1
พระเครื่อง / ประสบการณ์หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง
« เมื่อ: เมษายน 23, 2018, 01:59:27 PM »
ขอเล่าประสบการณ์หลวงพ่อเกษม
ผมเคยไปกราบหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ๒ ครั้ง โชคดีได้กราบหลวงพ่อท่านทั้งสองครั้ง ครั้งแรกไปกับชุมทางพระเครื่องสะพานควาย เค้าจัดรถตู้ไปผมก็ไปร่วมกับคณะเค้า ประมาณปีพ.ศ. ๒๕๓๐ ยังเด็กเรียนมัธยมต้นอยู่เลย ไปในงานอธิษฐานจิตพระ ทางชุมทางพระเครื่องสะพานควายเค้ารู้จักกับเจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เลยได้เข้าไปกราบหลวงพ่อเกษม ห่างจากหลวงพ่อเกษมประมาณ ๒ เมตรเข้าไปกว่านั้นไม่ได้เพราะวัตถุมงคลเต็มไปหมด หลวงพ่อเกษมท่านผุดผ่องมาก ยิ้มน้อยๆ ดวงตาแจ่มใสมีประกายแห่งความเมตตากรุณา ท่านจับม้วนสายสิญจน์ก้มหน้าพร้อมอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ โหเยอะมากๆ เอาว่าท่วมองค์ท่านน่ะครับ
หลวงพ่อเกษม ท่านอธิษฐานจิตครู่หนึ่งประมาณ ครึ่งชั่วโมงมั้งครับ จำไม่ค่อยได้แล้ว ทางเจ้าประเวทย์ ท่านให้สายสิญจน์ กับทางชุมทางพระเครื่องสะพานควาย มาถุงใหญ่ๆ เค้านำมาแจกคณะรถตู้ที่ไปด้วย ผมยังได้มาหนึ่งม้วนใหญ่ๆ พร้อมริบบิ้นส์ แต่ได้แจกเพื่อนๆ ญาติจนหมดในเวลาต่อมา เนื่องจากยังเด็กไม่ค่อยมีตังค์เลยได้แต่ทำบุญไม่ได้บูชาวัตถุมงคลใดๆมาเลย
หลังจากกลับมาจากสุสานไตรลักษณ์ได้หนึ่งอาทิตย์ ฝันเห็นหลวงพ่อเกษม เขมโก ในฝันท่านกำลังนั่งธรรมาสน์เทศน์ให้ผู้คนฟัง แต่คนที่ฟังนุ่งขาว ห่มขาว ผิวพรรณผุดผ่อง หน้าสดใสสวยงามยังกับไม่ใช่คนบนโลกเรา ในฝันผมอยู่ท้ายสุด หลวงพ่อเกษม ท่านเทศน์จบพอดี ท่านกวักมือเรียกผม ในฝันนั้นผมก็คลานเข่าไปหาท่าน หลวงพ่อเกษมท่าน บอกว่า มาเจอกันก็ดีแล้วหลวงพ่อจะพยากรณ์อนาคตให้ ๕ ข้อ ๑.เธอจะได้เรียนจบสูงกว่าพ่อ ๒.เธอจะได้เป็นข้าราชการระดับสูงกว่าพ่อ ๓.เธอจะได้เครื่องราชสูงกว่าพ่อ ๔.ในอนาคตจะมีบ้านมีรถ ๕.(เนื่องจากยังไม่เกิดขอเว้นไว้ก่อนครับ)
โหคำพยากรณ์ทำนายอนาคตในฝัน ของหลวงพ่อเกษม ทายซะยาวนานเลย ตอนนั้นผมพึ่งเรียนมัธยมต้นเองนะครับ ตื่นมายังจำความฝันได้แม่นเล่าให้คุณพ่อ คุณแม่ฟัง คุณพ่อ คุณแม่ยังหัวเราะเลย ไม่หัวเราะได้ไง ผมน่ะ เด็กหลังห้องของแท้ โดดเรียนเป็นว่าเล่น ถึงไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนันก็เถอะ แต่เรื่องเรียนโค ตะ ระ เกเลย ขนาดว่า จบมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ด้วยเกรด ๑.๙๙ ติด ศูนย์สองตัว ภาษาอังกฤษเสริม ไปถามอาจารย์แนะแนวท่านใจดี๊ใจดี ยังบอกว่า ถึงไม่แก้ศูนย์แต่หน่วยกิจครบก็จบได้(อาจาย์ท่านประชด) ผมก็มึน ผมก็ไม่แก้ แหะๆ
