1120.พระกริ่งครึ่งซีก เนื้อดิน พิมพ์ใหญ่ เจ้าคุณศรีสนธิ์ วัดสุทัศน์ กทม. ปี2484 พระดีพิธีใหญ่ ราคาเบา ใช้แทนพระกริ่ง วัดสุทัศน์เนื้อโลหะ
พิธีเดียวกันที่ราคาไปหลักแสนแล้วได้เลยครับ พระดีพุทธคุณแรงๆ เปิดบูชาเบาๆเลี่ยมโบราณเก่าๆแบบ สามมิติ 1000- ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญานมุนี(สนธิ์) ท่านนี้ไม่ได้สร้างเฉพาะแต่พระกริ่งพระชัยวัฒน์เนื้อโลหะอย่างเดียวนะครับ ท่านยังได้สร้างพระชัยวัฒน์ เนื้อผงและเนื้อดินไว้ด้วย ซึ่งนักนิยมสะสมพระมักจะมองไปที่พระกริ่งและพระชัยวัฒน์ที่เป็นเนื้อโลหะ แต่เดี๋ยวนี้ท่านจะไปหาได้ที่ไหน สร้างแต่ละครั้งก็ไม่มาก หาได้แต่ต้องใช้ทุนทรัพย์แสนแพง แต่เรายังมีทางเลือกครับ ในเมื่อเนื้อโลหะหาไม่ได้เพราะแพง เราก็หันมาหาพระกริ่ง พระชัยวัฒน์เนื้อผงและเนื้อดินแทนก็แล้วกัน
พิธีปลุกเสกก็เป็นเกจิอาจารย์เก่งๆที่สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ทรงคัดเลือกให้นิมนต์มาปลุกเสกพระกริ่งพระชัยวัฒน์ในสมัยนั้น ซึ่งพระกริ่งพระชัยวัฒ์เนื้อผงเนื้อดินก็ได้เข้าร่วมในพิธีด้วยเสมอ
จึงไม่ต้องสงสัยอันใดเลยว่าพระกริ่ง พระชัยวัฒน์เนื้อผงเนื้อดินจะไม่มีพุทธคุณดีจริง เจ้าคุณศรี(สนธิ์) ได้สร้างพระเครื่องที่เป็นทั้งเนื้อดินและเนื้อผงมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่อยู่คณะ๑๓
และต่อมาย้ายเป็นเจ้าคณะ๑๑ท่านยังคงพิมพ์พระดังกล่าวเรื่อยมา ที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ทำกันอย่างจริงๆจังๆก็ในราวปี พ.ศ. ๒๔๘๒-๒๔๘๓ที่คณะ๑๑ พยานบุคคลที่ยืนยันความนี้คือ
ท่านเจ้าคุณแปะ (พระราชวิสุทธาจารย์ คณะ๖ วัดสุทัศน์) พระภิกษุสังวาลย์ วลาโภ (หลานเจ้าคุณศรี(สนธิ์) มาพำนักอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ เพื่อรับใช้เจ้าคุณศรี(สนธิ์)เมื่อครั้งอายุ ๙ ขวบ
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ และพำนักอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯโดยตลอดกระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ท่านยืนยันว่า เมื่อมาอยู่ก็เห็นเจ้าคุณศรี(สนธิ์)พิมพ์พระผงแล้ว)และอีกท่านหนึ่งที่ยืนยันหนักแน่นคือ คุณกฤษ์ ทัพพะรักษ์ เพราะท่านผู้นี้เป็นผู้ช่วยในการพิมพ์พระผงด้วย ทั้งยังเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดมาโดยตลอดระยะเวลาถึง ๑๘ ปีเต็ม ท่านยืนยันว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ เจ้าคุณศรีได้เร่งให้พิมพ์พระเป็นการใหญ่ โดยที่ท่านนั่งคุมอยู่ด้วยทั้งวัน ไม่ยอมละสายตาไปไหน และผู้ที่มาช่วยในการพิมพ์พระ ถ้าเป็นฆราวาส ก็ต้องนุ่งขาวห่มขาวถือศีล๘อย่างเคร่งครัด ต้องตั้งอกตั้งใจภาวนาพระคาถาตั้งแต่ปั้นเนื้อผงพระ-กดลงแม่พิมพ์-นำพระออกจากแม่พิมพ์ เมื่อขณะทำพระพิมพ์ก็ต้องระมัดระวังคำพูดจาไม่ให้พูดคำเพ้อเจ้อ ตลกโปกฮาเหลวไหล ทำน้ำมนต์หกเลอะเทอะท่านก็ดุ ให้มีการสำรวม ท่านว่าของจะดีอยู่ที่การเริ่มต้น และเจตนาที่เป็นกุศลเป็นที่ตั้ง มิใช่สักแต่พิมพ์เป็นพระเท่านั้น
..ส่วนผสมของพระรุ่นนี้ ก็มีผงวิเศษต่างๆที่เจ้าคุณศรี(สนธิ์) เขียน-ลบด้วยตนเอง เนื่องจากท่านได้ศึกษามาอย่างเจนจบ
ไม่ว่าจะเป็นผงมหาราช ปัถมัง อิทธิเจ พุทธคุณฯลฯ รวมเข้ากับพระเก่า พระชำรุดของวัดระฆังบ้าง พระกรุเก่าบ้าง ผสมกับว่านทั้งหลาย ๑๐๘ ชนิด
ผงธูป ผงเกสร ดอกไม้ เศษตะไบพระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) สำหรับพระเครื่องเนื้อดินนั้น ดินส่วนใหญ่ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)จะนำมาจากดินที่ขุดเสาเข็มสะพานพระบาท
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต้นบรมวงศ์จักรี รัชกาลที่๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์(สะพานพุทธ) ขณะที่ขุดดินทำเสาเข็ม ท่านใช้ให้คนไปขอดินบ่อยๆได้ยินท่านว่าเป็นดินที่ดี
และอยู่ในกลางใจเมืองไทย ดินเหล่านี้ท่านนำมาผสมกับดินจากสถานที่ต่างๆอีกมาก ผสมกับผงวิเศษและว่าน รวมทั้งเศษตะไบพระกริ่ง เมื่อพิมพ์พระแล้วจึงนำมาเผา
ซึ่งจะเป็นพระพิมพ์ที่เหมือนกับพระผงจึงจะกล่าวรวมกันดังนี้..
