16
เช่าพระ ประมูลพระ / Re: [Thesun]พระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป
« เมื่อ: มกราคม 25, 2024, 12:58:58 AM »
1586.ขอเปิดเหรียญยอดนิยมสาย อาจารย์เทพย์ สาริกาบุตร เหรียญ "พุทธนิมิตร" อาจารย์เทพย์ สาริกาบุตร ปี2521 ท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลานาน และได้จัดพิธีพุทธาภิเษกที่วัดตะเคียน(มหาพฤฒาราม) หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะองค์ และพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูปร่วมปลุกเสก เนื้อทองแดงจัดสร้าง 2000 เหรียญ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5 ซ.ม.
เนื้อหาของเหรียญ เป็นทองแดงผสมด้วยชนวนศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่อาจารย์เทพ ได้ไปเป็นเจ้าพิธีต่างๆ ซึ่งท่านเก็บสะสมไว้ แล้วนำมาหล่อหลอมขึ้นใหม่ แต่ในสายตาของนักนิยมสะสมพระเครื่องย่อมทราบดีว่า นี่เนื้อหาแทบจะเทียบชั้นนวะโลหะแล้ว ที่เห็นเป็นริ้วเนื้อดำนั้น ล้วนเป็นชนวนนวะชั้นดีทั้งสิ้น เรียกว่าไม่เสกยังขลังเลยครับ จัดเป็นพระเครื่องยอดนิยมอันดับต้นๆที่อาจารย์เทพได้ฝากไว้ในผืนแผ่นดินนี้ และเป็นที่ต้องการของเหล่าลูกศิษย์ เหรียญนี้ใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ได้ผลอย่างดีครอบจักรวาล โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเวทมนต์คาถาแต่อย่างใดทั้งสิ้น มีผู้ใช้ติดตัวและบังเกิดผลเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีกันมากหน้า รับประกันพระแท้ตลอดชีพ สภาพสวยเดิมไม่ผ่านการใช้แกะออกจากเลี่ยมพลาสติกมาเลยครับ เปิดบูชาแบ่งปัน 6500- (สมัยก่อนเหรียญสภาพนี้ต้องมีหลักหมื่นขึ้นครับ อยู่มือเซียนใหญ่ เพจใหญ่แพงเลยครับแบบนี้)
อาจารย์เทพ สาริกบุตร เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2462 และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2536 สิริรวมอายุ 74 ปี ท่านได้ศึกษาเวทยศาสตร์และโหราศาสตร์มาอย่างเอกอุ ทั้งจากญาติผู้ใหญ่ที่สืบสายพุทธาคมและโหราศาสตร์ กับเกจิอาจารย์ และปรมาจารย์ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันดี อาทิ สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่สี วัดมณีชลขันธ์ หลวงปู่ผาด และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว โดยเฉพาะเจ้าคุณศรี(สนธ์) วัดสุทัศน์ ที่นับได้ว่าเป็นศิษย์รักของท่านเจ้าคุณศรี(สนธ์)เลยทีเดียว นอกจากนั้นท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากสำนักวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา จึงเป็นเหตุให้ได้พบปะแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับ หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช หลวงปู่อั้น วัดพระญาติการาม และยังได้แลกเปลี่ยนวิชา กับหลวงปู่รอด วัดวังน้ำวน และที่สำคัญคือท่านเป็นสหธรรมิกกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะองค์ ซึ่งได้ร่วมปลุกเสกเหรียญพุทธนิมิต และเหรียญรายณ์แปลงรูปนี้ด้วย
