[Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป(อ่าน 649121 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

1330.รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่เคน จรณธัมโม  วัดแซอุดมสุข อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ใต้ฐานอุดผง ชานหมาก เกศา หายากครับ
วัตถุมงคลท่าน สร้างน้อย
500-



หลวงปู่เคน ประวัติท่านไม่ค่อยเผยแพร่ เพราะไม่ใช่จริตในองค์ท่าน  ท่านเป็นศิษย์สำเร็จลุน นครจำปาศัก และเป็น สหธรรมิกกับ ญาท่านสวน วัดนาอุดม และ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ
ท่านจะไปมาหาสู่กันเสมอ หลวงปู่เคน ท่านมีความชำนาญในด้านสมุนไพร มารักษาประชาชนที่เจ็บป่วยจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้มีลูกศิษย์จำนวนมาก


หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย ,หลวงปู่กิ วัดสนามชัย , หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม, หลวงปู่เคน วัดแซอุดมสุข ได้มาร่วมพิธีงานเททองพระชุดสายรกพระพุทธเจ้า









ขอจองครับ



1331.เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่บุญนาค ฐานนาโค วัดหนองโปร่ง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ฉลองครบ 5 รอบ ปี2515 400-



หลวงปู่บุญนาค ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สูงด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ เป็นพระสายปฏิบัติผู้หนึ่งที่มีจิตอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีเมตตาจิตสูง
เป็นที่เคารพศรัทธาของศรัทธาสาธุชน มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จากธรรมประจำใจที่ท่านให้ลูกศิษย์ลูกหายึดถือก็คือ การคิดถึงพระอยู่ในจิตใจไม่ว่าจะลุก
เดิน ยืน นอนให้นึกถึงพระอยู่เสมอ ส่วนตัวของท่านเองนั้นภาวนาอยู่เสมอว่า อะระหังพุทโธ เพราะคนเรานั้นถ้านึกถึงพระอยู่เสมอก็จะมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
 มีความรู้สึกถึงกรรมและบุญเป็นการยับยั้งความคิดที่จะกระทำชั่วมั่วกิเลส และที่สำคัญคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
และเป็นที่มาแห่งการดำเนินชีวิตที่สงบสุขร่มเย็น

หลวงปู่บุญนาค องค์ท่านละสังขาร เมื่อปี46 สิริอายุ 90 พรรษา สรีระสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย บรรจุอยู่ในโลงแก้ว ประดิษฐานที่วัดหนองโป่ง ตราบปัจจุบันนี้




ขอจองครับ



1332.จัดรายการพิเศษ โปรโมชั่นยุคโควิด คุ้มสุดคุ้ม กับสายพระกรรมฐาน 6 รายการ เปิดบูชาแบ่งปัน 900-
1.สมเด็จมงคลชีวิต หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมป์ หนองคาย ปี41
2.พระผงสุพรรณ มหาเศรษฐี หลวงปู่จวน วัดหนองสุ่ม ลพบุรี พิธี เสาร์5 ปี36 กล่องเดิม
3.รูปหล่อ เนื้อเงิน พิมพ์จิ๋ว หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน โคราช ปี39
4.เหรียญหลวงปู่บุญจันทร์ วัดถ้ำผาผึ้ง จ.เชียงใหม่
5.เหรียญรุ่น2 หลวงปู๋โส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ จ.ขอนแก่น ปี20
6.เหรียญ ศูนย์สงครามพิเศษ หลวงพ่อผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ จ.ขอนแก่น ปี20 กะไหล่ทอง






1333.เปิดล็อคเก็ตรุ่นแรก ชุดกรรมการ หลวงปู่แก้ว สุจิณโณ วัดถ้ำเจ้าผู้ข้า จ.สกลนคร ปี55 สร้างน้อย เปิดบูชา คู่ 1600-

1.ล็อคเก็ตรุ่นแรก กรรมการ จัมโบ้  หลังอัลปาก้า จารมือ หมายเลข 5
2.ล็อคเก็ตรุ่นแรก กรรมการ นำฤกษ์ หลังตะกั่ว จารมือ หมายเลข 8



อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ทองแก้ว ฮ่มป่า เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2486 ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีมะแม ณ บ้านห้วยหีบ ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายจันทร์ และนางวงศ์ ฮ่มป่า

ในช่วงวัยเยาว์ หลังจากที่ได้เรียนจบภาคบังคับในหมู่บ้านแล้วออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา ทำสวน ทำไร่ เหมือนชาวชนบทภาคอีสานทั่วไป

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หลังจากที่ผ่านการคัดเลือกเกณฑ์ทหารแล้ว จึงได้คิดอุปสมบทเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ อย่างไรก็ดี ท่านยังหาโอกาสเหมาะสมมิได้ เนื่องจากติดขัดที่ฐานะทางบ้านต้องช่วยเหลือครอบครัว แต่จิตใจก็ยังคิดใฝ่หาที่จะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ตลอดเวลา

กระทั่งอายุได้ 25 ปีพอดี โยมพ่อแม่จึงได้ให้นายทองแก้วเข้าไปบวชเป็นตาผ้าขาวอยู่กับหลวงพ่อแบน ธนากโร ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ เพื่อให้ทราบถึงข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับพระภิกษุ ซึ่งผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุหรือสามเณรนั้นในวัดพระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จะให้บวชเป็นตาผ้าขาวก่อน เพื่อให้หัดท่องคำขานนาค ท่องบทสวดมนต์ และให้ทราบถึงข้อวัตรปฏิบัติ

รวมทั้งอยู่ดูนิสัยไปก่อน เรียกง่ายๆ คือ อยู่ดัดนิสัยเดิมเสียก่อน ฝึกกิริยามารยาทให้งดงาม ให้รู้จักครรลองครองธรรมของพระสงฆ์ ฝึกความอดทน ฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง ต้องใช้เวลานานพอสมควร บางคน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน หรือเป็นปีสองสามปีก็มี แล้วแต่ใครจะฝึกหัดได้ง่ายได้ยาก

จนเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2511 หลวงพ่อแบน ธนากโร จึงได้นำนายทองแก้วเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร โดยมีพระวิบูลธรรมภาณ (ไพบูลย์ อภิวณฺโณ) วัดศรีโพนเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์แว่น ธนปาโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อแบน ธนากโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังจากอุปสมบทแล้วท่านก็ได้กลับไปพักปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อแบน ธนากโร ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ อยู่ปฏิบัติธรรมและศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เร่งรัดปฏิบัติข้อวัตรมิให้ตกหล่น ตรงตามเป้าหมายที่ประสงค์ไว้ จนเกิดความช่ำชอง

เมื่อเห็นว่าสามารถที่จะดูแลตัวเองได้แล้วจึงได้กราบลาหลวงพ่อแบน ธนากโร ออกเดินธุดงค์จาริกปฏิบัติธรรมไปตามสถานที่ต่างๆ และได้ขึ้นมาอยู่ศึกษาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ที่วัดถ้ำเจ้าผู้ข้า อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

ครั้นต่อมา หลวงปู่หลุยได้มรณภาพลง จึงได้จำพรรษาตั้งแต่ครั้งนั้นจนกระทั่งปัจจุบัน

พระอาจารย์ทองแก้วเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่ง ที่เดินตามรอยครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะหลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่เป็นต้นแบบ เป็นพระที่ต้องการอยู่ที่เงียบสงบอยู่แต่ป่า

จึงนับได้ว่าเป็นเนื้อนาบุญของชาวโลกอย่างแท้จริง

พระอาจารย์ทองแก้วมักสอนญาติโยมทุกครั้งในเรื่อง "มาแต่ตัวก็ต้องไปแต่ตัว ขอให้เร่งสร้างความดีงามเอาไว้ อย่าเบียดเบียนกัน"

พระอาจารย์ทองแก้วถือเป็นร่มธรรมองค์หนึ่งของชาวสกลนคร ที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

และเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบไป

หลวงปู่แก้ว ได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา




















1334.เหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี หลังสิงห์ ปี2518  ผิวหิ้ง น่าใช้ เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแดงหลักล้านนะครับ ด้วยเพราะพุทธคุณและประสบการณ์
ต่อผู้บูชา รีบเก็บก่อนแพงครับ
เปิดบูชา 500-








ขอเช่าครับ



ขอเช่าครับ
องค์ใหนครับรบกวนแจ้งได้เลยครับ ขอบคุณครับ



1335.พระบุชารุ่นแรก หลวงพ่อผอง วัดพรหมยาม  อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ปี45 หน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างเพียง
200 องค์ หายาก ครับ
เปิดบูชา 3,500 ปิดท่าน J999 ครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 04, 2020, 11:48:16 AM โดย thesun »



1335.พระบุชารุ่นแรก หลวงพ่อผอง วัดพรหมยาม  อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ปี45 หน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างเพียง
200 องค์ หายาก ครับ
เปิดบูชา 3,500




หลวงพ่อผองท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อทบ วัดชนแดน และ หลวงพ่ออ้วน วัดดงขุย 2 ปรมาจารย์ของเพชรบูรณ์ โดยอยู่ศึกษาวิชา คาถาอาคม กับหลวงพ่อทบ
ตั้งแต่ปี 2501-2515  รวมเป็นเวลา 15 ปี  ถือว่าเป็นศิษย์เอกที่หลวงพ่อทบไว้วางใจถ่ายทอดสรรพวิชาให้ทั้งหมด จนท่านมีความเชี่ยวชาญรอบด้าน
เป็นที่พึ่งให้กับคนตกทุกข์ได้ยาก  ประสบการณ์วัตถุมงคลของหลวงพ่อพื้นที่มีมากครับ

 ที่ท่านปลุกเศกและได้ทำตามตำราวิชาที่เรียนมาจากหลวงพ่อทบ   มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่สายตาของชาวบ้านโดยทั่วไป
  และยังเป็นประสบการณ์ที่หนัก ๆ อีกด้วย   เช่น  โดนถล่มยิงด้วย M 16  ถึง  40  นัด  รถพรุนทั้งคัน  คนขับลูกปืนถาก ๆ แขนขาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 
คนนั่งไปด้วยเสื้อขาดหนังท้องถลอก   อีกรายฟ้าผ่าลงมาเต็ม ๆ  ที่ร่างไฟลุกเต็มหลังควันพวยพุ่งออกจากหัวแต่ไม่เป็นอะไรเลย   อีกรายโดนยิงด้วยลูกซองยาวระยะ 7 เมตร
 ลูกตะกั่วเข้าเต็มหน้าอกทุกเม็ดกระเด็นหงายท้อง ไปหาหมอเอาคีบหนีบลูกตะกั่วแบน ๆ ที่ติดตามหน้าอกออกแล้วกลับบ้านได้  ทางด้านเมตตามหานิยมท่านก็เป็นเยี่ยมมาก
 โดยเฉพาะสีผึ้งมหาเสน่ห์มหานิยม  แต่ท่านจะนาน ๆ ทำครั้งนึง  ฯลฯ และอีกอย่างหนึ่งวัตถุมงคลประเภทพระเครื่องของท่านก็สร้างน้อยมาก ทำให้ชาวบ้านหวงแหนและแสวงหา
วัตถุมงคลของท่านเป็นอันมาก  ปฏิปทาที่น่าเลี่ยมใสของท่านอีกอย่างคือท่านไม่ยึดติดในลาภสักการะแต่อย่างใด  ไม่สะสมวัตถุข้าวของเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม 
บางครั้งท่านอาพาธเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาท  คณะศิษย์ยังต้องช่วยกันออกค่ารักษาพยาบาทให้    เพราะท่านไม่สะสมจตุปัจจัยไทยธรรมญาติโยมถวายมาเท่าไหร่ 
ท่านก็เอามาก่อสร้างถาวรวัตถุและบำเพ็ญทานบารมีจนหมดสิ้น  กุฏิที่ท่านอยู่ก็เป็นเพียงกุฏิหลังเล็ก  ๆ  พอได้อาศัยจำวัดและปฏิบัติธรรมเท่านั้น

หลวงพ่อผอง แห่งวัดพรหมยาม  ได้มรณภาพแล้วอย่างสงบ วันที่ 7 กันยายน 2555  เวลา 04.45 น.