ประสบการณ์มากมายขอสังเขปไว้ดังนี้
ไฟไหม้... ชาวบ้านแถบตลาดพลูท่านหนึ่งได้ประสบกับเหตุการณ์ที่ลืมไม่ลง กล่าวคือไฟได้ลุกลามไหม้ละแวกบ้านของท่านผู้นี้ ด้วยความตกใจก็รีบร้อนขนเสื้อผ้าออกจากบ้านวิ่งหนีไฟอย่างชุลมุนวุ่ยวายเป็นที่สุด แต่เมื่อไฟดับลงแล้ว ปรากฎความว่าบ้านของท่านผู้นี้ตกอยู่ในวงล้อมของกองเถ้าถ่าน และคงเหลือบ้านของท่านผู้นี้ในสภาพที่ไม่ชอกช้ำเพราะเปลวไฟอยู่หลังเดียว ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเมื่อลมพัดโหมนำเปลวเพลิงที่ร้อนแรงพุ่งตรงเข้าหาบ้านหลังนี้ก็เกิดมีลมอีกกระแสหนึ่ง พัดกระโชกมาเปลี่ยนทิศทางของเปลวเพลิงอันร้อนแดงนั้นอยู่เสมอจนกระทั่งไฟดับ ท่านผู้นั้นไม่มีพระอะไรติดบ้าน นอกเสียจากพระชัยวัฒน์เนื้อผงของท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)อยู่องค์เดียว และก็ได้รับมาจากวัดสุทัศน์ฯ เมื่อคราวสงครามอินโดจีน ราว พ.ศ. ๒๔๙๕ นั้นเอง ต่อมาก็ลืมเลือนเนื่องจากไม่ได้เป็นผู้สนใจด้านพระเครื่อง ต่อมานึกได้ว่าเป็นพระที่ได้จากวัดสุทัศน์ฯ จึงได้เข้าไปในวัดเพื่อสอบถามหาท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)เพื่อขอรับพระอีกและได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์นี้ให้แก่พระภิกษุในวัดสุทัศน์ฯฟังหลายองค์ เป็นที่เสียดายว่าไม่สามารถติดตามชื่อและที่อยู่ของท่านผู้นี้มาแสดงให้กับท่านผู้อ่านได้ แต่ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและได้รับฟังมาจากผู้ที่เชื่อถือได้
...เลี้ยงบุตรง่าย...ท่านอาจารย์โรงเรียนวัดบางปะกอกวิทยาคมท่านหนี่ง(ขอสงวนนาม) เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เมื่อราว พ.ศ. ๒๔๙๕ ท่านได้รับพระกริ่ง พระชัยเนื้อผงจากหลวงพ่อพริ้ง
อดีดเจ้าอาวาสวัดบางปะกอกมาสององค์ แรกก็เข้าใจว่าเป็นของหลวงพ่อพริ้ง จึงนำมาให้บุตรแขวนติดตัวเพื่อป้องกันอันตราย ปรากฎว่ามีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับบุตรชายหลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุตกจากที่สูงก็ไม่ได้รับอันตราย ถึงกับบาดเจ็บโลหิตออก มีก็ฟกช้ำเท่านั้น สุนัขกัดก็ไม่เข้า นอกจากนี้ยังสังเกตว่าก่อนที่จะนำพระมาให้แขวนนั้นเป็นเด็กที่ขี้อ้อน
เลี้ยงยาก เจ็บป่วยบ่อยๆ แต่เมื่อมีพระชัยวัฒน์นี้แล้วก็กลับเป็นบุตรที่เลี้ยงง่าย ไม่เจ็บบ่อยเช่นที่เคยเป็น...
พระกริ่งพระชัยวัฒน์ ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) เนื้อดิน เป็นพระเก่าร่วม ๘๐ ปี เข้าไปแล้ว เป็นพระที่น่าใช้ เพราะพระที่ปลุกเสกก็เป็นพระเถราจารย์เก่งๆที่ไปมาหาสู่สมเด็จพระสังฆราช(แพ)
บ่อยๆ เช่นหลวงพ่อพริ้งองค์หนึ่งละ ถ้าไม่เก่งจริง กรมหลวงชุมพรฯ คงไม่ฝากตัวเป็นศิษย์แน่ และ หลวงพ่อพริ้งก็เป็นองค์หนึ่งที่ปลุกเสกพระรุ่นนี้
ร่วมกับเกจิอีกหลายองค์เมื่อคราวมีพิธีปลุกเสกพระกริ่งพระชัยวัฒน์ ของวัดสุทัศน์ฯ ท่านลองคิดดูว่าพระชัยเนื้อผงนี้น่าใช้เพียงใดแถมราคาก็ถือว่าถูกสุดๆ
เมื่อเทียบกับพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ เนื้อโลหะ