This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Messages - porpek
21
« เมื่อ: ธันวาคม 22, 2022, 10:19:51 AM »
พระขุนแผนเสด็จกลับ ปี 2511 หลังดาบฟ้าฟื้นไขว้ติดเหล็กไหล พระรอดเสด็จกลับติดเหล็กไหล มวลสารว่านยา 108 ชนิด ผงเลขยันต์ตำราวัดเขาอ้อ 108 ดวง อาจารย์ชุม ไชยคีรีพิธีแรกที่วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พระอาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
พิธีวันที่ 12 มีนาคม 2510 ปลุกเศกอยู่ 33 วัน แล้วเก็บไว้ไปเข้าพิธีที่วัดถ้ำเขาเงินในปีต่อมา กล่าวถึงพิธีพุทธาภิเษกที่วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2511 เป็นพิธีใหญ่ที่รวมศิษย์สายเขาอ้อร่วมกันปลุกเสก ขุนพันธ์ฯเป็นประธานจัดสร้าง อ.ชุมและหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ร่วมกันสร้างเพื่อแจกจ่ายทหาร ตำรวจ ประชาชนที่ศรัทธา พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง, พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ, หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร หลังสวน จ.ชุมพร, หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน จ.ชุมพร, อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุง ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ
เหล็กไหล...จากบทความของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี
"พระฤาษีปลัยโกฎ ได้พรรณนาไว้ในพระคัมภีร์โบราณว่า หากผู้ใดพบเหล็กไหลแม้แต่เท่าเมล็ดข้าวโพด หรือเท่าเมล็ดพริกไทย ก็นับได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีบุญญาอภินิหาร เพราะเป็นธาตุนิพพพานของธาตุทั้งหลาย ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตน และเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง
ดังนั้นคุณค่าอันนับเป็นเอนกประการของเหล็กไหลนั้น จึงทำให้มนุษย์เรารู้สืบทอดติดต่อกันมาแต่ครั้งบรรพกาลแล้ว ต่างก็ได้พยายามสืบเสาะหามาไว้เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ด้วยเหตุที่เป็นธาตุสูงสุดของธาตุทั้งปวง เหล็กไหลจึงมักจะซ่อนหลบเร้นตนเองไม่ให้มนุษย์ได้เจอะเจอง่ายๆนัก เว้นแต่จะเป็นผู้มีบุญญาอภินิหารได้เจอะเจอโดยบังเอิญ หรือเป็นผู้ที่ทรงวิทยาคมแรงกล้าเท่านั้นจึงจะนำเหล็กไหลมาไว้บูชาแก่ตนเองได้
บุราณจารย์แต่ครั้งก่อนท่านกล่าวไว้หากจะให้เกิดประโยชน์แก่ตนไซร้ ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด หรือ เท่าเมล็ดพริกไทย อมไว้ในปากแล้วกลืนน้ำลายตนเองเป็นประจำทุกวัน ทำพิธีใช้อาคมเรียกเข้าไว้ในตัว ร่างกายจะคงทนแก่ปืนผาหน้าไม้ กฤช หอกทองแดง ขวากหนาม สัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวงาและมีแรงฟัดขยี้ อาจต่อสู้กับคนหมู่มากและมีแรงมาก แม้จับตัวเราก็ไม่ติด แหวกวงล้อมและกรงขังขื่อคาไปได้ ทั้งเป็นยาอายุวัฒนะทำให้อายุยืน
อนึ่ง ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด แช่น้ำผึ้งรวงกินเป็นประจำทุกเช้าเย็นจนครบ 7 วัน คงเนื้อคงหนัง 3 เดือนคงกระดูก คงถึงลูกที่เกิดมา 1 ปี หมดโรคภัยนานา 3 ปี เกิดปัญญาเรียนรู้ธรรมจบพระไตรปิฎก 7 ปี กายเบาดังสำลี หมดกิเลส (คัดจากสมุดข่อย 1,000 กว่าปี)
อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ค้นพบเหล็กไหลในป่าลึกทางภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2509 ทำพิธีตัดเหล็กไหลออกเป็นชิ้นเล็กเท่าเมล็ดพริกไทยถึงเมล็ดมะขามแห้ง ออกแจกจ่ายให้คณะศิษย์ทำหัวแหวนไว้เป็นเครื่องรางป้องกันตัว ส่วนหนึ่งฝังไว้หลังพระเนื้อว่านยา 500 กว่าชนิด ทรงขุนแผนออกศึก ทรงรูปอาจารย์วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ฯลฯ