อาจารย์เทพเชียวชาญในพิธีกรรมและฤกษ์ยามมาก จึงได้รับเชิญเป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้าง และกำหนดฤกษ์ยาม ในการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆมากมาย ซึ่งล้วนแต่โด่งดังข้ามฟ้าข้ามภพ อาทิ เป็นเจ้าพิธี พิธีจักรพรรดิพุทธาภิเษก ปี 2515 พิษณุโลก (นเรศวร) พิธีกริ่งจอมสุรินทร์ พิธีกริ่งเอกาทศรถ พิธีกริ่งจิตคุตโต(หลวงปู่ผาง) แต่ที่น้อยคนจะนึกถึง ก็คือการให้ฤกษ์จุดเทียนชัยของหลวงปู่ทิม ชุดพระกริ่งชินบัญชร อันลือลั่นสนั่นวงการพุทธศาสตร์ นอกจากนั้นก่อนหน้านี้ ท่านก็ได้สร้างพระเครื่องบางอย่างบางชนิด ทั้งเมื่อบวชอยู่ที่วัดปรินายก ก็โด่งดังเป็นนิรันดร์มาจนบัดนี้ อาทิ กริ่งวัดปรินายก กริ่งปวเรศน้อย วัดช่องลม กริ่งนวโกฎิ
เหรียญพุทธนิมิต ที่จัดสร้างโดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
เหรียญพุทธนิมิต ได้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2521 พุทธาภิเษกในปี 2522 จำนวนการจัดสร้างเพียง 2 พันเหรียญ ท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลานาน และได้จัดพิธีพุทธาภิเษกที่วัดตะเคียน(มหาพฤฒาราม) โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะองค์ ร่วมปลุกเสก เนื้อหาของเหรียญ เป็นทองแดงผสมด้วยชนวนศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่อาจารย์เทพ ได้ไปเป็นเจ้าพิธีต่างๆ ซึ่งท่านเก็บสะสมไว้ แล้วนำมาหล่อหลอมขึ้นใหม่ หากมองเพียงผิวเผิน บางท่านอาจจะเห็นว่ากระดำกระด่าง แต่ในสายตาของนักนิยมสะสมพระเครื่องย่อมทราบดีว่า นี่ เนื้อหาแทบจะเทียบชั้นนวะโลหะแล้ว ที่เห็นเป็นริ้วเนื้อดำนั้น ล้วนเป็นชนวนนวะชั้นดีทั้งสิ้น ความจัดจ้านของเนื้อหาจึงปรากฎ และแล้วสรรพศาสตร์ความรู้แห่งพระเวทย์มนตรา ดาราศาสตร์ ฤกษ์ผานาทีที่อุดม ก็ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นองค์พระ “พุทธนิมิต” อันน่าอัศจรรย์ ด้วยเพียงกระดูกยันต์และอักขระเลขยันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ จึ่งกลายเป็นองค์พระปฎิมาดังปรากฏเป็นเจ้าแรก แล้วบรรจงประดับด้วยพระเวทย์ที่นับถือกันมาแต่โบราณ กล่าวคือ
ด้านหน้าเหรียญ บรรจงล้อมรอบองค์พระพุทธนิมิตด้วย ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า(อิติปิโสเรือนเตี้ย) ขอบเหรียญล้อมรอบด้วยยันต์ นะปถมังพินธุ ประดุจครอบแก้ว กำแพงแก้ว กอบกั้น ประดุจดังผู้อาราธนาใช้ ถูกครอบไว้ด้วยมนตราอันศักดิ์สิทธิ์ แผ่ฤทธิ์แห่งความเมตตามหานิยม อุดมลาภยศสรรเสริญ เจริญด้วยอายุวรรณะสุขะพละ และธนสารสมบัติ มีความสงบร่มเย็นเป็นนิรันดร์