สอบเอนทรานซ์ รุ่นผมเอนทรานซ์ อ่านหนังสือเจ็ดวัน ฟลุ๊ค!!! เว้ยเฮ้ย สอบติดคณะวิทย์ประสานมิตร เรียนได้เทอมเดียว รายงานเยอะฉิ๊บ ออกซิ ไม่ใช่เรียนไม่ได้นะครับ ตอนเรียนได้ท็อปตั้งหลายวิชา มาสอบวิทย์คอมที่สวนดุสิตก็ติดเรียนได้สองอาทิตย์ รายงานเยอะฉิ๊บเลย ขี้เกียจครับ เลยมาเรียนรามคำแหงถูกใจ ซิไม่มีรายงานการบ้าน ไม่ต้องไปเรียน สอบอย่างเดียว ไปหาพระหาเจ้าสบายตะลอนๆ ไปทั่ว โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการมีการนิมนต์พระมาเทศน์ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ก็ไปเกือบทุกสัปดาห์ ซอยสายลมมั่ง หลวงพ่อต่างๆ ปีพ.ศ. ๒๕๓๐ - ๒๕๔๐ พระวิปัสนา คณาจารย์ต่างๆ ยังเยอะ ไม่ว่าหลวงพ่อฤาษีฯ ครูบาชัยวงศาพัฒนา หลวงปู่สิม หลวงปู่ชอบ หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่บุดดา หลวงพ่อพุธ ฐานิโย หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง ฯลฯ อยู่กรุงเทพมหานคร ท่านพระอาจารย์ต่างๆ ท่านจะมาตรวจร่างกายมั่ง รับนิมนต์มั่ง มาพักผ่อนร่างกายพบแพทย์บ้าง ได้กราบเยอะครับ
ตั้งแต่มัธยมต้น พี่ผมก็เปิดศูนย์พระเครื่องที่พันทิพย์ พี่สอนส่องพระ (เคยแลกกีต้าร์กับกล้อง
Bausch & Lomb สามเหลี่ยมใหญ่ แต่ผลิตที่อินโดนีเซีย คิดดูบ้าพระขนาดไหนครับ) และไปหาความรู้กับแผงต่างๆ ผมก็ส่องพระตั้งแต่มัธยมต้นแล้ว ไปส่องหลายๆ ที่ ตามความคิดผมเซียนพระท่าพระจันทร์เก่งสุดครับ ยิ่งใต้ถุนแฟลตดินแดงที่ผมอยู่ยังมีสนามพระอีกไปกันใหญ่วันๆ ก็หมกตัวส่องพระ แต่ก็ได้พบสัจธรรมของเซียนพระบางคนย้ำบางคน โลภไม่มีที่สิ้นสุด โกหกสตอเบอรี่ เพื่อให้ได้พระมาราคาถูกๆ ตำหนิเค้าไปหมด ตรงนั้นมีตำหนิ ตรงนี้ไม่สวย เพื่อให้ราคาที่เค้ามาปล่อยถูกสุดๆ แม้กระทั่งแกล้งบอกว่าเป็นพระปลอมแต่ขอบูชาราคาถูกๆ โดยจับกลุ่มกัน ประมาณว่าไปแห่ ในแผงนั้นๆ ก็จะบอกปลอมหมด แบบนี้ไม่มีหรอก
เห็นจะๆก็เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นสาม รุ่นสี่นี่แหละทองคำ บอกไม่มีหรอก แต่ขอซื้อเค้าแค่ราคาทองตามราคาตลาด เค้าก็ขายสงสารคนที่มาขายแต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แล้วเซียนนั้นก็เอาไปขายได้เป็นแสน บอกด้วยสีหน้าดีใจว่าตกควายเว้ย... แต่ที่รับไม่ได้สุดๆ คือ ตกเย็นหรือค่ำหน่อยๆ ก็พากันดื่มเหล้า