22
« เมื่อ: ธันวาคม 21, 2022, 03:00:30 PM »
ผ้ารอยมือรอยเท้าครูบาขาวปีมีจารดินสอ วัดพระพุทธบาทผาหนาม จ.ลำพูนหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
ได้กล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองทีเดียวว่า
“ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม เคยเป็นช้างนาฬาคิริง
ซึ่งในอนาคตกาลจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า พระติสสสัมพุทธเจ้า"
23
« เมื่อ: ธันวาคม 16, 2022, 08:56:47 AM »
พระผงเกสรพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี ๒๕๐๓ ผู้สร้างพระผงเกสรพุทธสิหิงค์ ได้พยายามที่จะสร้างพระเครื่องชุดนี้ให้ดีที่สุด จึงได้ตระเตรียมจัดหาวัสดุมวลสารที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นมงคลหลายต่อหลายอย่างโดยเริ่มเตรียมการสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งมวลสารที่นำมาสร้างพระเครื่องนั้น ต้องใช้ความพยายามและอุตสาหะอย่างยิ่งยวดกว่าจะได้มาแต่ละสิ่ง แต่ทางคณะผู้จัดสร้างก็ได้ใช้ความพยายามหามาได้หลายอย่างเช่น ดินจากสังเวชนียสถานทั้งสี่แห่งจากประเทศอินเดีย ใบลานและสมุดข่อยที่จารึกพระธรรม คัมภีร์ พระพุทธมนต์ และตำราต่างๆที่ชำรุดแล้วใช้การไม่ได้ เอามาเผาและป่นให้ละเอียด ดอกไม้ธูปเทียนที่มีผู้นำไปกราบไหว้สักการะหลวงพ่อเกษม เพราะความเลื่อมใสศรัทธา ผงขี้ธูป ก้านธูป และดอกไม้แห้งที่หลวงพ่อเกษมท่านใช้จุดและบูชาขณะบำเพ็ญภาวนา ข้าวแห้งก้นบาตรของหลวงพ่อเกษมที่เหลือจากการฉันเอามาตากแห้งบดให้ละเอียด ผงพุทธคุณจากการนำเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกหลายวัด น้ำอ้อยเคี่ยว ยางไม้บางชนิด และที่สำคัญที่สุดก็คือ เส้นผมของหลวงพ่อเกษมที่ท่านได้ปลงผมไว้จำนวนหนึ่ง.
พระเครื่องที่พิมพ์ได้ทั้งหมด ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดหัวข่วง จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ โดยนิมนต์หลวงพ่อเกษม มาเป็นประธานในพิธีร่วมกับพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนืออีกหลายท่าน เมื่อเสร็จพิธีแล้วทางคณะผู้จัดสร้าง จึงได้นำเอาพระเครื่องออกให้ประชาชนทำบุญ เพื่อนำเอาปัจจัยมาบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุทางศาสนาในวัดหัวข่วง จนสำเร็จลุล่วงตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ในตอนแรกทุกประการ สมกับที่เป็นพระเครื่องที่จัดสร้างขึ้นโดยมีเจตนาดีเป็นการกุศลอย่างแท้จริง
จากนิตยสาร”เซียนพระ” ฉบับที่ ๑๑๘ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ คอลัมน์” พระผงเกสร พุทธสิหิงค์ หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง”โดย…ทักษิณ หน้าที่ ๑๔ ถึง หน้า ๑๕
25
« เมื่อ: ธันวาคม 13, 2022, 09:50:28 AM »
พระกริ่งไตรลักษณ์ ปี ๒๕๑๗ หลวงพ่อเกษม เขมโก หมายเลข ๙๖๔สร้างเพียงเนื้อนวะเนื้อเดียว จำนวนสร้าง ๑,๕๙๙ องค์
วัตถุประสงค์ สร้างโบสถ์วัดอินทร์ประชาราษฎร์ ปราจีนบุรี
หลวงพ่อเกษมเททองหล่อด้วยองค์ท่านเอง ที่สุสานไตรลักษณ์เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗
อธิษฐานจิต วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๑๗
29
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2022, 03:10:25 PM »