ด้านหลังเหรียญ บรรจงประจุด้วยยันต์ อสิสติ (ยันต์คู่ชีวิต)อันเป็นยันต์แต่โบราณกาล ที่มีค่าควรเมือง กล่าวกันว่า เพียงลงยันต์นี้เสร็จสิ้น แม้ยังมิได้ปลุกเสก ยิงเอาเถิดก็ไม่เกิดผล หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิต เพชรบูรณ์ ผู้สืบทอดยันต์นี้จากปรมาจารย์รุ่นเก่าในสายบูรพาจารย์ของท่าน ได้ลงตะกรุดด้วยยันต์นี้ แล้วขนานนามตะกรุดว่า “ตะกรุดคู่ชีวิต” หลวงพ่ออาคมได้ออกให้บูชาในราคาดอกละ 5 พันบาท พร้อมทั้งประกาศว่า ท่านผู้ใดที่ได้เช่าหา ตะกรุดคู่ชีวิต ไป แล้วประสบอุบัติเหตุอันใด มีเหตุให้ต้องเสียชีวิตไป(ตายโหง) หลวงพ่อจะรับเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้โดยตลอด เมื่อพิจารณาโดยละเอียดแล้ว เหรียญพุทธนิมิต แม้จะไม่ใหญ่มาก มีขนาดประมาณ 3.5 ซม. กำลังงาม แต่ท่านทราบไหม ว่าบรรจุด้วยอักขระเลขยันต์อันศักดิ์สิทธิ์ถึงประมาณ 300 ตัว รวมหน้าหลัง ที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งก็คือ บางท่านถือว่าเป็นเครื่องราง อย่างหนึ่ง เพราะแม้จะมองเป็นเหรียญพระพุทธ แต่ก็มีข้ออ้างว่า องค์พระพุทธที่ปรากฏให้เห็นนั้น รังสรรค์ขึ้นจากอักขระเลขยันต์ทั้งสิ้น จึงสมกับคำที่ว่า “พุทธนิมิต” เป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นคาถาที่จะอาราธนาเหรียญนี้ จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะใช้คาถาที่ปรากฏในตัวเหรียญ เป็นการปลุกเหรียญไปในตัว
อิ ติ ปิ โส วิ เส เส อิ - อิ เส เส พุท ธะ นา เม อิ - อิ เม นา พุท ธะ ตัง โส อิ - อิ โส ตัง พุท ธะ ปิ ติ อิ (มงกุฎพระพุทธเจ้า)
หรียญนี้ใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ได้ผลอย่างดี โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเวทมนต์คาถาแต่อย่างใดทั้งสิ้น มีผู้ใช้ติดตัวและบังเกิดผลเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีกันมากหน้า
เนื้อหาของเหรียญ เป็นทองแดงผสมด้วยชนวนศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่อาจารย์เทพ ได้ไปเป็นเจ้าพิธีต่างๆ ซึ่งท่านเก็บสะสมไว้ แล้วนำมาหล่อหลอมขึ้นใหม่ แต่ในสายตาของนักนิยมสะสมพระเครื่องย่อมทราบดีว่า นี่เนื้อหาแทบจะเทียบชั้นนวะโลหะแล้ว ที่เห็นเป็นริ้วเนื้อดำนั้น ล้วนเป็นชนวนนวะชั้นดีทั้งสิ้น เรียกว่าไม่เสกยังขลังเลยครับ จัดเป็นพระเครื่องยอดนิยมอันดับต้นๆที่อาจารย์เทพได้ฝากไว้ในผืนแผ่นดินนี้ และเป็นที่ต้องการของเหล่าลูกศิษย์ เหรียญนี้ใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ได้ผลอย่างดีครอบจักรวาล โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเวทมนต์คาถาแต่อย่างใดทั้งสิ้น มีผู้ใช้ติดตัวและบังเกิดผลเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีกันมากหน้า รับประกันพระแท้ตลอดชีพ สภาพสวยเดิมไม่ผ่านการใช้แกะออกจากเลี่ยมพลาสติกมาเลยครับ เปิดบูชาแบ่งปัน 6500- (สมัยก่อนเหรียญสภาพนี้ต้องมีหลักหมื่นขึ้นครับ อยู่มือเซียนใหญ่ เพจใหญ่แพงเลยครับแบบนี้)