เบียร์ ตู้กระจกข้างบนวางแก้วเหล้า เบียร์ ข้างล่าง เป็นพระที่วางไว้ เห็นแล้วปลงสังเวช และทุเรศในใจสัญญากับตัวเองว่า เก็บอย่างเดียวไม่ปล่อยใคร ส่วนลูกหลานจะไปปล่อยก็เรื่องของเค้าเราตายแล้ว ก็เอาไปไม่ได้ พี่บอกว่า เก็บอย่างเดียวทุนจมอยากได้อะไรที่แพงๆ จะบูชาไม่ได้นะ(ที่จริงพี่เค้าบอกซื้อไม่ได้แต่ฟังแล้วแขยงหูยังไงไม่รู้) ผมก็บอกว่าช่างเถอะ พอใจเก็บ เก็บได้แค่ไหนก็แค่นั้น
ต่อมาบุญเริ่มมีมั้ง เห็นคนพิการนั่งรถเข็นขายล็อตเตอรี่ รู้จักกันอยู่แฟลตใกล้ๆกัน ความจริงก็เห็นบ่อยแต่ไม่เคยเอะใจคิด วันนั้นคงบุญเริ่มเข้านั่นแหละ เลยสังเกตเห็นเค้าเป็นอัมพาตครึ่งท่อน นั่งรถเข็น พูดไม่ค่อยชัด น้ำลายจะไหลหน่อยๆ ตระเวนขายล็อตเตอรี่ ผมเห็นแล้วฉุกคิดได้ว่า เค้ามือเท้าทำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ฐานะทางบ้านเค้าก็พอมี ผมเลยเข้าไปถามเค้าว่าทำไมต้องมาขายล็อตเตอรี่ด้วย พ่อแม่ก็รวยไม่เดือดร้อนนิหน่า เค้าตอบว่า เกิดเป็นคนต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ถ้าวันหนึ่งพ่อแม่ตายไปแล้วเค้าทำอะไรไม่เป็นใครจะดูแลเค้า เราต้องพึ่งตัวเองให้ได้ครับ
ผมฟังแล้วน้ำตาคลอเบ้า โห!!! เรามัวทำอะไรอยู่ฟะ มือเท้าดี เดินกลับบ้านบอกแม่ครับผมขอโอกาสอีกหนผมจะตั้งใจเรียนครับ ก็ลงรามคำแหงใหม่ เรียนคณะรัฐศาสตร์เพราะตั้งใจสอบราชการ ก็จบภายในสองปีครึ่ง จบแล้วพอดีปลัดอำเภอเปิดสอบ สอบครั้งแรกก็สอบติด แต่ด้วยเหตุผลบางประการเลยลงปลัดอบต.(เรื่องฝันเหมือนกัน ไว้เล่าวันหลัง) และพอดีทางอบต.มีทุนเรียนป.โท ก็สอบติดรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยขอนแก่น การปกครองท้องถิ่น ส่วนซีคุณพ่อเป็นครูตอนท่านเกษียณท่านจบปริญญาตรี ได้ซี ๗ ตอนนี้ผมซี ๘ (ปีพ.ศ. ๒๕๕๙ท้องถิ่นเปลี่ยนเป็นเข้าแท่งเป็นบริหารกลาง) เครื่องราชคุณพ่อท่านได้ชั้น ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.) ส่วนผมตอนนี้ก็กำลังจะได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก(ท.ช.) ซึ่งเหนือคุณพ่อสองชั้น มีบ้านมีรถ(กู้เงินมาสร้าง มาซื้อหุหุ)
ซึ่งคำทำนายพยากรณ์ของหลวงพ่อเกษมท่านตรงทุกข้อเหลือข้อสุดท้าย ท่านทำนายในอนาคตของชาติหน้าเลย...ครับ (เพราะผมชอบอธิษฐานว่าถ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็ว ถ้าเกิดชาติหน้าขอเป็นพระจักรพรรดิ ท่านทำนายว่าเธอได้เป็นแน่พระจักรพรรดิ แต่ตอนนี้เริ่มเบื่อๆแล้วถ้าเป็นไปได้ขอถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็วดีกว่าครับหลวงพ่อเก
