสนาตลอดไป หาทางพ้นทุกข์ตัดอาสวะกิเลสให้สิ้น พ่อท่านเขียวท่านตัดสินใจเดินธุดงค์เป็นวัตร คือ ถือผ้านุ่งห่มบังสกุล 3ชิ้น มีผ้าสบง อังสะ จีวร บิณฑบาตร และฉันอาหารมื้อเดียว(เอกา)เป็นวัตร จึงกราบลาอาจารย์เดินธุดงค์สู่ป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่เขียวเดินธุดงค์ติดต่อกันหลายปี ผ่านจังหวัดกระบี่ ตรังสุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ภูเก็ต พังงา และจังหวัดอื่นๆอีกหลายแห่ง

วัตถุมงคล
   
 ในปี พ.ศ.2467 พ่อท่านเขียวอายุได้ 53 ปีพอดี ท่านพระครูพิบูลย์ศีลาจารย์(เกลื่อม)เจ้าคณะ ต.บางตะพง อ.ปากพนัง ปกครองวัดกลาง(คงคาวดี)ศรัทธาต่อพ่อท่านเขียว ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านเอง ต้องการได้ของดีของอาจารย์เป็นที่ระลึก จึงหาผ้าขาวมา หาขมิ้นผงมาผสมน้ำทาใต้เท้า ใต้มือท่านแล้ว นิมนต์ท่านอฐิษญานจิตกดเป็นผ้ายันต์แต่ไม่ค่อยชัดนัก ต่อมามีผู้ต้องการมากขึ้น จึงคิดหาหมึกจีนเป็นแท่งมาฝนกับฝาละมีทาเท้าบ้าง ทามือบ้าง ให้พ่อท่านอธิษฐานจิตกดลงบนผ้าขาวเป็นผ้ายันต์ ปรากฏว่าชัดเจนสวยงามดี นับว่าผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าพ่อท่านเขียวปรากฏแพร่หลายขึ้นเป็นครั้งแรกในภาคใต้ เมื่อมีผู้ศรัทธามาขึ้นจึงแพร่หลายบอกต่อกันไป มีประชาชนมาขอลูกอมท่านบ้าง พ่อท่านเขียวท่านเคี้ยวชานหมากเสร็จคลึงเป็นลูกอมแล้วมอบให้ บางคนท่านก็เอากระดาษฟางมาลงอักขระเป็นตัวหนังสือขอม หัวใจพระเจ้า 5พระองค์ นะโมพุทธายะ เสร็จแล้วเอาเทียนสีผึ้งห่อหุ้มปั้นเป็นลูกอม พ่อท่านเขียวเป็นพระใจดี พูดน้อยใครขออะไรท่านก็จะทำให้ตามความต้องการแต่ละคน
     วัตถุมงคลที่พ่อท่านเขียว ท่านสร้างมีหลายอย่าง เช่น ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า เชือกคาด ลูกอมเทียน ชานหมาก พระปิดตา เหรียญ และรูปหล่อลอยองค์ พระเครื่องหลวงปู่เขียว เป็นที่ต้องการกันมาก

พุทธคุณวัตถุมงคล
     
วัตถุมงคล และพระเครื่องของพ่อท่านเขียว ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ด้านปกป้องคุ้มครองสูงมาก เช่นผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าผู้ที่โดนโจรปล้นวัวเกิดต่อสู้กัน เจ้าของวัวพกผ้ายันต์ท่าน กระสุนก็ไม่อาจทำอะไรคนที่พกผ้ายันต์ท่านได้ ซึ่งพุทธคุณพระเครื่องที่ท่านปลุกเสกนั้น โด่งดังไปไกลทั่วประเทศเป็นที่เล่าขานสืบต่อมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าด้านคงกระพัน มหาอุด หรือเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ถือว่า หลวงปู่เขียว วัดหรงบล เป็นสุดยอดเกจิอันดับต้นๆของภาคใต้

มรณภาพ

"พ่อท่านเขียว" ท่านมรณภาพ ในปี พ.ศ.2519 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 1ค่ำ เดือน 7 ด้วยโรคชราตามสังขารอายุ รวมได้ 95ปี 74 พรรษา

วามศักดิ์สิทธิ์ของ พ่อท่านเขียว วัดหรงบล อีกอย่างหนึ่งที่เกือบทุกคนรู้กันดีทั่วบ้านทั่วเมือง ก็คือหลังจากพ่อท่านเขียวท่านมรณภาพแล้ว ทางวัดได้เก็บรักษาสรีระของพ่อท่านไว้ระยะหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า สรีระร่างกายของพ่อท่านเขียวท่านไม่เน่าเปื่อย และไม่มีกลิ่นเหม็นแต่อย่างใด และเมื่อถึงวันครบกำหนดประชุมเพลิง สรีระของท่านเผาไฟไม่ไหม้ แม้แต่ จีวร ที่ห่อหุ้ม สร้างความมหัศจรรย์เป็นยิ่งนัก ปัจจุบัน สรีระร่างอันอมตะของ พ่อท่านเขียว ก็ยังประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วที่วัดหรงบน ทุกวันนี้จะมีผู้คนไปกราบไหว้สักการบูชาอยู่เป็นประจำ



ตายไม่เน่า…เผาไม่ไหม้



ในเมืองไทยเรามีพระสงฆ์ผู้มีความศักริ์สิทธิ์ก็อยู่หลายรูป
แต่จะหาอริยะสงฆ์แบบพ่อท่านเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช นั้นคงน้อยมากๆ เพราะว่าอะไรเราลองมาหาคำตอบกันดีกว่าครับ

 
“วัดหรงบน” เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ยังมีการติดต่อได้ลำบาก จากลุ่มน้ำปากพนัง ต้องล่องเรือนานกว่าชั่วโมง ก่อนขึ้นฝั่งที่ บางตะพงษ์ แล้วจะต้องเดินลัดเลาะข้ามทุ่งหญ้าไปอีกไกล จึงจะถึงวัดหรงบน เพื่อกราบนมัสการ “พ่อท่านเขียว” เกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำปากพนัง เนื่องจากไม่มีถนนเข้าไปถึง อีกทั้ง “พ่อท่านเขียว” ก็ยังไม่มีคนต่างถิ่น รู้จักมากนัก นานทีจึงจะมีคนเข้าไปกราบนมัสการท่าน
 