ก่อนที่ท่านจะมาโรงพยาบาล ท่านยังบอกกับทุกคนว่าครั้งนี้ท่านจะไม่กลับวัดอีก ปัจจุบันสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย ยังคงเก็บรักษาไว้ในโลงแก้ว ที่วัดพรหมยาม ให้ลูกศิษย์ลูกหา
อนุชนรุ่นหลังได้กราบไหว้ บูชา








ขอจองครับ



1336.เปิดของสะสมเก่าเก็บ พระกริ่งนวปทุม วัดปทุมวนาราม กรุงเทพ ปี35 เนื้อนวโลหะ กลับดำแล้ว ตอกโค้ตด้านหลังซ้ายขององค์พระ พระดีพิธีใหญ่
ในหลวงเสด็จเททอง จัดสร้างเพียงแค่ 3000 องค์ พระเกจิอาจารย์ พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมอธิษฐานจิตมากมาย ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ งานชั้นครู
หายากแล้วไม่ได้ออกมาให้เห็นบ่อยๆ เปิดแบ่งปันให้บูชา 
3,200 ปิดท่าน j999 ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 25, 2020, 11:31:26 PM โดย thesun »



1336.เปิดของสะสมเก่าเก็บ พระกริ่งนวปทุม วัดปทุมวนาราม กรุงเทพ ปี35 เนื้อนวโลหะ กลับดำแล้ว ตอกโค้ตด้านหลังซ้ายขององค์พระ พระดีพิธีใหญ่
ในหลวงเสด็จเททอง จัดสร้างเพียงแค่ 3000 องค์ พระเกจิอาจารย์ พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมอธิษฐานจิตมากมาย ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ งานชั้นครู
หายากแล้วไม่ได้ออกมาให้เห็นบ่อยๆ เปิดแบ่งปันให้บูชา 
3,200


พระกริ่งนวปทุม ภปร. วัดปทุมวนาราม กรุงเทพ ถือว่าเป็นพระที่อยู่ในชุดของรัชกาลที่ 9 เพราะนอกจากจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้สามารถติดอักษร "ภปร"
ที่องค์พระกริ่งนวปทุม ในหลวงท่านยังได้เสด็จเททองพระกริ่งชุดนี้ด้วยครับ นับว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง

พระกริ่งนวปทุม รุ่นนี้ สร้างขึ้นเพื่อมอบแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสมนาคุณ “มูลนิธิศาลาพระราชศรัทธา” ซึ่งแนวความคิดในการจัดสร้าง “พระกริ่งนวปทุม” นี้มีความสอดคล้องกับนามวัดคือ “ปทุมวนาราม” จึงนำต้นแบบมาจาก “พระกริ่งพระปทุม” หรือ “พระกริ่งใหญ่ของจีน” ที่ “พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์” แห่งพระราชอาณาจักร “ขอม” ในอดีตกาลได้ทรงสร้างไว้เป็นปฐมและโดยเหตุที่ท่านเจ้าประคุณ “สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศนเทพวราราม” เคยทรงมีพระกระแสรับสั่งว่า “การสร้างพระกริ่งของพระองค์ได้แบบอย่างมาจาก “พระกริ่งปทุมสุริยวงศ์” คือมีพระพุทธลักษณะประทับนั่งปางมารวิชัยบนฐานบัวคว่ำบัวหงายพระหัตถ์ซ้ายทรงวชิราวุธ”