ษม สาธุ สาธุ สาธุ)
ผมเคยไปกราบหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ๒ ครั้ง โชคดีได้กราบหลวงพ่อท่านทั้งสองครั้ง ครั้งแรกไปกับชุมทางพระเครื่องสะพานควาย เค้าจัดรถตู้ไปผมก็ไปร่วมกับคณะเค้า ประมาณปีพ.ศ. ๒๕๓๐ ยังเด็กเรียนมัธยมต้นอยู่เลย ไปในงานอธิษฐานจิตพระ ทางชุมทางพระเครื่องสะพานควายเค้ารู้จักกับเจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เลยได้เข้าไปกราบหลวงพ่อเกษม ห่างจากหลวงพ่อเกษมประมาณ ๒ เมตรเข้าไปกว่านั้นไม่ได้เพราะวัตถุมงคลเต็มไปหมด หลวงพ่อเกษมท่านผุดผ่องมาก ยิ้มน้อยๆ ดวงตาแจ่มใสมีประกายแห่งความเมตตากรุณา ท่านจับม้วนสายสิญจน์ก้มหน้าพร้อมอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ โหเยอะมากๆ เอาว่าท่วมองค์ท่านน่ะครับ
หลวงพ่อเกษม ท่านอธิษฐานจิตครู่หนึ่งประมาณ ครึ่งชั่วโมงมั้งครับ จำไม่ค่อยได้แล้ว ทางเจ้าประเวทย์ ท่านให้สายสิญจน์ กับทางชุมทางพระเครื่องสะพานควาย มาถุงใหญ่ๆ เค้านำมาแจกคณะรถตู้ที่ไปด้วย ผมยังได้มาหนึ่งม้วนใหญ่ๆ พร้อมริบบิ้นส์ แต่ได้แจกเพื่อนๆ ญาติจนหมดในเวลาต่อมา เนื่องจากยังเด็กไม่ค่อยมีตังค์เลยได้แต่ทำบุญไม่ได้บูชาวัตถุมงคลใดๆมาเลย
หลังจากกลับมาจากสุสานไตรลักษณ์ได้หนึ่งอาทิตย์ ฝันเห็นหลวงพ่อเกษม เขมโก ในฝันท่านกำลังนั่งธรรมาสน์เทศน์ให้ผู้คนฟัง แต่คนที่ฟังนุ่งขาว ห่มขาว ผิวพรรณผุดผ่อง หน้าสดใสสวยงามยังกับไม่ใช่คนบนโลกเรา ในฝันผมอยู่ท้ายสุด หลวงพ่อเกษม ท่านเทศน์จบพอดี ท่านกวักมือเรียกผม ในฝันนั้นผมก็คลานเข่าไปหาท่าน หลวงพ่อเกษมท่าน บอกว่า มาเจอกันก็ดีแล้วหลวงพ่อจะพยากรณ์อนาคตให้ ๕ ข้อ ๑.เธอจะได้เรียนจบสูงกว่าพ่อ ๒.เธอจะได้เป็นข้าราชการระดับสูงกว่าพ่อ ๓.เธอจะได้เครื่องราชสูงกว่าพ่อ ๔.ในอนาคตจะมีบ้านมีรถ ๕.(เนื่องจากยังไม่เกิดขอเว้นไว้ก่อนครับ)
โหคำพยากรณ์ทำนายอนาคตในฝัน ของหลวงพ่อเกษม ทายซะยาวนานเลย ตอนนั้นผมพึ่งเรียนมัธยมต้นเองนะครับ ตื่นมายังจำความฝันได้แม่นเล่าให้คุณพ่อ คุณแม่ฟัง คุณพ่อ คุณแม่ยังหัวเราะเลย ไม่หัวเราะได้ไง ผมน่ะ เด็กหลังห้องของแท้ โดดเรียนเป็นว่าเล่น ถึงไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนันก็เถอะ แต่เรื่องเรียนโค ตะ ระ เกเลย ขนาดว่า จบมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ด้วยเกรด ๑.๙๙ ติด ศูนย์สองตัว ภาษาอังกฤษเสริม ไปถามอาจารย์แนะแนวท่านใจดี๊ใจดี ยังบอกว่า ถึงไม่แก้ศูนย์แต่หน่วยกิจครบก็จบได้(อาจาย์ท่านประชด) ผมก็มึน ผมก็ไม่แก้ แหะๆ