 
 “พ่อท่านเขียว” ได้มรณภาพไปแล้ว ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๑๙ ณ วัดคงคาวดี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดหรงบนนัก และเป็นเส้นทางเดินผ่านมาจากบางตะพงษ์นั่นเอง การจัดการศพของท่านนั้น พระครูพิบูลย์ศีลาจารย์ เจ้าอาวาส วัดคงคาวดี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน ได้ตั้งศพของพ่อท่าน ไว้ที่วัดคงคาวดีหนึ่งคืน พร้อมทำการสวดอภิธรรม เพื่อให้บรรดาสานุศิษย์ได้เคารพศพพ่อท่าน

จากนั้นรุ่งขึ้นจึงนำศพของพ่อท่านเดินทางไปยังวัดหรงบน ปรากฏว่าเมื่อชาวบ้านรู้ข่าว ต่างพากันมาร่วมไว้อาลัยพ่อท่านมากมาย และมีการสวดอภิธรรมจนครบ ๓ คืน ระหว่างงานสวดอภิธรรมนั้นได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยบรรดาลูกศิษย์ที่มีความเคารพนับถือพ่อท่าน ต่างต้องการแสดงความกตเวทิตาคุณ ตามประเพณีงานศพของทางภาคใต้ ซึ่งเป็นประเพณีพื้นถิ่น คือทำการจุดดินปืนที่ใส่ “กระบอกเหล็ก” ยาว ๑ ศอก (ประเพณีนี้คนภาคใต้นิยมจุดกัน) คล้ายกับพลุเพื่อส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ไกลออกไปได้ทราบว่ามีงานศพ ปรากฏว่าการจุดในคืนแรก ดินปืนด้านหมดทั้งสามลูก ไม่ยอมดังหรือติดเลยแม้แต่ลูกเดียว
 
  ต่อมาคืนที่สอง ลูกศิษย์เริ่มจุดอีกช่วง ๑๘.๐๐ น. ปรากฏว่าครั้งนี้จุดทั้งหมดห้าลูก แต่ก็ด้านหมดทุกลูก ไม่ดังและไม่ติดเช่นเดียวกันกับคืนแรก ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ ต่างพากันประหลาดใจ ว่าเป็นเพราะเหตุใด จากนั้นพอคืนที่สาม ลูกศิษย์ผู้ที่จุดดินปืนก็ ไม่ยอมลดละ ได้ทำการจุดดินปืนที่เตรียมมาใหม่ ในเวลาเดิม ๑๘.๐๐ น. แต่ปรากฏว่าจุดไม่ติด เช่นกันกับสองคืนแรก

จะมีก็เพียงควันพวยพุ่งขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ยอมระเบิดเลยแม้แต่ลูกเดียว ทำให้ผู้ที่จุดงวยงงสงสัย ว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่ กระทั่งหลังการบำเพ็ญกุศลเรียบร้อย ก็จะทำการฌาปนกิจศพพ่อท่าน ตามประเพณี แต่บรรดาลูกศิษย์ต่างแตก ความคิดกันออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งอยากให้เผาศพพ่อท่าน แต่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการ ให้เก็บศพพ่อท่านไว้ไม่อยากให้เผา

แต่เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้เผาศพพ่อท่าน จะได้หมดห่วงหมดกังวล จึงทำให้ ฝ่ายที่ไม่อยากให้เผา ทำการต่อรองขอว่า “ถ้าเผาศพพ่อท่านครบ ๑ ชั่วโมงแล้วไม่ไหม้ ขอให้เก็บศพไว้บูชา” ทุกฝ่ายจึงต่างก็ตกลงกันได้ด้วยดี
 
 
การฌาปนกิจศพ “พ่อท่านเขียว” ได้ทำการตั้งเมรุเผากันที่กลางลานวัด โดยใช้ไม้ฟืนที่ชาวบ้านช่วยกันนำมาโดยใช้เหล็กสามท่อน วางรองโลงศพต่างเชิงตะกอนแบบง่ายๆ เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงรอเวลาทำการเผาตามประเพณี แต่พอถึงเวลากลับไม่มีใครกล้าจุดไฟเผาพ่อท่านเลย ดังนั้น นายเหลี้ยง ชนะเสน เถ้าแก่โรงสี บ้านใสหมาก อ.เชียรใหญ่ ซึ่งเป็นศิษย์พ่อท่านอีกผู้หนึ่ง จึงเป็นผู้อาสาจุดไฟเอง โดยไม่ลืมทำพิธีขอขมาศพพ่อท่านก่อน แล้ววานท่านอาจารย์เพชร เป็นผู้จุดไฟที่ดอกไม้จันทน์ที่ตนถืออยู่ก่อน จากนั้นนายเหลี้ยงจึงทำการจุดไฟที่กองฟืนทันที ชั่วครู่ไฟจึงค่อยๆลุกลามขึ้นไหม้ทั้งดอกไม้จันทน์

ที่บรรดาญาติโยมนำไปวางไว้ทั้งด้านบนและด้านข้างโลงศพ และฟืนที่รองอยู่ จนควันโขมงและค่อยๆโหมแรงขึ้นๆจนท่วมโลงศพ และฟืนที่สุมอยู่ โดยมี “ฝ่ายที่ไม่อยากให้เผา” ต่างก็คอยจับเวลาดูนาฬิกา ว่าจะครบ ๑ ชั่วโมงเมื่อใด ไฟได้โหมแรงขึ้นๆจนกองฟืนที่สุมไว้ไหม้เกือบหมดแล้ว แต่เวลาก็ยังเหลืออีกมากทำให้ “ฝ่ายที่ไม่อยากให้เผา” ต่างออกอาการหงุดหงิดตามๆกัน แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ จึงได้แต่เร่งเวลาให้ครบชั่วโมงโดยเร็ว แต่ไฟได้ไหม้ทั้งฟืนและโลงศพจนหมดก่อน ที่ผู้ที่จับเวลาจากนาฬิกาที่มีถึงสามคน จากทั้งสองฝ่าย ก็ได้ตะโกนบอกว่า “ครบชั่วโมงแล้ว”
 