.........คณะกรรมการจึงได้นำเอาแบบอย่างการสร้างพระกริ่งของ “วัดสุทัศน์ฯ” ตามกรรมวิธีของท่านเจ้าประคุณ “สมเด็จพระสังฆราชแพ” มาสร้าง “พระกริ่งนวปทุม” ครั้งนี้กล่าวคือ “เนื้อโลหะ” ที่จะหล่อหลอมเป็นองค์กำเนิดมาจากแผ่น “พระยันต์ ๑๐๘” และ “นะปถมัง ๑๔ นะ” ประกอบพิธีกรรมลงอักขระบนแผ่นยันต์ครบถ้วนตามโบราณประเพณีดั้งเดิม ทุกประการ

ส่วนมูลเหตุแห่งการเพิ่มจำนวน “บัว” ที่ฐานบัวคว่ำบัวหงายก็เป็นเพราะ “พระกริ่งปทุมสุริยวงศ์” ในสมัย “พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์” มี “บัวคว่ำบัวหงาย”
เพียง “๗ คู่” ดังนั้นจึงเพิ่มบัวให้ “พระกริ่งนวปทุม” เป็น “๙ คู่” โดยมีเหตุผล “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” ทรงเป็น
“พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙” และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.” ดังกล่าวมาแล้วจึงได้เพิ่ม “บัวคว่ำบัวหงาย”
 ขึ้นอีก “๒ คู่” เป็น “๙ คู่” และถวายพระนามพระกริ่ง ว่า “พระกริ่งนวปทุม ภ.ป.ร.” ซึ่งสอดคล้องกับนามของ “วัดปทุมวนาราม” จึงนับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง.....
 และจากที่ล้นเกล้าฯ “พระบาทสม เด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๔ ได้พระราชทานการสถาปนา “วัดปทุมวนารามฯ”


พิธีมหาพุทธาภิเษก

ท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเบิกพระเนตรพระพุทธปฏิมา และพิธีชัยมังคลาภิเษกในวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 ณ มณฑลพิธีศาลาพระราชศรัทธาวัดปทุมวนาราม โดยอาราธนาพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วประเทศ 142 รูป มาร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก อาทิเช่น

1. หลวงปู่วิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล (ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

2. หลวงปู่หลอด วัดสิริกมลาวาศ

3. พระอาจารย์มหาถาวร วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ

4. หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี

5. หลวงปู่ดี วัดพระรูป สุพรรณบุรี

6. หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ชลบุรี

7. หลวงพ่อจำเนียร วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี

8. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม

9. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม

10. หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม

11. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการม กาญจนบุรี

12. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์

13. หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต หนองคาย (ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

14. หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง เลย

15. หลวงปู่คำพอง วัดพัฒนาราม อุดรธานี

16. หลวงปู่ท่อน วัดถ้ำอภัยคีรีวัน อุดรธานี

17.หลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง

18. หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย

19. หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง

20. หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ ชลบุรี

21. หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ระยอง

22.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดป่าบ้านไร่ นครราชสีมา เป็นต้น

“แผ่นทองลงอักขระ” ที่ได้รับการอธิษฐานจิตปลุกเสกจากท่าน

“เจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทร์ , หลวงปู่ดู่วัดสะแกอยุธยา , หลวงพ่อเนื่องวัดจุฬามณีสมุทรสงคราม”

จาก นั้น ยังมีแผ่น “ทอง นาก เงิน” ที่ลงอักขระยันต์โดย “พระเกจิอาจารย์รูปสำคัญ ๆ” ทั่วประเทศอีก “๑๐๘ รูป” รวมทั้งแผ่น “ทอง นาก เงิน” ที่ลงอักขระเลขยันต์โดย “พระครูปลัดสมคิด กิตฺติสโร วัดราชสิทธิราม” (วัดพลับ) อีก “๑๐๘ แผ่น” ซึ่งเป็นอักขระเลขยันต์สำหรับหล่อ “พระกริ่ง” ตามตำราของ “สมด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ฯ