อาจารย์เทพ สาริกบุตร เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2462 และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2536 สิริรวมอายุ 74 ปี ท่านได้ศึกษาเวทยศาสตร์และโหราศาสตร์มาอย่างเอกอุ ทั้งจากญาติผู้ใหญ่ที่สืบสายพุทธาคมและโหราศาสตร์ กับเกจิอาจารย์ และปรมาจารย์ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันดี อาทิ สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่สี วัดมณีชลขันธ์ หลวงปู่ผาด และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว โดยเฉพาะเจ้าคุณศรี(สนธ์) วัดสุทัศน์ ที่นับได้ว่าเป็นศิษย์รักของท่านเจ้าคุณศรี(สนธ์)เลยทีเดียว นอกจากนั้นท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากสำนักวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา จึงเป็นเหตุให้ได้พบปะแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับ หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช หลวงปู่อั้น วัดพระญาติการาม และยังได้แลกเปลี่ยนวิชา กับหลวงปู่รอด วัดวังน้ำวน และที่สำคัญคือท่านเป็นสหธรรมิกกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะองค์ ซึ่งได้ร่วมปลุกเสกเหรียญพุทธนิมิต และเหรียญรายณ์แปลงรูปนี้ด้วย
อาจารย์เทพเชียวชาญในพิธีกรรมและฤกษ์ยามมาก จึงได้รับเชิญเป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้าง และกำหนดฤกษ์ยาม ในการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆมากมาย ซึ่งล้วนแต่โด่งดังข้ามฟ้าข้ามภพ อาทิ เป็นเจ้าพิธี พิธีจักรพรรดิพุทธาภิเษก ปี 2515 พิษณุโลก (นเรศวร) พิธีกริ่งจอมสุรินทร์ พิธีกริ่งเอกาทศรถ พิธีกริ่งจิตคุตโต(หลวงปู่ผาง) แต่ที่น้อยคนจะนึกถึง ก็คือการให้ฤกษ์จุดเทียนชัยของหลวงปู่ทิม ชุดพระกริ่งชินบัญชร อันลือลั่นสนั่นวงการพุทธศาสตร์ นอกจากนั้นก่อนหน้านี้ ท่านก็ได้สร้างพระเครื่องบางอย่างบางชนิด ทั้งเมื่อบวชอยู่ที่วัดปรินายก ก็โด่งดังเป็นนิรันดร์มาจนบัดนี้ อาทิ กริ่งวัดปรินายก กริ่งปวเรศน้อย วัดช่องลม กริ่งนวโกฎิ
เหรียญพุทธนิมิต ที่จัดสร้างโดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
เหรียญพุทธนิมิต ได้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2521 พุทธาภิเษกในปี 2522 จำนวนการจัดสร้างเพียง 2 พันเหรียญ ท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลานาน และได้จัดพิธีพุทธาภิเษกที่วัดตะเคียน(มหาพฤฒาราม) โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะองค์ ร่วมปลุกเสก เนื้อหาของเหรียญ เป็นทองแดงผสมด้วยชนวนศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่อาจารย์เทพ ได้ไปเป็นเจ้าพิธีต่างๆ ซึ่งท่านเก็บสะสมไว้ แล้วนำมาหล่อหลอมขึ้นใหม่ หากมองเพียงผิวเผิน บางท่านอาจจะเห็นว่ากระดำกระด่าง แต่ในสายตาของนักนิยมสะสมพระเครื่องย่อมทราบดีว่า นี่ เนื้อหาแทบจะเทียบชั้นนวะโลหะแล้ว