  เสียงฆ้องเสียงระฆัง จึงตีรัวดังขึ้น ตามที่นัดหมายกันไว้ นาทีนั้นโดยไม่มีใครคาดคิด นายเหลี้ยง ผู้ที่ทำการจุดไฟรีบวิ่งเข้าไปยังกองไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ แม้จะเริ่มมอดลงบ้างแล้วแต่ก็ยังมีไฟลุกอยู่เป็นส่วนมาก แต่ นายเหลี้ยง ไม่นำพาและไม่ได้หวาดหวั่นกับไฟที่ยังคุกรุ่นเหล่านั้นเลย กลับเดินแหวกควันไฟเข้าไป พร้อมเอามือช้อนลงอุ้มศพของพ่อท่านขึ้นให้ทุกคนดู ปรากฏว่าศพของพ่อท่านเป็นปกติ ไม่มีร่องรอยใดๆ ให้เห็นว่าผ่านการถูกเผามาเลย แม้แต่จีวรก็ยังเหลืองอร่ามไม่มีร่องรอยถูกเผาเช่นกัน

ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ จึงต่างส่งเสียงดังลั่น ส่วนนายเหลี้ยง ที่ใช้มือช้อนใต้ศพ จึงถูกเหล็กรองโลงศพเข้าเต็มๆ แต่แทนที่เหล็กจะร้อนเพราะถูกไฟเผา ปรากฏว่าเหล็กรองโลงศพพ่อท่านเขียวกลับเย็นเฉียบ ไม่มีความร้อนดั่งเช่นเหล็กที่ถูกไฟเผามาก่อนเลย ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างงงงวยกันยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเป็นเรื่องที่สุดอัศจรรย์โดยแท้ พอได้สติบรรดาญาติโยมต่างเฮโลไปรุมฉีกจีวรของพ่อท่านเก็บไว้ จนจีวรที่ห่อหุ้มร่างของพ่อท่านหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ
 
  เรื่องที่เล่ามานี้นับเป็นเรื่อง “อัศจรรย์” และ “เหลือเชื่อ” อย่างยิ่ง แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพพ่อท่าน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ทุกคนยืนยันได้ เพราะผู้ที่เล่าเหตุการณ์นี้ก็คือ “นายเหลี้ยง ชนะเสน พระครูพิบูลย์ศีลาจารย์ ท่านอาจารย์ขำ วัดหงษ์แก้ว” รวมทั้ง “นายตั้ง” ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ไปร่วมงาน ต่างยืนยันได้ทุกคน แสดงว่าบุญบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของ “พ่อท่านเขียว” นั้นยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะเพียงแค่ “ท่านมรณภาพแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย” ก็ถือว่าอัศจรรย์อยู่แล้ว แต่นี่ “เผาไม่ไหม้” แม้แต่จีวรที่ห่อหุ้มร่างกายท่านก็ยังไม่ไหม้อีกด้วย

ปัจจุบัน “ศพของพ่อท่าน” ก็แข็งเป็นหินไปแล้ว สรีระของท่านแข็งและแกร่งมาก แต่คงเค้ารูปแบบเดิมทุกประการเพียงแต่แห้งลงไปบ้างเท่านั้น ขณะนี้ทางวัดได้นำ “สรีระของท่าน” ใส่โลงแก้วไว้ เพื่อให้ผู้คนทั่ว ไปได้กราบ ไหว้บูชาและได้ชม สรีระของพ่อท่านด้วยตัวเอง เพราะหากใครได้ไปกราบ “ร่างพ่อท่าน” สักครั้ง ก็นับเป็นบุญอย่างยิ่ง


 ย่อจากบทความของ ‘แฉ่ง บางกะเบา’
จาก นสพ.เดลินิวส์ วันที่ 1 กันยายน 2550










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2018, 01:43:23 PM โดย thesun »



710..พระซุ้มกอเนื้อดิน หลวงพ่อยี ปญญภาโร วัดดงตาก้อนทอง พิษณุโลก พระสงฆ์ที่มีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์มาก
สภาพสมบูรณ์ หายาก นิยม
1,200





หลวงพ่อยีได้ร่ำเรียนกรรมฐานจนได้อภิญญาสมาบัติ สามารถบิณฑบาตรข้าวเทวดาโดยการนำเอาบาตรที่ว่างเปล่าไปขอข้าวเทวดาที่หน้าต้นไม้ ดูแล้วก็ไม่หน้าจะมีอะไรขึ้นมาได้ แต่กลับปรากฏข้าวสีเหลืองอ่อนๆมีกลิ่นหอม พร้อมทั้งดอกไม้แปลกๆบางครั้งมีลูกประคำทองคำปรากฏขึ้นมาด้วย หลวงพ่อยีสามารถคว้าเหรียญเงินสมัยรัชกาลที่ ๔ ในอากาศได้แล้วยืดเหรียญเงินแข็งๆให้เหนียวคล้ายยืดตังเม เสร็จแล้วตัดเป็นท่อนเล็กๆม้วนเป็นตะกรุดแช่ลงในน้ำมนต์ตักขึ้นมากลายเป็นตะกรุดทองคำแท้ ท่านสามารถหุงข้าวธรรมดาให้กลายเป็นทองคำ สามารถเสกกระดาษธรรมดากลายเป็นธนบัตร สามารถเสกน้ำเปล่าๆ น้ำเหล้า น้ำมะพร้าวให้กลายเป็นพระสมเด็จ สามารถเสกยารักษาบำบัดโรคต่างๆให้ผู้คนใช้รักษาบำบัดจนหายจากอาการเจ็บป่วยโรคภัยทั้งหลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ทั้งยังมีญาณหยั่งรู้ในความคิดของสัตว์และคนรู้เหตุการณ์ในอดีตล่วงมาแล้วและอนาคตที่ยังมาไม่ถึงอย่างแม่นยำ การสร้างปาฏิหาริย์ทั้งหลายหลวงพ่อยีมักบอกว่าท่านไม่ได้ทำแต่ทุกครั้งท่านจะส่งกระแสจิตไปหาหลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่ใหญ่ท่านมาช่วยทุกครั้งไป

หลวงพ่อยี พระผู้ทรงอภิญญา ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงปู่โลกอุดร