วัตถุมงคลที่จัดสร้างมีรายละเอียดดังนี้
1. พระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อเสริม ภ.ป.ร. หน้าตัก 5 – 9 นิ้ว ไม่ทราบจำนวน
2. พระกริ่งไพรีพินาศ ภ.ป.ร. เนื้อทองคำ หนัก 1 บาท สร้างตามจำนวนสั่งจอง
3. พระกริ่งไพรีพินาศ ภ.ป.ร. เนื้อเงิน และ นวโลหะ เนื้อละ 3,000 องค์
4. พระกริ่งนวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อทองคำ หนัก 1 บาท สร้างตามจำนวนสั่งจอง
5. พระกริ่งนวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อเงิน และ นวโลหะ เนื้อละ 3,000 องค์
6. ชัยวัฒน์นวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อทองคำ หนัก 1 บาท สร้างตามจำนวนสั่งจอง
7. ชัยวัฒน์นวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อเงิน และ นวโลหะ เนื้อละ 3,000 องค์
8. เหรียญรูปเหมือนพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ จำนวน 50,000 เหรียญ
9. พระผงรูปเหมือนพระเสริมหลังตรา ภ.ป.ร. จำนวน 50,000 องค์ ฯลฯ
















ขอจองครับ



1337.เหรียญนาคปรก รุ่นแรก หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ปี19 ตอกโค้ต ม สวยๆ ผิวรุ้ง เปิดบูชา 800- ปิดท่านJ999 ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 01, 2020, 06:24:33 PM โดย thesun »



1338.เหรียญ "นิวเคลียร์" หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ ปี28 เนื้อทองแดงผิวไฟ หลวงปู่กล่าวตอนแจกว่า "เอาไว้กันนิวเคลียร์เด้อ"
 ท่านบอกเป็นนัยว่ารุ่นนี้กันนิวเคลียร์ กันกัมมันตรังสี รวมถึงโรคภัยต่างๆ ตอนนี้คนตามเก็บไว้บูชากันหายหมดครับ สวยๆ
เปิดแบ่งปัน 1000-
ปิดคุณอ๋าทางไลน์ครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 02, 2020, 03:29:12 PM โดย thesun »



1337.เหรียญนาคปรก รุ่นแรก หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ปี19 ตอกโค้ต ม สวยๆ ผิวรุ้ง เปิดบูชา 800-

เหรียญนาคปรก รุ่น 1 เนื้อทองแดงรมดำ ออกแจกในงานฉลองกุฏิของท่านเมื่อปี พ.ศ. 2519 เป็นวัตถุมงคลประเภทเหรียญอีกรุ่นหนึ่งของท่านที่มีประสบการณ์
ด้านคงกระพันและเมตตามหานิยมและ เป็นที่แสวงหาของบรรดาลูกศิษย์คู่มากับเหรียญหันข้างรุ่นแรกของท่านที่ออกปี17 แต่เหรียญหันข้างราคาไปไกล หลักพันกลางๆไปแล้วครับ
เก็บก่อนแพงครับ






ขอจองครับ



1339.ปลากัดรุ่นแรก หรือปลากัด "เรียกลาภ" หลวงพ่อน่วม วัดโพธิ์ศรีเจริญ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ปี43 สุดยอดเครื่องรางแห่งยุค หากกล่าวถึงความขลังเครื่องรางปลายุคเก่าต้องกล่าวถึง
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ถ้ายุคปัจจุบันต้องหลวงพ่อน่วม เป็นที่โด่งดัง ขอได้ดังหวัง ปลากัดรุ่นแรกท่านหายาก สร้างน้อย นิยมมากครับ เปิดแบ่งปัน
เปิดบูชา 1500-

ประวัติหลวงปู่น่วม นาถสีโล วัดโพธิ์ศรีเจริญ ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี




หลวงปู่น่วม นาถสีโล ท่านได้กำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ ปีจอ พ.ศ. 2464 ที่หมู่บ้านตาป้อม ต.บ้านไร่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนประตูสาร อ.เมือง จ.สุพรรณฯ
และได้ศึกษาอักษรขอมควบคู่ไปด้วยโดยได้รับการสอนจากหลวงพ่อก๋ำ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากในขณะนั้น
เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยมีหลวงพ่อไหวหรือพระเมธีธรรมสารเป็นพระอุปัชฌาย์
 เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและคาถาอาคมต่างๆ จากพระอาจารย์โต ปุญญสิริ ซึ่งเป็นยอกเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงอีกท่านหนึ่งในสมัยนั้น
(พระอาจารย์โต ปุญญสิริ ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ เช่น หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิรุณ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
เป็นต้น) หลังจากบวชได้ 2 พรรษา ท่านก็ต้องลาสิกขาบทออกมาใช้ชีวิตเช่นฆราวาสทั่วไป หลังจากนั้นมาประมาณปี พ.ศ. 2520 ท่านมีอาการเจ็บป่วยและได้พยายามรักษาตัว
อยู่หลายแห่งแต่ไม่หาย จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานบนบวชปรากฏเกิดเหตุอัศจรรย์อาการเจ็บป่วยของท่านหายเป็นปลิดทิ้ง ท่านจึงต้องบวชเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการบวชไม่สึกอีกเลย

หลวงปู่น่วมฯ ได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและมีคนเคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก การจะเรียนกับหลวงพ่อโตนั้นท่านมีกฏอยู่ว่าห้ามรับประทาน
อาหารที่เป็นแป้งทุกชนิด ไม่ว่าข้าว หัวเผือกหรือหัวมัน ขนมปัง ผลไม้อย่างมะม่วง ฝรั่ง ก็ห้าม ฉันได้แต่ผักและใบไม้และผลไม้บางชนิดเท่านั้น แม่กระทั่งเนื้อสัตว์ก็งดเช่นกัน
จะต้องปฏิบัติให้ได้ครบเป็นเวลา 4 ปี หลวงพ่อโตท่านจึงจะถ่ายทอดวิชาให้
ในการศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อโต หลวงพ่อน่วมต้องฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน และกสิณหมวดต่างๆ อีกทั้งต้องจดจำพระคาถาและต้องศึกษาเล่าเรียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ จนช่ำชอง การฝึกวิชาต่างๆ นี้ใช้เวลาหลายปีจึงสำเร็จ วิชาต่างๆ ที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาเช่นการทำปลัดขิกซึ่งเป็นวิชาสายหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ซึ่งหลวงพ่อโตท่านสำเร็จ การลงนะสำเร็จมหาเมตตาหลวงและวิชาปลากัดเรียกลาภ ซึ่งหลวงพ่อโตท่านมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง





วิชานะมหาสำเร็จ
การลงวิชานะมหาสำเร็จ คล้ายกับการลงนะหน้าทอง แต่การลงตัวอักขระและพระคาถาไม่เหมือนกัน หลวงปู่น่วมไม่เคยสอนใคร เพราะเคยให้สัจจะกับครูบาอาจารย์ไว้เพราะเป็นวิชาที่ศักดิ์สิทธิ์และเล้นรับและจะเห็นผลได้ไม่เกิน 7 วัน
การลงวิชานะมหาสำเร็จ ท่านถือเป็นการเสริมดวงเสริมบารมีและเป็นการกันและแก้อาถรรพ์ร้ายที่คอยเป็นอุปสรรคและปัญหาชีวิตทั้งเรื่องการงานและการเงิน ในขณะที่ท่านลงนะมหาสำเร็จนั้น ให้ท่านที่ลงทำใจให้เป็นสมาธิและตั้งจิตอธิษฐานในเรื่องที่ตัวเองต้องการปรารถนา หมั่นทำบุญให้ทานรักษาศีล สิ่งที่อธิษฐานจะเห็นผลในเร็ววัน