ที่เห็นเป็นริ้วเนื้อดำนั้น ล้วนเป็นชนวนนวะชั้นดีทั้งสิ้น ความจัดจ้านของเนื้อหาจึงปรากฎ และแล้วสรรพศาสตร์ความรู้แห่งพระเวทย์มนตรา ดาราศาสตร์ ฤกษ์ผานาทีที่อุดม ก็ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นองค์พระ “พุทธนิมิต” อันน่าอัศจรรย์ ด้วยเพียงกระดูกยันต์และอักขระเลขยันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ จึ่งกลายเป็นองค์พระปฎิมาดังปรากฏเป็นเจ้าแรก แล้วบรรจงประดับด้วยพระเวทย์ที่นับถือกันมาแต่โบราณ กล่าวคือ
ด้านหน้าเหรียญ บรรจงล้อมรอบองค์พระพุทธนิมิตด้วย ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า(อิติปิโสเรือนเตี้ย) ขอบเหรียญล้อมรอบด้วยยันต์ นะปถมังพินธุ ประดุจครอบแก้ว กำแพงแก้ว กอบกั้น ประดุจดังผู้อาราธนาใช้ ถูกครอบไว้ด้วยมนตราอันศักดิ์สิทธิ์ แผ่ฤทธิ์แห่งความเมตตามหานิยม อุดมลาภยศสรรเสริญ เจริญด้วยอายุวรรณะสุขะพละ และธนสารสมบัติ มีความสงบร่มเย็นเป็นนิรันดร์
ด้านหลังเหรียญ บรรจงประจุด้วยยันต์ อสิสติ (ยันต์คู่ชีวิต)อันเป็นยันต์แต่โบราณกาล ที่มีค่าควรเมือง กล่าวกันว่า เพียงลงยันต์นี้เสร็จสิ้น แม้ยังมิได้ปลุกเสก ยิงเอาเถิดก็ไม่เกิดผล หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิต เพชรบูรณ์ ผู้สืบทอดยันต์นี้จากปรมาจารย์รุ่นเก่าในสายบูรพาจารย์ของท่าน ได้ลงตะกรุดด้วยยันต์นี้ แล้วขนานนามตะกรุดว่า “ตะกรุดคู่ชีวิต” หลวงพ่ออาคมได้ออกให้บูชาในราคาดอกละ 5 พันบาท พร้อมทั้งประกาศว่า ท่านผู้ใดที่ได้เช่าหา ตะกรุดคู่ชีวิต ไป แล้วประสบอุบัติเหตุอันใด มีเหตุให้ต้องเสียชีวิตไป(ตายโหง) หลวงพ่อจะรับเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้โดยตลอด เมื่อพิจารณาโดยละเอียดแล้ว เหรียญพุทธนิมิต แม้จะไม่ใหญ่มาก มีขนาดประมาณ 3.5 ซม. กำลังงาม แต่ท่านทราบไหม ว่าบรรจุด้วยอักขระเลขยันต์อันศักดิ์สิทธิ์ถึงประมาณ 300 ตัว รวมหน้าหลัง ที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งก็คือ บางท่านถือว่าเป็นเครื่องราง อย่างหนึ่ง เพราะแม้จะมองเป็นเหรียญพระพุทธ แต่ก็มีข้ออ้างว่า องค์พระพุทธที่ปรากฏให้เห็นนั้น รังสรรค์ขึ้นจากอักขระเลขยันต์ทั้งสิ้น จึงสมกับคำที่ว่า “พุทธนิมิต” เป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นคาถาที่จะอาราธนาเหรียญนี้ จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะใช้คาถาที่ปรากฏในตัวเหรียญ เป็นการปลุกเหรียญไปในตัว
อิ ติ ปิ โส วิ เส เส อิ - อิ เส เส พุท ธะ นา เม อิ - อิ เม นา พุท ธะ ตัง โส อิ - อิ โส ตัง พุท ธะ ปิ ติ อิ (มงกุฎพระพุทธเจ้า)
หรียญนี้ใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ได้ผลอย่างดี โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเวทมนต์คาถาแต่อย่างใดทั้งสิ้น มีผู้ใช้ติดตัวและบังเกิดผลเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีกันมากหน้า