านเจ้าคุณถาวร จิตตถาวโรคือบุคคลที่หลวงพ่อยี ทำนายไว้ว่าจะมาช่วยทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทอง นอกจากนี้ท่านเจ้าคุณถาวรยังได้สมบัติต่างๆของหลวงพ่อยีรวมทั้งตำราต่างๆและต่อมาท่านได้ทดลองวิชาตามหลวงพ่อยีก็ปรากฏว่าสำเร็จเป็นที่น่าอัศจรรย์ ดังเช่นการนำไข่ยอดบายศรีมาทุบให้ละเอียดแล้วนำมเผา ท่านเจ้าคุณถาวรทำตามตำราปรากฏว่าไข่ยอดบายศรีกลายเป็นทองคำอย่างน่าอัศจรรย์ ปัจจุบันนี้ไข่ทองคำได้นำไปถวายให้แก่หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี หรือการนำเอาข้าวทิพย์ของหลวงพ่อยีที่ได้จากการบิณฑบาตรเทวดามาทดลองหุงรวมกับข้าวธรรมดาดูปรากฏว่าข้าวธรรมดาทั้งหมดพลอยกลายเป็นข้าวทิพย์ตามไปด้วยมีกลิ่นหอมแปลกประหลาดฟุ้งไปทั่วกุฏินับเป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้เป็นสักขีพยานทั้งสิ้น

            ปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อยีมีมากมายเช่นท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้ เป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้วเป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้ว













711.พระนางพญา หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพ จ.นครพนม ปี2500 จัดสร้างพร้อมกับพระสมเด็จ    600-




 เนื้อหามวลสารของพระเนื้อผงหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ นครพนม รุ่นแรก ปี2500 นอกจากจะประกอบไปด้วยผงพุทธคุณและน้ำมันงาเสกของหลวงปู่เองแล้ว
ยังมีผงของพระสมเด็จกรุบางขุนพรหมที่แตกหัก และผงโสฬสมหาพรหม อันโด่งดังของหลวงปู่ศรีทัต วัดท่าดอกแก้ว อำเภอท่าอุเทน
พระอาจารย์ของท่านที่มอบให้มาเป็นส่วนผสมอีกด้วย ผู้ที่บูชาพระพิมพ์ชุดนี้ติดตัวต่างมีประสบการณ์ต่างๆมากมายอันเป็นผลเนื่องมาจากพุทธคุณที่  มีประจุอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

 ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งของหลวงปู่คำพันธ์ นำพระสมเด็จวัดระฆังกับพระสมเด็จหลวงปู่จันทร์

ไปสอบถามหลวงปู่คำพันธ์ว่า พระทั้งสองนี้เป็นอย่างไร

หลวงปู่คำพันธ์ตอบว่า เหมือนไข่เป็ดกับไข่ไก่

ด้วยความยังงงๆ ลูกศิษย์กลุ่มนี้เลยถามต่อว่า ยังไงหรือครับหลวงปู่

เป็นไข่เหมือนกัน ต่างกันนิดเดียว พุทธคุณแทบไม่แตกต่าง(ก็พระสมเด็จหลวงปู่จันทร์ผสมผงบางขุนพรหมนี่เอง)






712.เหรียญพระลีลากำแพงนิ้ว (พระลีลายอดอัฏฐารส) พิธีพระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ จ.พิษณุโลก ปี07 เนื้อทองเหลือง หลังตอกโค๊ดนารายณ์เหยียบโลก
 พระดี พิธีใหญ่ ใช้แทนพระกริ่งที่ราคา หลายๆหมื่นได้เลยครับ
800-

พระลีลาอัฏฐารส หรือพระลีลากำแพงนิ้วนี้สร้างและปลุกเสกพร้อมพระกริ่งนเรศวรรุ่นแรก พ.ศ.2507 ได้มีขั้นตอนในการจัดสร้างที่พิถีพิถันมากนับแต่การเสาะหาโลหะทั้ง 9 ชนิด
ได้แก่ 1.ทองคำ 2.เงิน 3.ทองแดง(เถื่อน) 4.จ้าวน้ำเงิน(เจ้าน้ำเงิน) 5.เหล็กละลายตัว 6.ดีบุก 7.ชิน 8.สังกะสี 9.ตะกั่ว(เถื่อน) เมื่อได้โลหะมาครบทั้ง 9 ชนิด
แล้วได้นำโลหะทั้งหมดดังกล่าวมาประกอบพิธีหลอมละลายให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำมาแผ่ให้เป็นแผ่นบางๆและนำมาถวายให้พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเยี่ยมยอดในยุคนั้น
ลงอักขระเลขยันต์ตามตำราโบราณ

พระสูตร พระปริตร จากบท ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน พระธรรมจักรกัปปวัฏตนสูตร พระปาฏิโมกข์สูตร ฯลฯ
๒.พระคาถาชินบัญชร
๓.พระคาถารัตนมาลา
๔.พระคาถาทิพย์มนต์
๕.นะปถมัง ๑๔ นะ
๖.ยันต์ไตรสรณาคมน์
๗.ยันต์พิชัยสงคราม
๘.ยันต์ตรีนิสิงเห
๙.ยันต์พระเจ้าสิบชาติ
๑๐.ยันต์จตุโร ฯลฯ

วัตถุมงคลชุดนี้ได้รับกระทำพิธีหล่อเททองเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๗ ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก โดยมีสมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กทม. สมัยเป็นสมเด็จพระวันรัต เป็นประธานในพิธีเททอง ในพิธีเททองหล่อองค์พระนั้น ได้ประกอบพิธีถูกต้องทั้งทางพุทธศาสนาและพราหมณ์ มีพระสงฆ์จับสายสิญจน์เจริญพระพุทธมนต์สวดชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์แกว่งบัณเฑาะว์ประโคมฆ้องชัยและดนตรีผสมผสาน
ในระหว่างพิธีเททองกำลังดำเนินไป ได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ ปรากฏต่อพระคณาจารย์และผู้เข้าชมพิธี คือได้เกิดสายฝนโปรยปรายละอองลงมาในบริเวณปริมณฑลพิธี แต่ปริมณฑบรอบนอกฝนกลับตกลงมาอย่างหนัก และในตอนกลางคืนขณะที่พิธีพุทธาภิเษกและพระคณาจารย์กำลังนั่งปลุกเสก ก็เกิดมีเหตุการณ์มหัศจรรย์ คือดวงจันทร์ทรงกลด ท่ามกลางความปีติยินดีแก่ผู้อยู่ในพิธีและเห็นเหตุการณ์เป็นยิ่งนัก