วิชาปลากัดเรียกลาภ

เรื่องวิชาการทำปลากัดของท่านถือเป็นเอกลักษณ์ แปลก พิสดารและมหัศจรรย์ คนโบราณท่านว่าปลากัดนั้นเป็นปลานักสู้ สู้ไม่ถอย สู้จนตาย และยังมีเสน่ห์มีสีสันในตัวเอง
วิชาการทำปลากัดนี้ท่านเอาสูตรการทำปลักขิกของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบมาทำ และเสกด้วยพระคาถาทางโชคลาภกำกับเข้าไป ลูกศิษย์รุ่นเก่าๆ เล่าว่าท่านเสกปลากัดจนว่ายน้ำได้
 เหมือนหลวงพ่ออี๋ท่านเสกปลัดขิกจนดิ้นได้ (เดิมทำเป็นรูปปลัดขิกแต่ไม่สะดวกแก่การพกพาของผู้หญิง) ปลากัดของหลวงปู่น่วมจึงมีอิทธิฤทธิ์มากจริง ๆ แม้จะตัวเล็ก
เมื่อจับปลากัดของท่านจะรู้ซึ้งถึงพลังของหลวงปู่ที่ปลุกเสกนั้นเข้มขลังมาก มีอานุภาพมาก ผู้รู้บางท่านกล่าวว่าปลากัดของท่านมีรัศมีสีเขียวสว่างไสวมีพลังแต่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปัจจัตตัง แต่ที่รู้แน่ๆ คือประสบการณ์ของผู้ใช้บอกว่า ปลากัดของท่านมีชีวิตนะเดือดร้อนอะไรหรือต้องการอะไรขอให้บอกกล่าวให้ปลากัดช่วย เขาจะช่วยเราได้ อย่างเช่นกรณีของคนตกงานมีปัญหาในที่ทำงาน ได้บอกกล่าวกับปลากัดและครูบาอาจารย์ คนตกงานก็ได้งานทำ คนที่มีปัญาหากับที่ทำงานก็ผ่านพ้นไปได้ ก็เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริงที่เกิดขึ้นแล้วหลายราย
ลูกศิษย์ของหลวงพ่อบางคนทำกิจการร้านอาหาร ทำการค้าขายไม่ดี ก็เช่าบูชาปลากัดไปบูชา ไปแขวนไว้ที่ร้านค้า ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่บูชาปลากัดมาและบอกกล่าวให้ช่วยค้าช่วยขายช่วยเรียกลูกค้าเดี๋ยวนี้ปรากฏว่าขายของดีขึ้นมากกว่าเดิม ลูกค้ามีเพิ่มมากขึ้น กำไรก็มากขึ้น
มีเด็กๆ ย่านนั้นอายุประมาณ 2-3 ขวบ บ้านอยู่ใกล้แม่น้ำตกน้ำแล้วไม่จมกลับลอยน้ำอย่างน่าอัศจรรย์และช่วยชีวิตไว้ได้ ในตัวเด็กนั้นแขวนปลากัดของหลวงปู่อยู่ตัวเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ปลากัดของหลวงปู่น่วม ยังใช้ทำน้ำมนต์ได้อีกด้วย โดยนำปลากัดเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ใส่ในภาชนะทำน้ำมนต์แล้วจุดธูปบูชาพระรัตนตรัยและบอกกล่าวแก่ครูบาอาจารย์มีหลวงพ่อโต หลวงพ่ออี๋ หลวงปู่น่วม และปลากัด ขอทำน้ำมนต์ไปเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือประพรมสินค้าให้ขายดี ฯลฯ ก็จะสัมฤทธิ์ผลเห็นทันตา


พระคาถาบูชาปลากัด
(นะโม 3 จบ) “ทุราทุรัง กัณหะเณหะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ นะชาลีติ ประสิทธิเม สวาหะ สวาโหม









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 01, 2020, 04:25:16 PM โดย thesun »




 

ติดต่อผู้ดูแลเว็บ หรือ สนใจลงโฆษณา โทร ๐๘๖๒๒๒๐๐๕๕

อีเบย์ อุดรธานี ร่ม รับนำเข้าสินค้าจากจีน power bank กระบอกน้ำ ของพรีเมี่ยม แฟลชไดร์ฟ plc mitsubishi ปากกา taobao เฟอร์นิเจอร์ แหวนเพชร servo motor mitsubishi