สอบเอนทรานซ์ รุ่นผมเอนทรานซ์ อ่านหนังสือเจ็ดวัน ฟลุ๊ค!!! เว้ยเฮ้ย สอบติดคณะวิทย์ประสานมิตร เรียนได้เทอมเดียว รายงานเยอะฉิ๊บ ออกซิ ไม่ใช่เรียนไม่ได้นะครับ ตอนเรียนได้ท็อปตั้งหลายวิชา มาสอบวิทย์คอมที่สวนดุสิตก็ติดเรียนได้สองอาทิตย์ รายงานเยอะฉิ๊บเลย ขี้เกียจครับ เลยมาเรียนรามคำแหงถูกใจ ซิไม่มีรายงานการบ้าน ไม่ต้องไปเรียน สอบอย่างเดียว ไปหาพระหาเจ้าสบายตะลอนๆ ไปทั่ว โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการมีการนิมนต์พระมาเทศน์ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ก็ไปเกือบทุกสัปดาห์ ซอยสายลมมั่ง หลวงพ่อต่างๆ ปีพ.ศ. ๒๕๓๐ - ๒๕๔๐ พระวิปัสนา คณาจารย์ต่างๆ ยังเยอะ ไม่ว่าหลวงพ่อฤาษีฯ ครูบาชัยวงศาพัฒนา หลวงปู่สิม หลวงปู่ชอบ หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่บุดดา หลวงพ่อพุธ ฐานิโย หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง ฯลฯ อยู่กรุงเทพมหานคร ท่านพระอาจารย์ต่างๆ ท่านจะมาตรวจร่างกายมั่ง รับนิมนต์มั่ง มาพักผ่อนร่างกายพบแพทย์บ้าง ได้กราบเยอะครับ
ตั้งแต่มัธยมต้น พี่ผมก็เปิดศูนย์พระเครื่องที่พันทิพย์ พี่สอนส่องพระ (เคยแลกกีต้าร์กับกล้อง
Bausch & Lomb สามเหลี่ยมใหญ่ แต่ผลิตที่อินโดนีเซีย คิดดูบ้าพระขนาดไหนครับ) และไปหาความรู้กับแผงต่างๆ ผมก็ส่องพระตั้งแต่มัธยมต้นแล้ว ไปส่องหลายๆ ที่ ตามความคิดผมเซียนพระท่าพระจันทร์เก่งสุดครับ ยิ่งใต้ถุนแฟลตดินแดงที่ผมอยู่ยังมีสนามพระอีกไปกันใหญ่วันๆ ก็หมกตัวส่องพระ แต่ก็ได้พบสัจธรรมของเซียนพระบางคนย้ำบางคน โลภไม่มีที่สิ้นสุด โกหกสตอเบอรี่ เพื่อให้ได้พระมาราคาถูกๆ ตำหนิเค้าไปหมด ตรงนั้นมีตำหนิ ตรงนี้ไม่สวย เพื่อให้ราคาที่เค้ามาปล่อยถูกสุดๆ แม้กระทั่งแกล้งบอกว่าเป็นพระปลอมแต่ขอบูชาราคาถูกๆ โดยจับกลุ่มกัน ประมาณว่าไปแห่ ในแผงนั้นๆ ก็จะบอกปลอมหมด แบบนี้ไม่มีหรอก
เห็นจะๆก็เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นสาม รุ่นสี่นี่แหละทองคำ บอกไม่มีหรอก แต่ขอซื้อเค้าแค่ราคาทองตามราคาตลาด เค้าก็ขายสงสารคนที่มาขายแต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แล้วเซียนนั้นก็เอาไปขายได้เป็นแสน บอกด้วยสีหน้าดีใจว่าตกควายเว้ย... แต่ที่รับไม่ได้สุดๆ คือ ตกเย็นหรือค่ำหน่อยๆ ก็พากันดื่มเหล้า เบียร์ ตู้กระจกข้างบนวางแก้วเหล้า เบียร์ ข้างล่าง เป็นพระที่วางไว้ เห็นแล้วปลงสังเวช และทุเรศในใจสัญญากับตัวเองว่า เก็บอย่างเดียวไม่ปล่อยใคร ส่วนลูกหลานจะไปปล่อยก็เรื่องของเค้าเราตายแล้ว ก็เอาไปไม่ได้ พี่บอกว่า เก็บอย่างเดียวทุนจมอยากได้อะไรที่แพงๆ จะบูชาไม่ได้นะ(ที่จริงพี่เค้าบอกซื้อไม่ได้แต่ฟังแล้วแขยงหูยังไงไม่รู้) ผมก็บอกว่าช่างเถอะ พอใจเก็บ เก็บได้แค่ไหนก็แค่นั้น