สำหรับพิธีพุทธาภิเษกและปลุกเสกวัตถุมงคลชุดนี้ได้จัดกระทำขึ้นในวิหารพระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก ในตอนกลางคืนวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๗โดยมีพระคณาจารย์หลายท่านที่มาร่วมพิธี ซึ่งส่วนมากเป็นพระคณาจารย์ที่ได้เมตตาลงอักขระในแผ่นโลหะที่ใช้ผสมเป็น เนื้อหาของวัตถุมงคล ได้แก่

1.พระเทพสิทธินายก(นาค) วัดระฆังฯ ธนบุรี กทม.
2.พระโสภณปัญญาจารย์ วัดปทุมวราราม ปทุมวัน กทม.
3.พระครูจันทรโสภณ(นาค) วัดนรนาถสุทริการาม เทเวศน์ กทม.
4.พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดาราม กทม.
5.หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง
6.หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย จ.สุโขทัย
7.หลวงพ่อวัง วัดบ้านด่าน จ.ตาก
8.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
9.หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
10.หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์
11.หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
12.พระอาจารย์บุญโสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง
13. หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง จ.พิจิตร
14.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
15.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
16.พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช
17.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
18.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
19.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี

พระลีลากำแพงนิ้ว พิธีเดียวกันกับ พระกริ่งนเรศวร ปี 2507 พระชุดนี้ปลุกเสกพร้อมกับพระกริ่งนเรศวรรุ่นแรก เมื่อปี 2507 ประกอบพิธี
 ณ. บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทร์เก่า ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเททองเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2507 นับเป็นครั้งแรกของจังหวัดพิษณุโลก
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อหาทุนสร้างตึกวิทยาศาสตร์ ให้ ร.ร. พิษณุโลกพิทยาคม โดยการดำเนินการจัดสร้างของสมาคมศิษย์เก่า พิษณุโลกพิทยาคม
 พุทธลักษณะของพระลีลากำแพงนิ้ว หรือลีลายอดอัฎฐารสจะคล้ายกับพระกำแพงศอก กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี (ส่วนมากเรียกว่า พระกำแพงนิ้ว)
ด้านหน้าเป็นพระพุทธรูปปฎิมากรปางลีลาแบบสุโขทัย ประทับอยู่ในซุ้มแจกัน พระมีขนาด 1.5 X 4 ซ.ม. เนื้อทองผสม ด้านหลังเป็นตัวหนังสือเขียนว่า"
ในงานพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งนเรศวร พิศณุโลก ๒๕๐๗"ด้านหลัง มีตอกโค้ดพระวิษณุ พิธีกรรมในการจัดสร้างพิถีพิถันมากนับตั้งแต่แต่ขบวนการรวบรวมชนวนมวลสารต่างๆ
การออกแบบองค์พระก็มีพุทธลักษณะที่งดงาม พิธีการปลุกเสก มีเกจิอาจารย์ในยุคปี 2500 มาร่วมพิธีกันหลายท่านครับ
อาทิ หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสะต๋อย เชียงใหม่, ครูบาวัง วัดบ้านแท่น จังหวัดตาก, หลวงพ่อนิยม วัดคูหาสวรรค์ พิษณุโลก, หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์,
หลวงพ่อเขียน สำนักถ้ำขุนเณร พิจิตร, หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง พิจิตร, หลวงพ่อทวี วัดโรงช้าง พิจิตร, หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว นครสวรรค์, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี,
หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม อยุธยา, หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแลงเหนือ อยุธยา, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม., หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี,
พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช, พ่อท่านบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช, พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง ฯลฯ












713.เหรียญพระเจ้าตากสิน ค่ายอดิสร สระบุรี ปี14 พระดีพิธีใหญ่ ใช้แทนพระกริ่งที่ราคาหลักหมื่นแล้วได้เลยครับ 700-

พระเครื่องประจำตัวทหารม้าค่ายอดิศร สระบุรี
เหรียญพระเทริดขนนกและเหรียญพระเจ้าตากค่ายอดิศร สระบุรี

พระเทริดขนนกและเหรียญพระเจ้าตากสิน ค่ายอดิสร สระบุรีพิธีเดียวกับพระกริ่งตากสินพิธีสุดเข้มขลัง ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2514 โดยมีพล.อ เปรม ตินสูลานนท์ เป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส และมีอาจารย์ไสว สุมโณ วัดราชนัดดาเป็นเจ้าพิธี ในการสร้างได้มีการผสมเนื้อชนวนโลหะจากบรรดาคณาจารย์ต่างๆและนิมนต์สุดยอดพระเกจิในยุคนั้นร่วมพิธีพุทธาภิเษกถึงเกือบ 100 รูปพระเกจิที่ดังๆ เช่นสมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น) วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์
หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง
หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม
หลวงปู่สาม วัดไตรวิเวก
หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย
หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง
หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน
หลวงพ่อผัน วัดราษฏร์เจริญ
หลวงพ่อเชน วัดสิงห์
หลวงพ่อ คร้าม วัดกุ่มหัก
หลวงพ่อเกษม เขมโก
ฯลฯ
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 17, 2018, 04:59:31 PM โดย thesun »



714.เหรียญแปดเหลี่ยม หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี รุ่นแรก ปี37 มีจาร หายาก ยอดนิยม เหรียญที่มีประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะด้านคงกระพัน มหาอุด เป็นเยี่ยม
สวยๆ ประกวดได้
2200- พื้นที่แพงมากครับต้องมีสี่ถึงห้าพันครับ นานๆเจอที ศิษย์เก็บหมดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ปิดท่าน j999

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2018, 09:51:40 AM โดย thesun »



715.เหรียญรุ่นแรกพิมพ์หยดน้ำ(แจกแม่ครัว)  หลวงปู่เครือง วัดสระกำแพงใหญ่  ปี19 กะไหล่ทองกรรมการ สวยแชมป์ สร้างน้อย 1000-