รูปภาพหลังจารอาจารย์ก๋งจาบ” ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม
ครูสอนพระกรรมฐานสำนักวัดประดู่ทรงธรรม
สหธรรมิกหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
30
« เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2022, 09:29:54 AM »
พระผงโสฬสมหาพรหม หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้ว นครพนมอาจารย์ประถมเล่าไว้ว่า ในเวลาที่รับผงวิเศษนั้นมือสั่นไปหมด เพราะทราบดีว่าผงวิเศษในบาตรนั้นวิเศษเพียงใด อาจารย์ประถมจึงได้สร้างพระท่าดอกแก้ว ถวายหลวงปู่สนธ์ผงโสฬสมหาพรหมหลวงปู่ศรีทัต วัดท่าอุเทน(ศิษย์เอกสำเร็จลุน)
การลงผงโสฬสมหาพรหมนั้น ต้องลงอักขระด้วยตัวธรรมเป็นกลยันต์ โดยถอดตัวต้นจนถึงตัวสุดท้าย ผูกสลับเป็นกลยันต์ 16 มุม ในแต่ละมุมแบ่งออกเป็น 16 ชั้น ใน แต่ละชั้นลงอักขระ 16 ช่อง อักขระแต่ละตัวแต่ละช่อง ต้องลบถมเรียกสูตร 16 คาบ ผูกอธิษฐาน เสกยันต์โสฬสมหาพรหมครบแล้วทั้ง 16 สูตรถือเป็น 1 ครั้ง และลงในระบบเดียวกันนี้ 16 ครั้ง แล้วรวมที่ลบมาอธิษฐานจิตปลุกเสกตามฤกษ์บน-ล่าง ตามตำราบังคับ เสร็จแล้วให้เอาผงวิเศษ ลูบลงในกระดานลงผง หากบังเกิดอักขระขอมธรรมของยันต์โสฬสมหาพรหมบนกระดานลงผงโดย ไม่ได้เขียน โดยใช้เพียงผงวิเศษลูบให้สำเร็จเป็นยันต์ ถือว่าสำเร็จ หากลูบแล้วไม่ปรากฏยันต์ ในกระดานลงผง จะต้องเริ่มต้นลงใหม่ตั้งแต่ต้น
ผู้ที่ลงผงวิเศษได้ครบสูตรโสฬสมหาพรหมได้ สำเร็จ จะดลบันดาลให้เทพทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 บาดาล 22 ชั้นพรหม ภะคะวะพรหม จน ถึง พรหมสุทธาวาส ทุกพระองค์ลงและขึ้นมาอนุโมทนาอำนวยพร
ผงวิเศษนี้มีอานุภาพอันทรงความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ผู้ที่บูชาผงวิเศษนี้จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ลาภ สักการะ วาสนาบารมี บริบูรณ์ไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ปัญญา บารมีสมบัติ ปรารถนาสิ่งใด จักสำเร็จดังปรารถนา
ผงโสฬสมหาพรหมที่หลวงปู่ศรีทัตสร้างขึ้นนี้ ท่านได้นำไปสร้างพระแจกที่วัดท่าดอกแก้ว ท่านสร้างไว้ไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเหลือท่านเก็บใส่บาตร ตกทอดมาถึงหลวงปู่สนธ์ ท่านก็ เก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้อะไร ต่อมาท่านได้สร้างผง นวโลกุตระ ขึ้น ท่านจึงได้สร้างพระปิดตาแจก ชาวบ้าน และได้นำผงทั้ง 2 ชนิดมาใส่รวมกัน
อาจารย์ประถมเป็นศิษย์หลวงปู่เฮี้ยง และมีความชำนาญในการสร้างพระ เพราะได้ช่วยหลวงปู่เฮี้ยงสร้างพระตั้งแต่ยุคแรกๆ ของวัดป่า ( พศ.2484 ) และเมื่ออาจารย์ประถมมาถึงท่าอุเทน ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงปู่สนธ์ ชาวบ้านนับถือมาก และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาจารย์ประถมนับถือ คือ มีพลทหารนายหนึ่ง อาจารย์ประถมได้ขอตัวมาช่วยงานของสหกรณ์ ได้มีเรื่องกับ ชาวบ้านและโดนยิงเข้าไป 3 ชุด กระเด็นตกน้ำ แต่ไม่ตาย เพราไม่มีระคายผิวหนัง เสื้อผ้าขาดกระจุย ทั้งตัวมีตะกรุดดอกเดียว คือ ตะกรุดเก้าแปเก้าย้อ ของหลวงปู่สนธ์
ด้วยเหตุนี้อาจารย์ ประถมจึงไปเสาะหาท่านถึงวัดและศึกษาวิชาการจากท่าน และเนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการสร้างพระ ท่านจึงคิดจะสร้างพระถวายหลวงปู่สนธ์ ในราวปลายปี 2493 จึงเข้าเรียนหลวงปู่สนธ์และท่านก็อนุญาต และหลวงปู่สนธ์ก็ได้มอบผงวิเศษที่มีอยู่ในบาตรใหญ่นั้น ให้อาจารย์ประถมนำไปสร้างพระ