ต่อมาบุญเริ่มมีมั้ง เห็นคนพิการนั่งรถเข็นขายล็อตเตอรี่ รู้จักกันอยู่แฟลตใกล้ๆกัน ความจริงก็เห็นบ่อยแต่ไม่เคยเอะใจคิด วันนั้นคงบุญเริ่มเข้านั่นแหละ เลยสังเกตเห็นเค้าเป็นอัมพาตครึ่งท่อน นั่งรถเข็น พูดไม่ค่อยชัด น้ำลายจะไหลหน่อยๆ ตระเวนขายล็อตเตอรี่ ผมเห็นแล้วฉุกคิดได้ว่า เค้ามือเท้าทำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ฐานะทางบ้านเค้าก็พอมี ผมเลยเข้าไปถามเค้าว่าทำไมต้องมาขายล็อตเตอรี่ด้วย พ่อแม่ก็รวยไม่เดือดร้อนนิหน่า เค้าตอบว่า เกิดเป็นคนต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ถ้าวันหนึ่งพ่อแม่ตายไปแล้วเค้าทำอะไรไม่เป็นใครจะดูแลเค้า เราต้องพึ่งตัวเองให้ได้ครับ
ผมฟังแล้วน้ำตาคลอเบ้า โห!!! เรามัวทำอะไรอยู่ฟะ มือเท้าดี เดินกลับบ้านบอกแม่ครับผมขอโอกาสอีกหนผมจะตั้งใจเรียนครับ ก็ลงรามคำแหงใหม่ เรียนคณะรัฐศาสตร์เพราะตั้งใจสอบราชการ ก็จบภายในสองปีครึ่ง จบแล้วพอดีปลัดอำเภอเปิดสอบ สอบครั้งแรกก็สอบติด แต่ด้วยเหตุผลบางประการเลยลงปลัดอบต.(เรื่องฝันเหมือนกัน ไว้เล่าวันหลัง) และพอดีทางอบต.มีทุนเรียนป.โท ก็สอบติดรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยขอนแก่น การปกครองท้องถิ่น ส่วนซีคุณพ่อเป็นครูตอนท่านเกษียณท่านจบปริญญาตรี ได้ซี ๗ ตอนนี้ผมซี ๘ (ปีพ.ศ. ๒๕๕๙ท้องถิ่นเปลี่ยนเป็นเข้าแท่งเป็นบริหารกลาง) เครื่องราชคุณพ่อท่านได้ชั้น ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.) ส่วนผมตอนนี้ก็กำลังจะได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก(ท.ช.) ซึ่งเหนือคุณพ่อสองชั้น มีบ้านมีรถ(กู้เงินมาสร้าง มาซื้อหุหุ)
ซึ่งคำทำนายพยากรณ์ของหลวงพ่อเกษมท่านตรงทุกข้อเหลือข้อสุดท้าย ท่านทำนายในอนาคตของชาติหน้าเลย...ครับ (เพราะผมชอบอธิษฐานว่าถ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็ว ถ้าเกิดชาติหน้าขอเป็นพระจักรพรรดิ ท่านทำนายว่าเธอได้เป็นแน่พระจักรพรรดิ แต่ตอนนี้เริ่มเบื่อๆแล้วถ้าเป็นไปได้ขอถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็วดีกว่าครับหลวงพ่อเก
ษม สาธุ สาธุ สาธุ)