ปิดท่าน j999
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2018, 09:51:51 AM โดย thesun »



715.เหรียญรุ่นแรกพิมพ์หยดน้ำ(แจกแม่ครัว)  หลวงปู่เครือง วัดสระกำแพงใหญ่  ปี19 กะไหล่ทองกรรมการ สวยแชมป์ สร้างน้อย 1000-







ขอจองครับ



714.เหรียญแปดเหลี่ยม หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี รุ่นแรก ปี37 มีจาร หายาก ยอดนิยม เหรียญที่มีประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะด้านคงกระพัน มหาอุด เป็นเยี่ยม
สวยๆ ประกวดได้
2200- พื้นที่แพงมากครับต้องมีสี่ถึงห้าพันครับ นานๆเจอที ศิษย์เก็บหมดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เนื้อเงินราคาไปไกลหลายหมื่นแล้วครับ เก็บทองแดงยังพอเก็บได้ครับ



หลวงพ่อเพี้ยน เกิดในสกุล ยอดวัด เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล พุทธศักราช 2470 ที่บ้านเกริ่นกฐิน ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรีชีวิตในวัยเยาว์ หลัจบการศึกษาภาคบังคับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นก็ช่วยเหลือครอบครัวในการประกอบอาชีพทำนา จวบกระทั่งถึงวัยแห่งการครองเรือน แต่ภายหลังเกิดความเบื่อหน่าย จึงหันหน้าเข้าสู่เส้นทางธรรม

ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2519 ณ พัทธสีมาวัดกำแพง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยมีหลวงพ่อเจือ เจ้าอาวาสวัดกำแพง เป็นพระอุปัชฌาย์

ได้รับฉายา "อคฺคธมฺโม" มีความหมายว่า "ผู้มีธรรมอันยอดเยี่ยม"

ภายหลังเข้ารับการอุปสมบท ได้ย้ายไปพำนักที่วัดเกริ่นกฐิน เพื่อบำเพ็ญสมณกิจ สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา และได้มีโอกาสได้ร่ำเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อปาน เจ้าอาวาสวัดเกริ่นกฐิน ในยุคนั้น รวมไปถึงการได้ทบทวนสรรพวิชาเข้มขลังจากแผ่นดินกัมพูชา ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากโยมบิดาของท่าน

สำหรับหลวงพ่อปาน พระเกจิเรืองอาคม เป็นพระภิกษุที่สัญจรมาจากประเทศกัมพูชาเช่นกัน ซึ่งหลวงพ่อปานได้กล่าวเน้นย้ำเป็นการเตือนสติอยู่เสมอว่า "คนเราจะทำการใดๆ ต้องมีจิตที่มุ่งมั่น ตั้งใจในการศึกษา หัวใจของการศึกษาวิชาอาคมให้บังเกิดผล ถึงความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเริ่มที่สติ เมื่อสติมั่นคงก็จะบังเกิดเป็นสมาธิ สมาธิจะทำให้เกิดปัญญา สามารถทำจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเมื่อถึงขั้นนั้น จะทำสิ่งใดๆ ย่อมได้ผล"

ดังนั้น เมื่อท่านได้ฝึกจิตตามแนวทางของหลวงพ่อปาน ทำให้การเรียนด้านวิชาอาคม บังเกิดความก้าวหน้า และได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านที่ประสบเคราะห์ซ้ำกรรมซัดต่างๆ นานา โดยท่านได้ใช้อำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ รวมทั้งวิทยาคม ใครถูกคุณไสยมนต์ดำ อวิชชาชั้นต่ำ สรรพวิญญาณดุร้ายเข้าสิงร่าง ใช้มนต์คาถากำราบ ใครเจ็บป่วยเป็นไข้ป่า ใช้ยาสมุนไพรรักษา

สามารถพลิกผันเปลี่ยนขาวเป็นดำ บำบัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ ชื่อเสียงร่ำลือระบือไกล

ต่อมาในปี พ.ศ.2521 วัดเกริ่นกฐิน ร้างเจ้าอาวาสปกครอง ญาติโยมได้พากันไปร้องต่อพระผู้ใหญ่จังหวัดลพบุรี ขอให้แต่งตั้งหลวงพ่อเพี้ยน เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งได้รับการตอบสนองตามคำร้องขอเป็นอย่างดี

ภายใต้การปกครองดูแลวัดเกริ่นกฐิน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 จนถึงปัจจุบัน วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเพี้ยนไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ดำรงตนอย่างสมถะ เป็นพระชาวบ้านธรรมดา แต่ว่าเข้าถึงจิตใจคนทุกระดับชั้น ไม่มีการเลือกชั้นวรรณะของผู้ที่ขอเข้าไปกราบนมัสการ

หลวงพ่อเพี้ยน ได้ย้อนอดีตถึงปฐมเหตุแห่งการเป็นพระผู้เสก ว่า ในคราแรก เลือกมาพำนักที่วัดเกริ่นกฐิน ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา เพื่อปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อปาน ที่กำชับเอาไว้ สิ่งที่เริ่มต้น คือ การเจริญภาวนาทำให้เกิดจิตที่มั่นคง เป็นสมาธิ

วันหนึ่ง ในราวพรรษาที่ 3 ท่านมีกิจนิมนต์ ต้องเดินทางจากวัดไปยัง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี โดยเส้นทางจากหมู่บ้านเกริ่นกฐิน สู่ถนนสายหลักท่าโขลง-บ้านหมี่ ห่างไกลพอสมควร จำต้องเดินผ่านทุ่งนา ในบางช่วงต้องเดินผ่านป่าละเมาะ สองฟากทางรกทึบมาก

หลวงพ่อเพี้ยน เดินทางออกจากหมูบ้านเกริ่นกฐินเพียงเล็กน้อย ได้พบเห็นการกระทำของโจรร้ายกำลังปล้นชิงทรัพย์ของชาวบ้าน แต่เจ้าทรัพย์ ต่อสู้ขัดขืน จึงถูกคนร้ายใช้มีดแทงจนถึงแก่ความตาย ไปต่อหน้าต่อตา

ท่านบังเกิดความเวทนาต่อชาวบ้านผู้เคราะห์ร้ายเป็นยิ่งนัก เมื่อเดินทางกลับวัด ได้ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ความคิดว่า หากชาวบ้านผู้นั้นมีวัตถุมงคลคุ้มครองป้องกันตัว อาจแคล้วคลาดภยันตรายได้อย่างแน่นอน

ความคิดดังกล่าว ทำให้หลวงพ่อเพี้ยน มุมานะในการพลิกฟื้นตำรา ทั้งของโยมบิดาและหลวงพ่อปาน ที่ได้กำชับถึงหัวใจแห่งการร่ำเรียนวิชา โดยเฉพาะพระคาถาอาคม เมื่อรำลึกถึงคำสอน หลวงพ่อจึงเร่งในการภาวนาจิตอย่างจริงจัง และเริ่มทำการจัดสร้างของขลังเป็นครั้งแรก เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ใกล้ชิดเอาไว้เพื่อเป็นการป้องกันและคุ้มครองตัวเอง ได้แก่ "ตะกรุดโทน"

กว่าจะสำเร็จเป็นตะกรุดโทน มิใช่เรื่องง่ายดาย แผ่นโลหะแต่ละแผ่น เมื่อได้จารอักขระเลขยันต์ตามตำรับ กว่าจะบรรลุเป้าหมายถึงขั้นนำไปใช้ได้ ต้องผ่านขั้นตอนพิธีกรรมอันสำคัญ คือ การจารตะกรุดใต้น้ำ หลวงพ่อเพี้ยนจะต้องดำลงใต้น้ำ เพื่อทำการจารอักขระ ซึ่งเป็นหัวใจของพระคาถาด้านมหาอุด และคงกระพันชาตรี

"ตะกรุดโทน" หลวงพ่อเพี้ยน สร้างประสบการณ์ลือลั่นท้องทุ่งบ้านหมี่ รวมทั้งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในหมู่นักนิยมสะสมวัตถุมงคลของขลัง แต่ปัจจัยจากการเช่าบูชาทุกบาททุกสตางค์ หลวงพ่อไม่เคยนำเข้าพกเข้าห่อใช้จ่ายส่วนตัว แต่ท่านจะนำปัจจัยไปใช้ในด้านการพัฒนาวัดวาอาราม

ปัจจุบันหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ละสังขาร  สังขารไม่เน่าเปื่อยแต่อย่างใด
















ขอจองครับ



715.เหรียญรุ่นแรกพิมพ์หยดน้ำ(แจกแม่ครัว)  หลวงปู่เครือง วัดสระกำแพงใหญ่  ปี19 กะไหล่ทองกรรมการ สวยแชมป์ สร้างน้อย 1000-


714.เหรียญแปดเหลี่ยม หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี รุ่นแรก ปี37 มีจาร หายาก ยอดนิยม เหรียญที่มีประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะด้านคงกระพัน มหาอุด เป็นเยี่ยม
สวยๆ ประกวดได้
2200- พื้นที่แพงมากครับต้องมีสี่ถึงห้าพันครับ นานๆเจอที ศิษย์เก็บหมดทั้งในประเทศและต่างประเทศ





ขอจองครับ
ขอจองครับ

ขอบพระคุณครับ



716.พระปิดตาพุทธเมตตาทรงไก่ รุ่นแรก หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ปี24 เนื้อเทา หายากมาก วัตถุมงคลยอดนิยมอันดับหนึ่งของหลวงปู่วิเวียรที่ลูกศิษย์ต่างหวงแหน
และเป็นที่ต้องการมากเนื่องจากของหมุนเวียนน้อย  เด่นมากทางเมตตาค้าขาย แถมเมตตามหาเสน่ห์จนหลวงปู่ต้องให้นำไปบรรจุกรุทั้งหมดหลังแจก
จ่ายออกไปได้เพียงบางส่วน
รุ่นนี้สายตรงเปิดราคา ออกตัวกันเป็นหมื่นขึ้นนะครับ ผมให้บูชาในราคา 6,000-
ปิดท่าน J999

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2018, 11:23:13 AM โดย thesun »



716.พระปิดตาพุทธเมตตาทรงไก่ รุ่นแรก หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ปี24 เนื้อเทา หายากมาก วัตถุมงคลยอดนิยมอันดับหนึ่งของหลวงปู่วิเวียรที่ลูกศิษย์ต่างหวงแหน
และเป็นที่ต้องการมากเนื่องจากของหมุนเวียนน้อย  เด่นมากทางเมตตาค้าขาย แถมเมตตามหาเสน่ห์จนหลวงปู่ต้องให้นำไปบรรจุกรุทั้งหมดหลังแจก
จ่ายออกไปได้เพียงบางส่วน
รุ่นนี้สายตรงเปิดราคา ออกตัวกันเป็นหมื่นขึ้นนะครับ ผมให้บูชาในราคา 6,000-


"ถ้าหาปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ไม่ได้ ให้หาปิดตาขี่ไก่ หลวงปู่วิเวียรใช้แทน" คำกล่าวในหมู่ลูกศิษย์

ขอนำประวัติการสร้างพระรุ่นนี้มาลงให้อ่านครับ

การปลุกเศกหลวงปู่วิเวียรได้ทำการปลุกเศกเดี่ยวตลอดไตรมาส 3 เดือน 1 พรรษา วัตถุมงคลชุดนี้เดิมทีจะจัดพิธีพุทธาภิเษก พอไปนิมนต์หลวงปู่ทองอยู่ วัดใหม่หนองพระอง ที่จังหวัดสมุทรสาคร หลวงปู่ทองอยู่บอกว่าไม่ต้องจัดงานให้เปลืองเงินหรอก ให้ท่านพระครูวิเวียรปลุกเศกเองก็พอแล้ว อยู่กับของดีไม่รู้จักอะไรแล้วหรือ กลับไปที่วัดบอกหลวงปู่วิเวียรฟังว่า หลวงปู่ทองอยู่สั่งมาอย่างนี้ หลวงปู่วิเวียรก็หันหน้าไปทางวัดหลวงปู่ทองอยู่แล้วยกมือขึ้นไหว้หร้อมกับพูดว่า ถ้าอย่างนั้นให้เอาพระทั้งหมดนี้ใส่รถไปให้หลวงปู่ทองอยู่ท่านปลุกเศกให้ที่วัดใหม่หนองพระอง แล้วจะเห็นอะไรดีดีจากหลวงปู่ทองอยู่ วันรุ่งขึ้นก็ได้จัดการเอาพระเครื่องทั้งหมดบรรทุกรถไปให้หลวงปู่ทองอยู่ท่านปลุกเศกให้ พอไปถึงวัดใหม่หนองพระอง ก็พบกับศิษย์หลวงปู่ทองอยู่คอยอยู่แล้ว และได้บอกว่าให้เอาพระทั้งหมดเข้าไปในห้องพระที่เป็นห้องกระจกของหลวงปู่ทองอยู่ หลวงปู่ทองอยู่ท่านให้จัดสถานที่คอยไว้แล้วเวลาบ่ายสองโมง หลวงปู่ทองอยู่ท่านจะตื่นมาปลุกเศกให้ ท่านสั่งไว้อย่างนี้จนถึงเวลาบ่ายสองโมง หลวงปู่ทองอยู่ก็ตื่นจากจากจำวัด ท่านบอกว่าเดี๋ยวคอยเดี๋ยวยังไม่ถึงเวลา หลวงปู่ทองอยู่นั่งฉันน้ำแล้วถามว่าพระครู (หมายถึงหลวงปู่วิเวียร) สั่งมาอย่างไรบ้าง ก็เลยตอบท่านไปว่าหลวงปู่วิเวียรบอกว่าให้เอาพระมาให้ปลุกเศกให้และให้คอยดูของดีดีจากหลวงปู่ หลวงปู่ทองอยู่นั่งยิ้มแล้วส่ายหน้า จากนั้นหลวงปู่ทองอยู่ก็ลุกไปนั่งปลุกเศกพระให้จนถึงเวลาประมาณหกโมงเย็น ในระหว่างที่หลวงปู่ทองอยู่ท่านนั่งปลุกเศกให้นั้นจะได้ยินเสียงดังกริ๊กๆๆ อยู่ตลอดเวลา พอเสร็จพิธีหลวงปู่ทองอยู่ท่านลุกออกมาท่านก็บอกว่าพระที่ตกอยู่ข้างนอก ข้างๆบาตรพระ เก็บไว้ให้ดีนะของดีนะของดีทีเดียว ท่านพระครูวิเวียรท่านก็ปลุกเศกมาดีแล้วยังมารบกวนกันอีก พอเข้าไปเอาพระออกมาก็พบว่ามีพระตกอยู่ข้างบาตร 5 องค์จริงๆ จึงเก็บเอามาแบ่งกันคนละองค์ รวมทั้งศิษย์ของหลวงปู่ทองอยู่ด้วยเป็นพระผงปิดตาทรงไก่ทั้ง 5 องค์เมื่อขนพระขึ้นรถเสร็จแล้วก็มากราบลาหลวงปู่ทองอยู่ หลวงปู่ก็พูดว่าท่านพระครูวิเวียรเขาเศกมาทางเมตตา ฉันก็เลยเศกทางแคล้วคลาดให้ พระนี้เมตตาเยี่ยมจริงๆ ครับหลวงปู่ทองอยู่ท่านพูดอย่างนี้ให้ฟัง

การจัดสร้างพระชุดนี้สร้างขึ้นเพื่อแจกในงานทำบุญอายุครบ 5 รอบ 60 ปี ของหลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ปรากฏว่าพระผงปิดตาทรงไก่มีอภินิหารทางเมตตามากจนหลวงปู่วิเวียรท่านสั่งให้บรรจุกรุที่วัดดวงแขให้หมด จะมีออกมาก็ตอนที่หลวงปู่ท่านแจกในงานวันเกิดของท่านประมาณ 2,000 องค์ เท่านั้นเอง นอกนั้นบรรจุลงกรุหมดเลย ทำให้พระผงปิดตาทรงไก่ปีนี้ มีคนมาหากันมาก ใครมีไว้ก็หวงแหนกันมาก วัตถุมงคลชุดนี้จึงปลุกเศกกันเพียงสององค์นี้เท่านั้น

ข้อมูลจากหนังสือ รวมภาพวัตถุมงคล หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ปี 2537 และ คุณนิพนธ์ คันทรง ไวยาวัจกรวัดดวงแข


พระปิดตาพุทธเมตตาทรงไก่1.ปี2524
@พระอรหันตรมหาเถรลักษณะ
-ด้านหน้า เป็นรูปพระภควัมบดีนั่งปิดตา
ขัดสมาธิเพชร เหนือพระเศียรมีพระคาถา
พระเจ้า5พระองค์"นะโมพุทธายะ" ใต้พระบาทมีไก่หากิน1.ตัว หันหัวไปทาง
ซ้ายมือองค์พระ ขวามือเรา รูปทรงเม็ดบัว
-ด้านหลังเรียบอูมเล็กน้อย ไม่มียันต์
(ที่มีจารหลวงปู่จารให้ทีหลังการแจก)
@เนิ้อหามวลสาร
-เนื้อผงลบผงเศกผงตำ+เกษร+ว่าน108+
ดินกากยายักษ์ เนื้อพระสีขาวเหลือง
และสีเทาดำ มีแบบฝังตะกรุดเงิน และไม่
ฝังตะกรุด


ปิดตาชุดนี้เกือบทั้งหมด หลวงปู่ท่านให้บรรจุลงกรุ เนื่องจากว่ามีลูกศิษย์ที่ได้รับไป ได้นำพระไปขูดแล้วนำผงไปให้ผู้หญิงกิน นำไปใช้กันในทางที่ไม่สมควร
 จนเป็นที่ฮือฮา เมื่อหลวงปู่ทราบจึงสั่งให้นำพระที่เหลือบรรจุกรุ จึงทำให้พระหมุนเวียนในตลาดมีน้อยมาก คนที่มีจึงหวงแหนกันมาก













ขอจองครับ



717.วัตถุมงคลชุด มหาลาภ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน 500-








718.เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ดิรันต์ ถามวโร วัดท่าสะอาด จังหวัดบึงกาฬ ปี54 เนื้อนวโลหะ สร้างน้อย 700-

ปิดท่าน j999
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 29, 2018, 02:27:18 PM โดย thesun »




 

ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi